4 พฤษภาคม 2547 11:44 น.

ความประทับใจ

ต๊อง

ทัศ เป็นน้องสาวคนเล็กของครอบครัว ด้วยวัยเพียง 7 ขวบ จึงไม่มีหน้าที่การงานใดๆ ในบ้านให้ต้องรับผิดชอบ  เรามีเพื่อนบ้านใกล้เคียงอยู่คนหนึ่ง ยายเป็นคนปากร้าย อาศัยกับญาติโดยยายให้การอุปการะ ยายมาจากเมืองจีน สามีตาย ยายครองโสดมาตั้งแต่สาวจนแก่ ด้วยความที่ตัวเองไม่มีลูกจึงรักครอบครัวญาติที่อาศัยด้วยกันมาก ยายมีเงินเก็บบ้างตามประสาคนจีนที่รู้จักประหยัด ยามยายยังมีเงินและสุขภาพแข็งแรงมีเงินพอที่จะจุนเจือญาติๆ ได้ ยายจะเสียงดัง และมีบางครั้งที่จะใช้นิสัยเผด็จการ จวบจนวันหนึ่งวันที่ยายไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ วันนั้นยายหมดเงินหมดอำนาจ ญาติๆ ที่เคยอาศัยยายอยู่ ต่างหนีไปอยู่ที่อื่น ทิ้งยายให้อยู่โดดเดี่ยวลำพังคนเดียว ยายเป็นอัมพาต  ครอบครัวเราอยู่ใกล้ยาย ความจริงถ้าจะนับไปแล้ว นัยว่า ยายเป็นญาติห่างๆ ของเราเหมือนกัน และถึงแม้ว่า เราเองก็ยากจน และยายพอมีสตางค์ แต่เราก็ไม่เคยไปขอหรือหยิบยืมจากยาย  เมื่อยายถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว ทัศเด็กน้อยอายุ 7 ขวบคนนี้ จึงมีภาระหน้าที่ ที่แม่มอบหมายให้เขาเป็นผู้ดูแล ยาย ตื่นเช้า ทัศ จะวิ่งไปบ้านยาย ถามยายว่า จะทานอะไร แล้ววิ่งไปตลาดซื้อหาอาหารเช้าให้ยาย เรียบร้อยแล้วจึงจะกลับบ้านอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน  ช่วงเที่ยง รร พักทานข้าว ทัศจะแวะบ้านยายก่อน ดูแลเรียบร้อยตามประสาเด็กวัยขณะนั้น  แล้วถึงจะกลับไปทานย้าวกลางวันที่บ้าน ตกเย็นหลังรรเลิก แทนที่ทัศจะได้ไปเล่นซุกซนเหมือนเด็กคนอื่นๆ เขากลับมีหน้าที่ ต้องไปดูแลคนแก่คนหนึ่ง ซึ่งเขาคิดว่าไม่มีอะไรผูกพันกับเขาเลย แต่ด้วยมนุษยธรรมที่แม่พูดกรอกหูว่า สงสารยายนะ แกไม่มีใคร เด็กน้อยทัศ จึงไม่เคยเบื่อกับชีวิตประจำวันที่ต้องไปเทกระโถนขี้เยี่ยว และหลายครั้งที่ไปเจออารมณ์เกรี้ยวกราดไม่ได้ดังใจ จากยายคนนี้ ทัศเล่าว่า โกรธเหมือนกันนะ ที่แกอาละวาดใส่ แต่ที่ทำทั้งหมด เพราะแม่บอกให้ทำ และเพราะสงสาร เพราะทัศยังเด็กและยายตัวใหญ่ ช่วงกลางวันแม่และเพื่อนบ้านอีกคน จึงรับหน้าที่ไปอาบน้ำให้ยาย แม่บอกว่า ต้อง 2 คน ไม่งั้นไม่สามารถพยุงยายได้  ทัศทำอยู่เป็นปีกว่ายายจะสิ้นบุญไป  ก่อนยายป่วยหนัก ยายบอกแม่ว่า เป็นหนี้บุญคุณทัศ โชดดีที่มีเด็กคนนี้คอยมารับใช้ ช่วยฝากของชิ้นเล็กๆ นี้ให้เขาด้วย  มันคือแหวนทองวงเล็กๆ ที่ทัศได้มาเป็นที่ระลึกจากการรับใช้ดูแลคนป่วยคนหนึ่ง ซึ่งบางครั้งนอกจากป่วยกายแล้วแกยังป่วยทางจิตด้วย แต่เด็กน้อยคนนี้ ก็ไม่เคยบ่นและไม่เคยรังเกียจที่จะทำให้ ทัศน้องสาวคนเล็กของฉันเอง				
25 เมษายน 2547 22:40 น.

คุณพ่อของฉัน

ต๊อง

ครอบครัวของฉัน เป็นครอบครัวชาวจีนที่ยากจน ตั้งแต่ฉันจำความได้ ผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยตีลูกเลย เรามีกัน 8 พี่น้อง พ่อทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวด้วยการรับจ้าง สารพัด  หาเช้ากินค่ำ พ่อ แม่ ลูกชายหญิงอีก 8 คน เป็นเรื่องสาหัสสากรรจ์ แต่พ่อไม่เคยบ่น มีบ้างบางครั้งที่พ่อกลับบ้านมาด้วยอารมณ์ไม่สดชื่น เพราะวันนั้นพ่อไม่มีเงินกลับบ้าน หมายถึงทั้งบ้านอาจจะไม่มีข้าวเย็นกิน บ่อยครั้งที่มีเพื่อนบ้านมาแนะนำพ่อว่า ลูกลื้อเอาไว้ที่บ้านทำไม ให้ไปช่วยทำงานบ้านอย่างลูกไอ้เว้งมันสิ นอกจากไม่ต้องให้ข้าวมันกินแล้ว ยังมีเงินเหลือกลับมาให้ลื้อนา พ่อฟังแล้วเฉยๆ ไม่พูดอะไร พ่อบอกแม่ว่า ทำไม่ได้ สงสารลูก จะอดก็ให้อดให้เราเห็น ไม่อยากให้ลูกไปทำงานกับคนอื่น ไงๆ ก็ไม่เหมือนอยู่กับเรา นอกจากไม่ให้เราต้องลำบากแล้ว พ่อยังให้เรา 8 พี่น้องเรียนหนังสือ ฉันเป็นพี่คนโต จะว่าไปแล้ว ฉันเรียนดีที่สุดในครอบครัว แต่ฉันเห็นแก่ตัวไม่ได้ น้องๆ ฉันตั้งหลายคน ตอนนั้นันคิดเพียงแต่ว่า เรียนอะไรก็ได้ ขอให้จบเร็วๆ และมีเงินมาช่วยพ่อฉัน ฉันเลือกเรียนพานิชย์ น้องๆ ทุกคนก้ได้เรียน และจะด้วยอะไรก็ตาม ต่อมา เรา 8 พี่น้อง ทุกคน ขอเรียกว่า ประสพความสำเร็จให้ชีวิตทุกคน ทั้งหมดที่เรามีวันนี้ได้ เพราะเรามีพ่อที่ยิ่งใหญ่คนนี้ ตอนเรายังเด็ก พ่อไม่ทานทุเรียน แต่ลูกๆ ชอบ วันใหนที่พ่อทำงานได้เงินมากหน่อย ก่อนกลับพ่อจะตระเวณหาทุเรียนไปฝากเมียและลูก พอถึงบ้าน แทนที่ตัวเองจะรีบอาบน้ำทานข้าว พ่อกลับกุลีกุจอ หามีดมาปอกทุเรียนให้ลูก พ่อมีความสุขมาก ขณะที่ปอกเจอทุเรียนเนื้อเหลือง ท่าทางดูอร่อย พ่อจะเชิญชวนให้ลูกทุกๆ คนกิน พ่อบอกต้นนี้อร่อยมาก ลองกันให้ทั่วๆ ทุกคนนะ ไว้พ่อมีเงิน พ่อจะไปซื้ออีก ต้องไปจองไว้ก่อน ไม่งั้นจะไม่เหลือ  ต่อมาเมื่อฐานะทางบ้านเริ่มดีขึ้น พ่อป่วยเป็นมะเร็ง  หมอบอกมะเร็งที่ตับ ไม่ต้องทำอะไร ผ่าตัดไม่ได้ คีโมไม่ได้ เรารับรู้ด้วยหัวใจแทบสลาย คนเดียวที่ไม่รู้คือ พ่อ  จวบจนวันนั้น วันมหาวิปโยคของครอบครัว เช้านั้น พ่อทรมานมาก พ่อบอกแม่ว่า พ่อคงไม่สามารถอยู่ดูแลแม่ต่อไปแล้ว ขอให้แม่ดูแลตัวเองดีๆ นะ พ่อบอกว่า พ่อรู้ว่า พ่อเป็นอะไร แต่พ่อไม่กล้าพุด เพราะพ่อกลัวแม่และลูกจะตกใจและกังวล  ความจริงเราทุกคนช่วยกันบอกพ่อว่า พ่อไม่ได้เป้นอะไร เดี๋ยวพ่อก็หาย พ่อกินยานะ พ่อว่าง่ายมาก ไม่เคยดื้อและก่อนจะป่วยหนัก พ่อจะลุกเข้าห้องน้ำเองได้ พ่อไม่อยากให้ลูกต้องลำบาก จึงลุกขึ้นไปห้องน้ำเอง ไม่จำเป็นพ่อจะไม่ให้ลูกต้องลำบากเลย  แล้ววันนั้นพ่อก็จากเราไป หัวใจแทบสลายกันทั้งบ้าน พ่อจ๋า หลับให้สบายนะพ่อนะ พักผ่อนให้เต็มที่นะพ่อนะ ให้สมกับที่พ่อเหนื่อยมาแล้วทั้งชีวิต				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต๊อง
Lovings  ต๊อง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต๊อง
Lovings  ต๊อง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต๊อง
Lovings  ต๊อง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงต๊อง