19 ธันวาคม 2549 22:55 น.
ทวารวดี
ทุกสิ่งในโลก...มนุษย์อยากเรียนรู้
เพื่อ..
เสพสุข หนีทุกข์ เป็นเช่นนี้อยู่ร่ำไป...
แต่....
สุขหรือทุกข์นี้..อยู่ที่ใจ
เพราะ..
ผู้รับสุขและทุกข์ ที่แท้แล้ว..คือใจที่มีกิเลส หาใช่ตัวเราไม่
อยากมีสุขมากกว่าทุกข์ จะทำเช่นไร
พึงทำบุญมากๆกว่าทำบาป
และ..
ถ้าจะมีสุขอย่างเดียว ต้องทำเช่นไร
พึงทำแต่บุญไม่ทำบาป
ถ้าเสพสุขนานๆแล้วจะเป็นเช่นไร
ก็จะเริ่มทุกข์จากน้อยไปหามาก
เพราะ...
ต้องการเสพสุขที่ละเอียดมากขึ้นๆ
นั่นคือ...
การสั่งสมกิเลส เช่นนั้น
สักวันหนึ่งก็จะเริ่มก่อกรรมทำบาป
เพราะ...
เสพสุขมากเกินไป
ขว้างวิบากไปรอไว้ในอนาคต
รอวันชดใช้ เช่นเดิม เหมือนเดิม ซ้ำๆซากๆ
เป็นมายาวนาน นานแสนนาน
พึงละการก่อกรรม
ยามเสวยกรรม ก็รู้ทุกข์ จักพบธรรม
ยามเสวยสุข จงมีสติรู้อยู่ว่า ไม่เที่ยง
มีได้ก็หมดได้.....
พึงอ่อนน้อมถ่อมตน สั่งสมบุญต่อไปอย่าได้ขาด
จน...ละกิเลสได้เบาบาง
ต่อไปนี้ทุกข์ก็ไม่เที่ยง สุขก็ไม่เที่ยง
ไม่ใช่เรา เป็นเพียงกิเลสเกาะเกี่ยวพัวพัน
พึงสลัดได้ ด้วยสติสัมปชัญญะ
มีโพธิปักขิยธรรม ๓๘ ประการ
เป็นเส้นทางปฎิบัติแห่งการหลุดพ้น
อธิษฐาน ข้ามภพชาติ เช่นนี้เรื่อยไป
อาจบรรลุสัจจธรรม สู่นิพพานได้เป็นแน่แท้..
แล...
จักสงบสุขตราบชั่วนิรันดร์ ....!!!!
.............................
13 ธันวาคม 2549 21:30 น.
ทวารวดี
อันดับที่ 15 อยากขึ้นสวรรค์ อ่านตรงนี้
มนุษย์ทุกผู้ทุกนามเกิดมา ย่อมหวังภพสวรรค์ เป็นภพถัดไป
เพียรสร้างความดี สะสมบุญ สะสมบารมี เพื่อความรู้สึกว่าดีกว่า เหนือกว่า
เริ่มตำหนิ ความชั่ว ความไม่ดีของผู้อื่น เป็นเช่นนั้น มากขึ้น บ่อยขึ้น จนรู้สึกว่า.....
โลกนี้ มีแต่สิ่งที่ไม่งดงาม ไม่เหมาะกับตน เพราะตนนั้นดีกว่า
แต่สิ่งที่เป็นการสะสมบุญ และ ความดีนั้น ไม่ได้ทำให้เรามีอิสระภาพในความคิด...
อิสระแห่งการอยู่ในโลก เพราะเรา ดีกว่า สะอาดกว่า ขาวกว่า....
สิ่งนี้จะเรียกว่าอะไร...กิเลสขั้นละเอียด ความมีตัวตน ความยึดมั่นถือมั่น นั่นเอง
แล้วจะต้องคิดเช่นไร.....
มี....ศีล....๕ เป็นบาตรฐาน
พึงเฝ้าดูกิเลสของเราเอง...ด้วย......สติ......
ความโกรธของเรา....
ความตระหนี่ของเรา....
ความไม่ซื่อสัตย์ของเรา...
ความยึดมั่นในความดีของเรา ว่าดีกว่า เหนือกว่า...
ความไม่ยึดมั่นในความร่ำรวยกว่า....
ความไม่ถือว่าหล่อกว่า สวยกว่า....
ความไม่ถือว่ามีตำแหน่งเหนือกว่า....
ไม่ถือว่าทำบุญมากกว่า....
ไม่ถือว่ากินดี อยู่ดีกว่า....
ไม่ถือว่าอยู่
บ้านหลังใหญ่กว่า.....
พึงบริจาคทาน....จนเป็นทานอันยิ่ง....
พึงช่วยเหลือเอื้อเฟื้อ ต่อผู้ต้องการความช่วยเหลือ ด้วยใจเมตตายิ่ง
ทำบุญด้วยความตั้งใจ ด้วยความละเอียด ละเมียด ละไม ตั้งแต่ต้นจนจบ
เหล่านั้น คือความอ่อนน้อมถ่อมตน.....
ละกิเลส ไม่สั่งสมตัวตนไปสู่การก่อกรรมในที่สุด.....
ที่เหลือคือการเจริญสติ เพื่อใช้ในนาทีสุดท้ายแห่งชีวิต...
ระลึกถึงคุณ พระพุทธ พระ ธรรม พระสงฆ์...ในจิตสุดท้ายแห่งมรณานุสติ...
จักได้สวรรค์สมบัติเป็นแน่แท้