22 กุมภาพันธ์ 2546 10:47 น.
ต้น
ศัพท์: แหลง = พูด, เหม็ด = หมด, สาไหร = มีดี
เพียงแทนคำสักคำลงว่ารัก..ก็มิพักเสียใจอะไรหรอก
แต่นี้มีเพียงแค่แจกันดอก..แทนใจบอกให้ไว้แต่หนหลัง
ด้วยเอาภาพมาลีมาเป็นสื่อ..แทนใจซื่อให้ไว้คือคาดหวัง
เพียงเพื่อผูกไมตรีให้จีรัง..แต่ก็ยังมิวายมาคลายคลอน
ด้วยสมัครรักน้องประคองกอด..มาตลอดดวงใจไม่เคยถอน
ให้เจ็บปวดสัมพันธ์ไม่เหมือนก่อน..ต้องเก็บซ่อนน้ำใสใสลงในคอ
เพราะใจตัวเองกับปากไม่ตรง..ทำให้หลงใจแข็งข้ามพ.ศ.
เหลือแต่ตัวไร้ใจคอยเฝ้ารอ..คงไม่พอที่จะทำให้บรรเทา
ก่อนคิดว่าคงไม่มีเป็นเราสอง.. จนพบน้องจึงหายซึ่งความเหงา
แรกเริ่มไม่ได้นึกทึกทักเอา.. คิดว่าเราไม่ควรมาด่วนมอง
เพราะเคยพลาดเจ็บปวดเป็นเวรกรรม..มันตอกย้ำอยู่ทั่วหัวสมอง
จึงสร้างเกราะป้องกันตามครรลอง..แต่ก็รักน้องไม่เคยคลายมาหลายปี
มันเริ่มเรื่อยเรื่อยไม่รู้ว่ารัก.. ให้แปลกหนักไม่เคยเป็นถึงเพียงนี้
จนเบ่งบานย่างเข้าถึงขวบปี.. พอจะมีถึงสัญญาให้อาทร
ไม่เคยเอ่ยว่ารักออกให้ก้อง..ก็เลยน้องคิดว่าใจพี่ไม่มีศร
รักรู้อยู่เต็มอกคือบังอร.. แต่กาลก่อนพี่เคยได้เชยชม
เชื่ออยู่เห็นก็รู้ว่าน้องรัก.. มีญาติทักสร้างปัญหาว่าไม่สม
ทั้งกราดเกรี้ยวเขี้ยวเข็ญและอบรม.. ทุกระทมเก็บกันไว้ตั้งหลายที
ค่อยค่อยบางเบาเพราะเราทั้งสอง.. ทำไม่มองยามพบหน้ากันบัดสี
เส้นกั้นห่างคืบคลานเข้าทุกที.. แต่สุขมีเมื่อยามพบคบกันมา
พี่ต้องจากห้องหับขยับขยาย.. จำต้องย้ายออกไปกันครหา
เพราะไม่เหมาะอยู่ร่วมเรียงชายคา.. วันเวลาก็ห่างหายลับลง
อนาถแท้ทำได้แค่มาหา.. เห็นชายคาแต่อย่าหมายได้ประสงค์
สิ่งเดียวที่ด้นมาเพื่อโฉมยง..แต่ยังคงไม่ละเมื่อผละงาน
เจอบ้างแต่ไม่เห็นเหมือนเช่นก่อน.. ใจนั้นร้อนคอยคิดจะประสาน
ไม่ได้แก้ผิดแต่ทุกทีก็มีงาน.. ให้รำคาญทำน้องงอนเจ็บใจ
เสียน้ำตาเข้าใจว่าพี่ไม่รัก.. คอยจะหักสัมพันธ์นั้นไฉน
เพราะพี่พูดมิได้พูดออกจากใจ.. เพราะปากไวใจเอียงโกหกตัว
น้องรวบรัดตัดความเอาตามคิด.. สำคัญผิดว่าลืมได้หมดทั้งหัว
อันคนเรารักกันใช่แต่ตัว.. ให้หมดทั่วทั้งตัวและหัวใจ
พี่ระทมอมทุกข์หัวใจขาด.. ของคมบาดพิการตัวยังทนไหว
แต่นี้หมดสิ้นทุกสิ่งพิการใจ.. จะมีอะไรเหลือเพื่อทำงาน
หลายปีพันผูกอยู่ในความจำ.. ทุกข์โศกขำหัวเราะทั้งหนุกหนาน
นั่งลงคิดเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวาน.. แต่มันนานรวมเหม็ดตั้งเจ็ดปี
พี่เป็นคนรักยากแล้วลืมยาก.. สำคัญมากเพราะรักไว้ฝากผี
แต่มลายหายสิ้นเหมือนไม่มี.. ช้ำชีวีสุดที่ทำใจทัน
เคยเก็บเงินเอาไว้เที่ยวกับน้อง.. ทั้งหอห้องก็เคยคิดวาดฝัน
ย่างอายุเท่าที่คิดไว้สร้างทัน.. ก็มาพลันมลายลงหมดแรง
น้ำตาตกบอกน้องว่าพี่รัก.. ไม่อาจหักห้ามใจไม่ให้แหลง
แม้นบุญมีดลใจอย่าให้แกล้ง.. ตอนยังแรงและยังรักกลับคืนมา
น้องมาด่วนจวนจัดตัดสินใจ.. ก็ด้วยวัยนั้นอ่อนซึ่งชันษา
พี่ไม่โทษโกรธเกลียดขอขมา.. เอาเป็นว่าไถ่ปาบและอภัย
ด้วยว่าเราด้วยกันนั้นทำผิด.. กลับมาคิดแล้วน่าน้ำตาไหล
มาประมาทพลาดพลั้งตอนเลยวัย.. เกาะกินใจทุกข์ระทมทั้งสองคน
เป็นธรรมดาสามัญของมนุษย์.. ไม่สิ้นสุดซึ่งเรื่องที่สับสน
คิดให้ดีนี่น้องก็คือคน.. ไหนเลยพ้นคิดพึ่งแค่เวลา
ขอลดทิฐิลงมาอีกนิด.. แล้วให้คิดว่าพี่ไม่ถือสา
ลืมเรื่องเก่าก่อนตั้งใจคืนมา.. สร้างเวลาสร้างชีวิตกับคนรอ
แต่ถ้าคิดว่าไหนๆถึงเพียงนี้.. ต้องทิ้งพี่ไปหน้าก็อยากขอ
ควรพินิจคิดดูถึงคนรอ.. น้ำตาคลอทำงานไปนานวัน
ยังอยากให้น้องนั้นได้หวนคิด.. ถึงชีวิตสักช่วงเพียงสั้นสั้น
ตอนมีสุขมีทุขอยู่ร่วมกัน.. มันสำคัญแล้วจะลืมได้อย่างไร
ถึงแม้น้องถลำลงล้ำลึก.. ความรู้สึกพี่ยังอภัยได้
แม้นหากยังอยู่แค่เพียงกลางใจ.. ไม่เป็นไรควรรอถึงแต่งงาน
อีกสามปีเวลาที่ยังเหลือ.. ก็ยังเชื่อรอยร้าวได้ประสาน
ขอน้องอย่าทำร้ายพี่ให้นาน.. ให้สงสารคนไร้ซึ่งหัวใจ
เขาเป็นคนใหม่น้องเข้าเกี่ยวข้อง.. ใช่ว่ามองแล้วเขาไม่สาไหร
ต้องมีดีทำให้น้องเทใจ.. ไปได้ไกลเกินคิดจะกลับทาง
แต่เชื่อเถอะเพราะน้องนั้นหุนหัน.. ยังกลับทันหวนหาทางสว่าง
ขอตั้งใจอย่าคิดว่าหมดทาง.. ตาสว่างรับรองไม่มีภัย
ถ้าจำใจถูกพรากจากกับน้อง.. จะไม่มองหาคู่สู่หญิงไหน
หากไม่ข้ามชาติให้ต้องอาลัย.. จะรอไปชั่วนิรันดร์จนวันตาย
จะก่อร่างสร้างตัวอยู่กับที่.. สั่งสมความดีไม่ให้หาย
จะรอคนที่ยังรักจนชีพวาย.. บูชาไว้เหนือเหตุผลกับน้ำตา..
ต้น.. 19-ก.พ.2546