7 สิงหาคม 2545 22:16 น.
ต้ยนุ้ย
นานมาแล้ว มีพระราชาองค์หนึ่ง พระราชาองค์นี้
มีคนสนิทคนหนึ่งที่พระองค์สนิทมาก และมักจะพาไปไหนมาไหนด้วยเสมอ ในทุกๆที่ แล้ววันหนึ่ง พระราชาก็ถูกหมาตัวหนึ่งกัดนิ้ว แผลฉกรรจ์มาก พระราชาจึงถามคนสนิทว่า นี่เป็นลางไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก และในที่สุด พระราชาก็ถูกตัดนิ้ว และพระราชาก็ถามคนสนิทอีกว่า นี่เป็นลางไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า ดี หรือไม่ดียากที่จะบอก พระราชาโกรธมาก เลยจับคนสนิทขังไว้ในคุก วันหนึ่ง พระราชาก็ได้เสด็จออกป่าล่าสัตว์ พระองค์ทรงตื่นเต้นมาก แล้วก็มุ่งเข้าไปในป่า ลึกเข้าไปเรื่อยๆ เมื่อมารู้ตัวอีกทีก็พบว่า พระองค์ได้หลงทางเสียแล้ว แต่ก่อนที่อะไรจะเลวร้ายไปกว่านั้น พระองค์ก็ได้พบกับชนเผ่าพื้นเมืองในป่าแห่งนั้น คนป่าพวกนั้น ต้องการจับพระราชาไปบูชายัญ แต่พวกเขาก็พบว่า พระราชานิ้วขาด จึงรีบปลดปล่อยพระราชา เพราะเชื่อว่าพระราชาไม่ใช่มนุษย์ที่สมบูรณ์เลย และไม่เหมาะที่จะนำไปบูชายัญ พระราชาจึงตัดสินใจกลับพระราชวังในที่สุด และสุดท้าย พระองค์ก็เข้าใจคำพูดของคนสนิทที่บอกว่า ดีหรือไม่ดี ยากที่จะบอก เพราะถ้าพระองค์มีนิ้วครบสมบูรณ์ พระองค์ต้องถูกฆ่าโดยคนป่าพวกนั้นอย่างแน่นอน พระราชาจึงสั่งปล่อยตัวคนสนิท และขอโทษเขา แต่พระราชากลับประหลาดใจ
เมื่อคนสนิทกลับไม่โกรธพระองค์เลย ในทางตรงข้ามเขากลับบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลยที่ท่านขังข้าไว้ ทำไมงั้นหรือ เพราะว่าถ้าพระองค์ไม่ขังข้าไว้ ข้าก็จะต้องตามท่านไปในป่า และในเมื่อท่านไม่เหมาะจะถูกบูชายัญ ข้าคงจะถูกนำไปบูชายัญแทนเป็นแน่ อีกครั้งกับคำที่ว่า ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก เรื่องนี้อาจกล่าวได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ไม่มีการสรุปได้อย่างแน่นอนว่า ดี หรือ ไม่ดี บางครั้งสิ่งที่ดี อาจจะกลายเป็นสิ่งที่เลวร้าย ในขณะที่สิ่งที่เลวร้ายอาจกลายเป็นดีได้ สิ่งดีๆอะไรก็ตาม ที่เกิดขึ้นกับเรา จงสนุกสนานกับมัน แต่อย่าไปยึดติดกับมัน จงคิดเสียว่ามันเป็นสิ่งที่มาสร้างความประหลาดใจให้กับชีวิตของคุณ อะไรต่างๆ ที่มันเลวร้าย ซึ่งเกิดขึ้นกับคุณ ไม่จำเป็นต้องไปเศร้าเสียใจ ในตอนท้าย มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ถ้าพวกเราเข้าใจได้อย่างนี้
พวกเราจะพบว่า การใช้ชีวิตนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลย
4 สิงหาคม 2545 00:58 น.
ต้ยนุ้ย
ในหลายๆ ครั้งที่เราจำเป็นต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมาถึง สิ่งที่ถึงตัวเราก่อนมักจะเป็นความกลัวกลัวที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งที่บางทีเราก็ไม่ทราบว่าฉากต่อไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร
เคยอ่านเจอเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง แต่หาต้นฉบับไม่เจอแล้วเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งหล่อนอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กนี้มานานตั้งแต่เด็ก หน้าบ้านของหล่อนมีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขา จนทำให้บริเวณนั้นดูร่มรื่นเป็นพิเศษและแล้ววันหนึ่งเมื่อต้นไม้นั้นพ่ายแพ้แก่กาลเวลากิ่งก้านที่เคยร่มเย็นกลับก่อให้เกิดความยุ่งยากขึ้นเมื่อมันหักและหล่นใส่บ้านข้างเคียงบ่อยๆ จนกระทั่งเป็นปัญหาถึงขั้นที่จะต้องโค่นล้มต้นไม้ใหญ่นั้นทิ้งหลังจากหญิงสาวทราบว่าไม่สามารถจะคงต้นไม้นี้ไว้ได้หล่อนถึงกับกังวลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาต่อไปนี้ จะเอาร่มเงาจากไม้ใหญ่ที่ไหนคอยกำบังแดดฝนไม่มีภาพที่เคยมีอีกแล้ว ยามมองออกไปนอกหน้าต่าง ยิ่งคิดไปต่างๆ นานาก็ยิ่งให้รู้สึกเสียดายไม้ใหญ่นั้น ยิ่งวันที่ต้องตัดต้นไม้นั้นหล่อนได้ยินคำพูดจากเพื่อนของเธอที่ต้องการปลอบใจว่าอย่าเสียดายกับสิ่งที่เสียไป จงตื่นเต้นและยินดีกับสิ่งที่กำลังจะตามมาแน่นอนว่าตอนนี้ไม่มีคำพูดใดๆ เจาะไชเข้าไปถึงตัวเธอๆ ได้วันเวลาผ่านไปเป็นสัปดาห์ ชีวิตของเธอหลังต้นไม้ใหญ่ถูกโค่นเริ่มเปลี่ยนแปลงทุกเช้าที่เธอตื่น เธอจะได้รับแสงแดดส่องเข้ามาในบริเวณห้องของเธอจนทำให้วันนั้นเกิดรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นทันที เธอได้บริเวณบ้านมากขึ้นสำหรับปลูกไม้ดอกที่อยากจะปลูกมานานเธอกลับเริ่มรู้สึกดีๆ กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมันไม่ได้แย่ไปอย่างที่เธอคาดไว้เสียทีเดียว ถ้าต้นไม้ใหญ่นั้นไม่ถูกโค่นลงวันนี้เธอคงไม่ได้เห็นภาพเด็กๆ วิ่งขึ้นลงรถรับส่งโรงเรียนอย่างร่าเริงในอีกมุมตึกถัดไปอย่างชัดเจนเช่นนี้ตอนนี้เธอเข้าใจกับคำว่าอย่าเสียดายในสิ่งที่เสียไป แต่จงตื่นเต้นและยินดีกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
เรื่องนี้บางทีคงถ่ายทอดได้ไม่ดีเท่าต้นฉบับ แต่ตอนอ่านพออ่านจบแล้วรู้สึกว่ามันเป็นความจริงที่ส่วนมากแล้วเรามักจะกลัวการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ทุกอย่างมันอยู่ที่ความคิดจริงๆนะคนเรามักกลัวที่จะเข้าไปในห้องมืด ทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในห้องนั้นมีอะไรบ้างแต่ไอ้ที่กลัวๆ อยู่น่ะมันอยู่ในความคิดทั้งนั้นอย่างบางคนก็กลัวที่จะสูญเสียคนรักไป ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้มองหรอกนะว่าไอ้ที่กอดๆอยู่น่ะมันเหมาะมันดีกับเราแล้วจริงหรือ กลัวว่าต่อไปถ้าขาดเขาหรือเธอไปชีวิตจะเป็นยังไงเดินห้างคนเดียว ไปไหนมาไหนคนเดียว กลัวเจอคนที่แย่กว่าเดิมอะไรก็ตามที่คุณกลัวและคิดไปเรื่อย จนทำให้คุณกลัวที่จะเปลี่ยนแปลงจนบางทียอมที่จะทนกับสิ่งที่ทำให้ชีวิตคุณ แย่ลงไปยิ่งกว่าการเปลี่ยนแปลงคุณลองมองในอีกมุมที่หญิงสาวคนในเรื่องไม่ได้มองดูสิ มุมมองที่เป็นบวกกับชีวิตคุณมุมมองที่จะทำให้คุณ ก้าวต่อไปได้ด้วยความตื่นเต้นและยินดีอย่าเสียดายในสิ่งที่เสียไป แต่จงตื่นเต้นและยินดีกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
4 สิงหาคม 2545 00:46 น.
ต้ยนุ้ย
วันนี้ รู้สึกแปลกๆ...
เค้า เป็นพี่ชาย ที่รู้จักมานาน..
เค้า เคยบอกว่า..กลับไทยเมื่อไหร่..จะขอเราควงเป็นแฟน
เค้า ไม่เหมือนผู้ชายทั่วๆไป..
ความรู้สึกที่รับมา..เป็นความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความจริงใจ
เกือบ 3 ปี ที่ได้รู้จัก...เค้าเป็นคนสม่ำเสมอ..เป็นคนที่ใครๆ
ก็อยากอยู่ใกล้..เป็นคนที่ใครๆอยากคบหา
ฉันเคยคิด..ว่า เค้า ไม่เปลี่ยนไปหรอก..
จน วันนี้...ที่เค้ามีคนพิเศษ..และคนพิเศษของเค้า
ก็คือคนที่ฉันรู้จัก..เธอคนนั้น..โชคดีจัง..
เธอ คือคนที่อยู่ข้าง เค้า
เธอ คือคนที่ไม่ห่างจาก เค้า
ฉันดีใจด้วยจัง..ที่ความพยายามของเธอ
สามารถทำให้ เค้า เห็นความจริงใจของเธอ..
ฉัน ก็ยังเป็นฉัน..
ฉัน ยังเป็นคนที่ไม่ง้อใคร..
ฉัน มันไม่มีสิทธิ ที่จะจับจองใคร..
ฉัน คงทำได้ไม่เท่า เธอ
จนวันนี้..ที่เธอได้เป็นคนพิเศษของเค้า...ฉันดีใจด้วย..
ความรู้สึกนี้ เป็นเพียงครึ่งนึงของความรู้สึกฉัน..
แต่อีกครึ่ง...ฉันเองยังไม่เข้าใจ..ว่ามันคืออะไร
ไม่รู้ว่าเป็นความเจ็บปวด..ที่คนข้างๆเค้าไม่ใช่ฉัน
ไม่รู้ว่าเป็นความอิจฉา..ที่เธอคือคนพิเศษของเค้า
ไม่รู้ว่าเป็นความหวง..จากน้องสาวถึงพี่ชาย
ฉันเองไม่ต้องการหาคำตอบ..
เพราะถึงยังไง...ฉันก็ไม่หวังอะไรจากเค้าอีกแล้ว
- - - แค่ขาดเธอ* ฉันยังไม่ขาดใจ* - - -