13 กุมภาพันธ์ 2550 10:50 น.
ต้นไม้ของอ่วง
คนดีจ๋า คนดี คำนี้ซึ้ง
เป็นคำหนึ่ง เธอเคยเรียก ให้ขานไข
คนดีจ๋า คำคำนี้ ยังฝังใจ
ยังอยากให้ เธอเรียกซ้ำ ย้ำสัมพันธ์
แม้นวันนี้ สองเราต่าง เหินห่างไกล
รักเราไซร้ มั่นในใจ ใช่ แปรผัน
คำบ่งรัก เคยขานเพรียก เรียกรักพลัน
เคยจำนรรจ์ ฉันคนดี ของเธอคนเดิม
คนดีจ๋า อยากได้ยิน เรียกได้ไหม
คำของใจ เธอเรียกฉัน เคยส่งเสริม
เรียกฉันอีก กับคำนี้ คำเดิมเดิม
โปรดเต็มเติม เพิ่มคำรัก รักคนดี
แค่อยากเป็น คนดีดี ที่เธอรัก
เฝ้าฟูมฟัก ดูแลฉัน มั่นวิถี
อยากจะเป็น เหมือนดั่งเช่น ที่เคยมี
เป็นคนดี ที่เธอรัก ตลอดไป
13 กุมภาพันธ์ 2550 08:24 น.
ต้นไม้ของอ่วง
อย่ารักเลย หากเพิกเฉย ไม่ใส่ใจ
รักทำไม ได้อะไร จากรักเรา
ปากบอกรัก แต่ใจเธอ กลับว่างเปล่า
รักแล้วเศร้า รักทำไม ให้ขุ่นเคือง
อย่ารักเลย หากไม่เคย จะเข้าใจ
รักทำไม ให้เสียใจ ไม่เข้าเรื่อง
จะรู้ไหม รักของเธอ เหมือนเปล่าเปลือง
ไม่ต่อเนื่อง รักติดขัด รัดใจตาย
อย่ารักเลย ถ้าแค่เอ่ย แค่บอกรัก
อย่าทายทัก ฝากหัวใจ ไร้ความหมาย
รักแล้วเจ็บ ให้ปวดร้าว มิเสื่อมคลาย
รักมากมาย คำเธอหลอก แค่บอกไป
อย่ารักเลย ถ้าไม่เคย จะห่วงใย
รักทำไม ให้น้ำตา หลั่งรินไหล
รักก็เจ็บ รักก็ร้าว ร้องร่ำไห้
คืออะไร ความหมายรัก จากใจเธอ
หยุดเถอะรัก อย่ารักเลย จบรักเรา
ทิ้งความเขลา ให้สร่างเศร้า มิพลั้งเผลอ
จบเถอะรัก สิ้นเถอะใจ อย่าได้เจอ
รักจากเธอ ขอให้จบ ลบจากใจ...
12 กุมภาพันธ์ 2550 10:28 น.
ต้นไม้ของอ่วง
เมื่อยามรัก ก็ว่ารัก ดีนักหนา
มีปัญหา ได้พึ่งพา ให้ปลอบขวัญ
เมื่อยามรัก ก็ไร้ทุกข์ สุขทุกวัน
ให้สุขสันต์ ซาบซ่านนัก ฉันรักเธอ
เมื่อยามห่าง ให้ร้างรัก จักลาจาก
เธอพร่ำพราก รักพรากฉัน ให้พลั้งเผลอ
รักไม่ดี ไม่ควรรัก ไม่อยากเจอ
รักเสนอ ทุกข์สนอง ครรลองรัก
นี่แหละหนา นานาจิต ให้คิดถึง
ทุกคนพึง คำนึงเห็น เช่นประจักษ์
ประสบพบ กับตัวเอง จึงรู้นัก
รู้ว่ารัก แท้ที่จริง เป็นเช่นใด
เมื่อเรียนรัก เข้าใจรัก จึงรู้รัก
ควรต้องพัก หรือทุ่มเท สักเพียงไหน
เมื่อได้รัก ได้อกหัก จึ่งเข้าใจ
ที่สุดไซร้ ให้สุขใจ ได้รักเอย...
9 กุมภาพันธ์ 2550 13:32 น.
ต้นไม้ของอ่วง
ดวงตะวัน เลื่อนคล้อย ลอยลงต่ำ
ยามพลบค่ำ สนธยา ฟ้าเปลี่ยนสี
แสงแสดจ้า ท้องฟ้าแดง แรงฤทธี
สิ้นสุรีย์ ฟากฟ้าหม่น อนธกาล
สายธารน้อย คอยสะท้อน ยอกย้อนแสง
ตะวันแดง ส่องแสงใส ให้แตกฉาน
สาดแสงสวย สะท้อนน้ำ ณ ลำธาร
ให้เบิกบาน กับเพ-ลา ฟ้าอัสดง
มืดค่ำแล้ว เสียงแก้ว หมู่นกกา
ร้องเรียกหา กลับรัง มิไหลหลง
ฟ้ามืดแล้ว สิ้นแล้วแสง สุริยง
พวกเจ้าจง กลับรัง ที่เรืองรอง
บ้างบินเดี่ยว บินคู่ เป็นหมู่ฝูง
บ้างก็จูง เล่นจิก สนุกสนอง
หากตัวใด บินเดี่ยว เปลี่ยวคู่ครอง
อยากมีสอง ครองคู่ เป็นคู่ใจ
รังหญ้าน้อย ด้อยค่า กายาอุ่น
นุ่มละมุน ยามนอนหนุน อุ่นละไม
สุขนักข้า รังนกน้อย คอยฝันใฝ่
เติมเต็มใจ สุขยิ่งนัก รังหญ้าคา
รุ่งอรุณ เบิกฟ้า ณ ยามเช้า
นกน้อยเจ้า หลับไหล สุขหนักหนา
แสงเจิดจ้า สุริยง ยลแยงตา
ได้เวลา จากเรือนรัง สู่พงไพร
นี่แหละหนา วัฏจักร แห่งชีวิต
มืดสนิท แห่งราตรี เจ้าหลับไหล
สว่างจ้า รุ่งเช้า เจ้าต้องไป
ดำเนินใจ สู่ชีวิต ลิขิตตน...
8 กุมภาพันธ์ 2550 12:23 น.
ต้นไม้ของอ่วง
นางวันทอง นางสองใจ ใจแสนชั่ว
มีหนึ่งผัว ยังปันใจ ให้ใครอื่น
นางแสนเลว ขึ้นชื่อเลว ต้องกล้ำกลืน
มิอาจฝืน ก้มหน้ารับ คำประนาม
ดั่งตัวฉัน หวั่นหวาดกลัว กลัวเลวนัก
ทอดทิ้งรัก ทิ้งหัวใจ ให้เหยียดหยาม
ฉันจากไกล กับชายอื่น รักยังตาม
หนึ่งในสาม ระหว่างเรา เศร้าเหลือเกิน
ฉันรักเธอ เธอก็รัก จักต้องพราก
ต้องจำจาก จำใจ ให้ห่างเหิน
ฉันมีคู่ กับชายอื่น ไร้เพลิดเพลิน
ต้องเผชิญ ความจริงนั้น รักฝังใจ
เชื่อฉันไหม ไม่มีใคร ในโลกนี้
อยากสูญสิ้น ความดี ให้เหลวไหล
ทุกคนรัก มีห่วงรัก ห่วงดวงใจ
รักจริงไซร้ รักแท้ แค่หนึ่งคน
จำจากรัก หักใจจาก พรากจำใจ
ร้างรักไกล จำใจยอม ยอมเหตุผล
รักคนนี้ แต่จำต้อง แต่งอีกคน
ให้สับสน จนใจฝืน เป็นวันทอง...