13 สิงหาคม 2549 12:55 น.
ทวารวดี
อันดับที่ 6 รักที่ขับเคลื่อนโลก
ทัศนคติเกี่ยวกับความรักหรือครับ..
ความรักแรก..คือรักแห่งพ่อและแม่
วันนี้เป็นวันแม่ ผู้สร้างโลก ผู้ให้ ผู้อดทน
ผู้อบรมให้ความรู้
ผู้รอคอยให้ลูกที่เกิดมา สมบูรณ์แบบ
และมีความสุข
ความรักที่สอง
ความรักแห่งการมีคู่ นั่นคือคู่รัก
มนต์เสน่หาที่ปิดบังความไม่ดีทุกอย่าง
เพื่อการสร้างชีวิตใหม่
หอมหวาน สดใส งดงาม รัดรึง โหยหา ครอบครอง หึงหวง
เป็นธรรมดาของโลก
และ..ความรักเช่นนี้
ก็ขับเคลื่อนโลก ทำให้โลกหมุนไปอย่างมีสีสัน วิจิตร พิสดาร
ความรักที่สาม รักอย่างเมตตา เอื้อเฟื้อ
ไม่แบ่งชั้นวรรณะ ไม่แบ่งมีจน
ไม่แบ่งชาติศาสนา ไม่มีเงื่อนไขกับทุกๆคน
ทั้งสามรักก็ล้วนงดงามทั้งสิ้น
ถ้าอยากรู้ ก็..เข้าไปมีประสบการณ์กับรักเหล่านี้สิ ..อย่า..วิ่งหนี
การที่จะรู้จักความรักอย่างการมีคู่
ก็..รักอย่างคู่สิ
เข้าไปมีประสบการณ์กับความรักแบบนี้
สุขทุกข์ งดงาม โรแมนติค
น้ำต้มผักก็ยังหวาน
แต่...เมื่อเจ็บก็ปวดร้าวเจียนตาย
ถ้ากลัว..ก็..จะไม่เข้าใจความรักแบบนี้
น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง
*ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ *คือการบรรลุธรรมจนรู้แจ้ง ไม่มีทางอื่น
รักที่งดงาม น่าทึ่งและน่ายกย่องที่สุดในจักรวาล
*รักของพ่อและแม่ อรหันต์ของลูก*
ยิ่งใหญ่มิมีใดปรานเปรียบ ก็..มีลูกสิ แล้วจะเข้าใจ....
รักอย่างเมตตา งดงามเย็นสงบ
แผ่ไปสู่ทุกๆคนอย่างน่าชื่นชม ไม่มีข้อจำกัด
ไม่เร่าร้อนอีกต่อไป
มี..*แต่ให้ *
ไม่มีความคาดหวัง ชื่นชมยินดีไปกับความสุขของผู้อื่น
กรุณาช่วยเหลืออย่างไม่มีเงื่อนไข
การจะมีความรักแบบเมตตาต้องผ่านความรักแบบคู่ก่อน
เพื่อ...เรียนรู้ความเจ็บปวด
เพื่อเป็น*บาตรฐานสู่รักและเมตตา*
ไร้ความเจ็บปวด มีแต่ความเย็นสงบนิ่ง
ทั้งหลายแห่งสภาพธรรม เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ถึงจะถอดถอนกิเลส ตัณหา อุปทาน ให้หมดสิ้นไปได้.....
5 สิงหาคม 2549 00:53 น.
ทวารวดี
ตอนที่ 5 สัจจธรรมกับชีวิต
เป็นเด็ก แล้ว ก็เป็น ผู้ใหญ่ ตาย แล้วก็เป็นเด็กอีก แล้วก็เป็น ผู้ใหญ่.............
.
เป็นชาย แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นหญิง แล้ว ก็เปลี่ยนเป็ฯชาย แล้วก็เปลี่ยนเป็นหญิง........
เกิดมาสวย หล่อ แล้ว ก็ ไม่สวย ไม่หล่อ.....
เกิดมารวย แล้ว ก็เกิดมาจน แล้ว ก็เกิดมารวย แล้ว ก็เกิดมาจน......
เกิดมา ฉลาด แล้วก็โง่ แล้ว ก็ ฉลาด แล้ว ก็โง่........
เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็ เป็นเทพ เป็นพรหม แล้ว ก็เป็นมนุษย์ แล้วก็ เป็นสัตว์นรก แล้วก็เป็น มนุษย์.........
ทั้งหลายทั้งปวง กินเวลายาวนาน ชั่วกัปป์ชั่วกัลป์............
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา(บังคับบัญชาไม่ได้)
27 กรกฎาคม 2549 23:42 น.
ทวารวดี
เด็กน้อยเติบโตเป็นชายหนุ่ม
ตัวตนเริ่มสร้างสรรค์จากอดีตและปัจจุบัน ฉลาด ใจดี รูปงามพอใช้....
เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยและพบคู่ เป็นหญิงดี ใจงาม มีคุณธรรม..........
ชายหนุ่มก่อร่างสร้างตัวตนตั้งแต่วัยเรียน จนได้ยานพาหนะคู่ใจ...........
เริ่มหลงเพลินในเงินทองที่หาได้
สั่งสมกิเลสจนเมามาย สุดท้ายเข้าสู่ประตูวิวาห์...
แต่..
กิเลสที่สั่งสม เริ่มพลาดเพลินผิดศีลสำคัญ กาเมสุมิจฉา
จากหนึ่งเป็นสอง สองเป็นสาม น่าสมเพทเวทนา.......
พลาดศีล สาม พาสู่พลาดศีล สี่ จากสี่พลาดสู่สอง
ยังคงเหลือศีลหนึ่ง และศีลห้า........
มนุษย์ผู้สมบูรณ์ด้วยบารมีคือศีลทั้งห้าครบถ้วน.......
ศีลหนึ่ง ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต........
ศีลห้า ไม่ดื่มสุราจนเมามาย.......
ความประมาทพลาดพลั้ง พาชีวิตชายหนุ่มล้มเหลว
ครอบครัวแตกแยก ทิ้งปัญหามากมาย........
ชีวิตลำบาก ต้องอดทนต่อสู้รู้สำนึก
ศีลสอง ไม่ขโมยของรักผู้อื่น......
ศีลสี่ ไม่พูดโกหก.......
ว่า..
ผิดพลาดละเมิดศีล สาม สอง และ สี่.........
รับวิบากกรรมซ้ำซัด
จากวันเป็นเดือน เดือนเป็นปี จวบจนผ่านไปหลายปี........
เพราะเรียนรู้ต่อสู้จนได้จนได้พบสำนัก
เรียนวิชาชำระจิต ค่อยค้นพบสัจจธรรมการกำจัด อดีต.........
และ ..
ณ บัดนั้น ชีวิตก็เริ่มพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งดีงามสู่ชีวิตใหม่.......
26 กรกฎาคม 2549 09:08 น.
ทวารวดี
เมื่อเด็กน้อย เติบโตขึ้น
เด็ก วัยแห่งความน่ารัก ไร้เดียงสา ร่าเริง สนุกสนาน.........
แต่ บุญ และ บาป ที่ตามติด
บรรจงสร้างตัวตนคนใหม่ให้ปรากฏ.........
ตา มองเห็น หู ได้ยิน จมูก ดมกลิ่น ลิ้น รับรส
กาย รับ สัมผัส ปัจจุบันสัมผัส.......
รวมลงที่ใจ เกิดอดีต และ อนาคต และ โลกก็ปรากฎขึ้น......
อยู่มาวันหนึ่ง มีบางอย่างผิดปกติ เกิดขึ้น........
สัญชาตญาณการเอาตัวรอดก็สร้างสมสูตรแกร่งแห่งชีวิต........
พ่อตี แม่ดุ มีน้องคนใหม่ ทิ้งให้ร้องให้
สร้างความกลัว โกรธ ความอิจฉา.......
ความประทับใจที่เกิดเป็นช่วง ๆ
ทั้งทุกข์ และ สุข สร้างสรรค์เด็กน้อย ให้เกิดอุปนิสัยที่แตกต่าง.....
เราเคยหันกลับไปมองชีวิตในวัยเด็กของเราเองหรือเปล่า
ว่า
ครั้งหนึ่งนานมาแล้วในอดีตตอนเด็ก.......
มีเหตุการณ์ผิดปกติอะไรเกิดขึ้นกับเรา ที่เราจำได้
ที่สร้างสรรค์ตัวเรามาเป็นปัจจุบัน......
ครั้งที่หนึ่ง ตอนเราจำความได้ อายุ สาม สี่ ขวบ.......
ครั้งที่สอง ตอนเราอายุ เก้า สิบ ขวบ......
ครั้งที่สาม ตอนเราอายุ สิบเจ็ด สิบแปด.......
นั่นแหละคือชีวิตของเราในการสร้างความเป็นตัวเรา
เพื่อบอกว่า เราเป็นใคร.......
25 กรกฎาคม 2549 23:31 น.
ทวารวดี
ตอนที่ 2 ... เด็กน้อยกับอรหันต์
ด้วยบุญ และ บาป
แต่บุญที่มีกำลัง ด้วยแรงปราถนาอันแรงกล้า แห่งจิตวิญญาณ.....
เด็กน้อยได้ถือกำเนิดขึ้น วัฏฏะสงสารเริ่มต้นอีกครั้ง
เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วหนอ........
สิบ ร้อย พัน หมื่น แสน ล้าน โกฏ .....
เมื่อไหร่จะพอ......
พุทธพจน์ตรัสว่า
ถ้าเอากองกระดูกของจิตวิญญาณดวงหนึ่ง
ที่เวียนว่ายตายเกิดครั้งแล้วครั้งเล่า
มากองรวมกัน จะสูงกว่ายอดเขาพระสุเมรุ.......
โอ ช่างน่ากลัว น่าเหน็ดเหนื่อย น่าเบื่อหน่าย น่าขยะแขยง....
แล้วเมื่อไหร่จะเลิกเกิด ขอถาม..........
แต่เด็กน้อยที่ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้ง กับ อรหันต์
ที่คอยดูแลห่วงใยตลอดเวลา...........
หิว ท่านจะป้อนนม เจ็บป่วยท่านจะเยียวยารักษา......
สกปรก ท่านจะทำความสะอาด
ร้อนท่านจะพัดให้ หนาวท่านจะห่มผ้าเอามากอด........
ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน เหน็ดเหนื่อย เท่าไรไม่เคยบ่น.........
สื่อรักด้วยใจ และ ด้วยภาษากาย
ยิ้ม เล่นด้วย หยอกล้อ พร่ำสอนภาษา ให้เราหัดพูด........
วันแล้ว วันเล่า เดือนแล้ว เดือนเล่า จนเด็กเติบใหญ่......
ท่านผู้นั้น พระอรหันต์ของเด็กน้อย..........