18 กุมภาพันธ์ 2550 15:43 น.
ถนปายี
ที่สุดของหัวใจ...ไกลเกินฝั่งฝัน
อุปสรรคขวางกั้น
ให้ไปไม่ถึง
ที่สุดของหัวใจ...ไกลเกินจะถึง
เฝ้าฝนคะนึง
คว้าใจเธอมา
ที่สุดของหัวใจ...ไกลเกินเมินหน้า
ไกลพันพรรณา
เหนือฟ้าขลิบทอง
ที่สุดของหัวใจ...ไกลเกินจะครอง
รักเราทั้งสอง
ต้องกลายเป็นฝัน
ที่สุดของหัวใจ...ไกลเกินรักกัน
อยากให้เหมือนฝัน
ที่ผ่านล่งมา
ที่สุดของหัวใจ...ไกลเกินหรือว่า
มีทางเยียวยา
รักษาหัวใจ
ณ แห่งหัวใจ...ยังมีดวงใจ
ยังรักด้วยใจ
ยังไม่ลืม...เธอ
เพื่อเธอ "Jet'aime "
16 กุมภาพันธ์ 2550 19:55 น.
ถนปายี
"ลมหนาวโจยมา อุราแต้ไซ้ร บ่มีไผ๋ใกล้ ได้หวังเลยหนา
หนาวเย็นแต้นั้น อกสั่นผวา บ่มีไผ๋มา เป๋นคู่เคียงข้าง
ผ่านไปก๋ายมา เหมือนนาโล่งกว้าง เขาบ่สนใจ๋ ไปซ้ำ
เหมือนข้าวต้าวหล่น หมองหม่นเจ้นล้ำ หัวใจ๋บิ่นบ้าง เมินนาน
หลีกหนีบ่ป้น คำคนอู้ถาม ผ้องหาเลิกยาม เตรียมมาไว้ใกล้
ผ้องเตรียมชุดดา สรรหามาไว้ บังคับกั๋นไป แต้ล้ำ
ผ้องเสาะคาถา เตรียมมาหื้อซ้ำ เป่าไปค่ำเช้า งายแลง
หัดเอาไว้เตอะ ตึงบ่กิ๋นแหนง คาถาเปิ้นแฮง จ้วยแต่งกำอู้
ทุกบททุกต๋อน ตึงบ่หลิ่งหลู้ ท่องจ๋ำได้ดี ต๋ามนั้น
เช้าตื่นขึ้นมา สีผึ้งมาฝั๊น จักว่าเฮาพร้อม ไปตาม
เจอะน้องคำน้อย ฟั้งจ๊อยเอิ้นถาม ตั๋วน้องคนงาม ไปไหนมาเจ้า
เหมือนฟ้ากับฝน จะหล่นมาเข้า วิ่งหนีเฮาไป บ่ตั๊ก
เจอน้องปราณี ยินดีลองทัก หวัดดีตอนเช้า คนงาม
เปิ้นว่าอ้ายนี้ บ่ดีมาขวาง ถนนหนตาง เป๋นของจาวบ้าน
หลีกหนีไปเตอะ อ้ายบ่าวหน้าป้าน ผ่อหาความงาม บ่พบ
ฟังกำเปิ้นจ๋า หยังมารัดทด อดเอาตังหน้า ยังมี
ตึงบ่ยอมก๊าน สาวหน้อยสาวจี๋ คนงามคนดี ยังมีโลกกว้าง
มาแล้วพี่เหย เดินเลยเข้าใกล้ ขอลองฟั้งไป แต่งตั๊ก
จะเอ๋หวัดดี แม่สีดอกรัก คนงามของอ้าย มาเมิน
เปิ้นว่าฟังแล้ว อ้ายเหยน้องเขิน หันอ้ายมาเมิน อ้ายเป๋นบ่าวเฒ่า
กำอู้กำจ๋า หยังมาตรงเจ้า อ้อมไปสักหน้อย บ่ช้ำ
เขาคงหันเฮา เกิดมาเมินล้ำ เฒ่าจ๋นบ่ได้ ไข้มี
จริงจริงแล้วแต๊ เฮายังบ่หนี ยังอยากไข้มี คู่เรียงเคียงข้าง
บ่เกยสุขสม เหมือนลมพัดห้าง มีแต่แตกไป ใกล๋ล้ำ
แหงนผ่อฟ้าบน ดลหัวใจ๋จ๊ำ ความฮักจากนี้ ไปนา
สุดแล้วแต่ฟ้า เปิ้นจะเมตต๋า ขอกล่าวคำลา ก่อนแลนายเฮย"
15 กุมภาพันธ์ 2550 17:50 น.
ถนปายี
ดอกไม้ต่างสี-นารีต่างความงาม
งามนวยนาดจาดเจื้อ..............แม่ญิง
เลื่องจื่อลูกแม่ปิง .................เน่อเจ๊า
ศรีสง่าหมดจดยิ่ง ................หน้าหม๋ด ต๋าใส
สวรรค์ส่งมาเป๊า ..................หน่อเนื้อ สืบงาม ฯ
ดวงอาทิตย์เร่าร้อน ...........ก็งาม
งามต่างดวงจั๋นทร์วาม .......ค่ำค้าง
เหมือนกับแม่ญิงสาม ........โลกแข่ง เสน่ห์
ดาวแต่ละดวงอ้าง .............เปล่งล้วน ต่างแสงฯ
ดอกไม้หลากสีชี้ ...............ปริศน๋า
สีต่างล้วนงามต๋า ...............กุ๊ถ้าน
ดุจสตรีงามต่างค่า .............ต่างดี ต่างเด่น
แต่ละงามบ่ก๊าน ................ต่ำด้อย เอกอนงค์ฯ
**แปลในภาษากลาง..........
งามนวยนาดเช่นลูกผู้หญิง
เลื่องลือว่าลูกแม่ปิงนั่นแหละ
ศรีสง่าหมดจดสะอาดตาใส
ดั่งสวรรค์ส่งมาโลมเล้าเพื่อสืบทอดความงดงาม
ชนเผ่าล้านนา
เจียงตุ๋งเจียงฮายคล้าย ........คลึงกั๋น
วัฒนธรรมแวดหวัน ...........ปี่น้อง
กิ๋น/หยู่/ไผ๋มาหัน ...............บอกแม่น บ่ต่าง
ไตลื้อ/ล้านนาพ้อง ...............ต่อเจื้อ เผ่าชนฯ
หอ/เฮือน-จิก/จ๋องจี้ .............จ๊าดงาม
สง่ายายเขตคาม ..................เป๋นเส้น
ฮั้ว/ฮาว/ปล่อง/แกลจาม.......น่าผ่อ แตกต่าง
เสน่ห์ความลับเร้น ...............ค่าคล้าย ต่างที ฯ
ชนเผ่าหลากดั่งไม้ ...........หล๋ายพันธ์
สูนคั้วมั่วพัลวัล.....................ซะป๊ะ
แม้ว/เย้า/ยาง/ร้อยปัน .......อาข่า มูเซอ
ยอง/ลื้อ/ไทยใหญ่/ลั๊วะ .......ป่าเมี้ยง ต๋องเหลือง ฯ
สาวยองแม่ญิงเน้อ .............อี่นาย
เก่งกว่าลูกป้อจาย ...............เหี๋ยเสี้ยง
เกยจับดาบรบพ่าย .............ข้าศึก ต่อนัก
ลูกจ๋ามเตวีเยี่ยง .................อย่างนี้ ยอดญิ๋ง ฯ
**ยอง กับ ลื้อ น่าจะเป็นเผ่าเดียวกันครับ
แมงก่ำเบ้อ
"กำเบ้อ"เธอพี่พี้ ..........ปีกก๋าง
แดดส่งหัวถึงหาง .........ยั่วยั๊วะ
วิบวับจับปีกบาง ..........ฟ้าแก่ แรอ่อน
ตัดดอกส้มสีกั๊วะ ..........ผ่อซึ้ง เงียบงัน ฯ
**แปลในภาษากลาง
"ผีเสื้อเธอคลี่สยายกางปีก
แดดสอ่งหัวถึงหางวับวาว
ระยิบระยับจับบนปีกสีฟ้าแก่แรอ่อน
ตัดกับพวงดอกสีส้ม เบิ่งซึ้ง ..เงียบงัน"
แมงก่ำเบ้อ แปลว่า "ผีเสื้อ"
ยั่วยั๊วะ "เปล่งประกายออกมา"
กั๊วะ "ทั้งขั้ว หรือ ทั้งพวง"
เอื้องสามปอยหลวง
"เอื้องสามปอย"จื่อนี้ ...........เย็นนาม
เกิดถิ่นเกิ๋นมือทราม ............ไคว่คว้า
ขุนต๋าลยอดเขตคาม .............แดนป่า ดงปก
บริสุทธิ์ดุจดอกฟ้า .................เลิศล้ำ สามปอยฯ
13 กุมภาพันธ์ 2550 13:36 น.
ถนปายี
สักวันหนึ่งเธอจะรู้ว่าฉันรัก
สักวันหนึ่งเธอจะรู้ว่าฉันหลง
สักวันหนึ่งเธอจะรู้ว่าฉันยังคง
รัไม่เลือน ลืมไม่ลง คงไม่ลืม...
.....................................................
" ความเอ๋ยความรัก เริ่มสมัครชั้นต้นที่ตรงไหน
หรือเริ่มเพาะเหมาะกลางหว่างใจ หรือเริ่ม ณ ที่ไหนใครบอกที "
13 กุมภาพันธ์ 2550 12:44 น.
ถนปายี
โอ้ใจหนอหนอใจเรานี้เศร้านัก
เมื่อความรักมาจากไปไกลลับตา
ใจดวงน้อยที่เคยห่วงเลยทรมา
น้ำออกตาเลือดออกใจไหลร่วงริน
เมื่อก่อนนี้เราคอยรักคอยห่วงหา
เธอยังมามอบใจให้ถวิล
เคยร่วมรสร่วมรักเป็นอาจิณ
ฝากหัวใจให้ยุพินประคับประคอง
มาบัดนี้ยามลมหนาวพัดเฉื่อยฉิว
ลมริ่วริ่วพัดเรื่อยเรื่อยพาใจหมอง
เมื่อดวงใจแม่เนื้อนวลละออง
ปันเป็นสองให้ใครใยเจ้าทำ
ร้อนในออกเจ็บในใจดั่งไฟสุม
เช่นเสือหนุ่มหิวกระหายรุมขย่ำ
เจ็บหนอเจ็บเจ็บช้ำเพราะการกระทำ
ดังเส้นหญ้าเธอเหยียบย่ำไม่ดูแคลน
มอดลงแล้วดับไปแล้วหนอใจข้า
หลับนิทราหมดปัญญาไปหวงแหน
จากไปแล้วปล่อยแล้วไปไม่ดูแคลน
กลายเป็นแดน " วินาศกรรมในหัวใจ "...