5 ตุลาคม 2545 20:21 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
กลอนเรื่องนี้ผมใช้เวลาและความสามารถเท่าที่มีอยู่ในตอนนั้นแต่งขึ้น แต่ก็มีความสามารถแต่งได้เท่านี้แหละครับ ไม่หวังว่าเพราะอะไรมากมาย แต่เน้นความรู้สึกและน้ำใจเท่านั้นครับ
**..เมืองวันนี้ มีพร้อม ทุกสิ่งสรรพ์
แต่ร้อยพัน ฝันร้าย อยู่ไกลบ้าน
เมืองค่ำนี้ มีเพลง บรรเลงลาน
คนไกลย่าน ชายแดน เจ็บแสนทน..**
**..คนในเมือง มือถือ โทรศัพท์
คนอยู่ไกล มือจับปืน ยืนตากฝน
เฝ้าเวรยาม คืนค่ำ ทำเพื่อชน
แสนล้านคน หลับนอน ผ่อนกายา
**..เสียงปืน เสียงสนั่น ไม่พรั่นหวาด
ไม่คิดขลาด หดหัว กลัวหนีหน้า
มีปืนแกร่ง เคียงอยู่ คู่ชีวา
มีแผ่นฟ้า แผ่นดิน เป็นถิ่นนอน
**..มีทางมืด ลิบไกล ในเบื้องนั้น
มีชีวัน ลับลา อุทธาหรณ์
มีเลือดริน ไหลหลั่ง บนทางจร
มีภาพซ้อน เป็นตาย คล้ายคล้ายกัน
**..ชีวิตอยู่ กึ่งกลาง ทางสองฟาก
ทางหนึ่งจาก ลาโลกไกล ดับใฝ่ฝัน
ทางหนึ่งรอด ชีพยง คงกระพัน
เกิดมานั้น ชีพนี้ เพื่อพลีกาย
**..คือโลหิต ปิดตา ครั้นลาโลก
คือความเศร้า โศกหวั่น พลันใจหาย
คือผืนดิน ปิดร่าง บนทางตาย
คือความหวัง มุ่งหมาย กำชัยมา
**..ทองคำ ปิดลง หลังองค์พระ
ชัยชนะ ฝากไว้ ด้วยใจข้า
ทองคงเต็ม องค์พระ ปฏิมา
แล้วโลกหล้า จะยกย่อง ผองคนดี
*******.......นักรบ คงรบ ศึกจบสิ้น
เมื่อชีวินแจ้งประจักษ์เปี่ยมศักดิ์ศรี
ถ้ารอดตายหมายหอบกอบชีวี
คืนสู่ถิ่นธรณีที่รักเอย
มอบแด่ทหารหาญ นักรบทั้งหลายที่ยอมตาย
เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
และประชาชนตาดำๆอย่างพวกเรา
ขอบคุณมากครับ
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
5 ตุลาคม 2545 10:21 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**..จากแรง เป็นรวง ล่วงลุ
ระอุ ร้าวอก รออิ่ม
หยาดเหงื่อ กี่หยด จึ่งชิม
ได้ลิ้ม รสข้าว ชาวนา..**
**..ไม่เคย พร่ำเพรียก เรียกร้อง
กู่ก้อง ขอลาภ ยศฐาฯ
เลี้ยงคน ทั้งเมือง ทั่วมา
ใครหนา รำลึก นึกคุณ..........
.................หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน..................
5 ตุลาคม 2545 10:12 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
แด่ ข้าราชการที่เกษียณอายุการทำงาน
**..ผ่านหนาวผ่านร้อนมาหลากหลาย
ผ่านดีผ่านร้ายมาหนักหนา
แต่วันแรกจนถึงวันจากลา
ซึ่งคงคาความหลังอยู่รอบราย
**..เคยคิดว่าหน้าที่คือชีวิต
แต่หวนคิดขึ้นใหม่ก็ใจหาย
เพราะคือการเดินทางครั้งสุดท้าย
ก่อนจะหมดความหมายแห่งสายงาน..**
**..เหลือไว้เพียงความทรงจำให้รำลึก
เก็บไว้เป็นความรู้สึกให้สืบสาน
ว่าความเคลื่อนไหวของวันวาน
จะหายไปในธารกาลเวลา..**
**..ที่เคยเป็นตำนานแห่งกาลสมัย
จะค้างรอยอาลัยให้หวนหา
ค้างความภูมิใจในแววตา
ค้างความอ่อนล้าที่เคยมี..**
**..ด้วยว่างานเลี้ยงจะเลิกรา
ตามกฎกติกาแห่งหน้าที่
จึงมีดอกไม้แห่งไมตรี
มอบให้ในวิถีแห่งการลา.....**
**.. ซึ่งสูงสุดจะคืนสู่สามัญ
เคยฝันจะดับฝันวันข้างหน้า
ซึ่งเป็นไปตามธรรมดา
คือการเดินทางมาเพื่อจากไป..**
**..อาจเคยฝากรอยเท้าไว้แทบพื้น
ที่เคยหยัดเคยยืนร่วมยุคสมัย
ฝากความเป็นคลื่นลูกเก่าให้เข้าใจ
เมื่อคลื่นลูกใหม่ไล่มาทัน..**
**..ไว้เป็นความงามของความหลัง
ไว้แฝงไว้ฝังและไว้ฝัน
ไว้เป็นสัจธรรมที่สำคัญ
ว่าชีวิตนั้นเป็นฉะนี้..**
**..โดยตำแหน่งหน้าที่เคยมีอยู่
ก็กลายเป็นผู้หมดหน้าที่
โดยวาสนาบรรดามี
แต่ละปีแต่ละปีก็หมดไป..*
****... .....ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหนักหนา
ผ่านวันเวลาโดยเคลื่อนไหว
จึงต้องรู้ต้องรับต้องปรับใจ
เพื่อชีวิตใหม่ในพรุ่งนี้
5 ตุลาคม 2545 09:54 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
ขอมอบเรื่องกลอนนี้ให้แด่ ผู้ที่เล่าเรียนมาทุกๆคนครับ
บทประพันธ์ของอาจารย์ นภาลัย สุวรรณธาดา
**..บัณฑิต
ผลผลิตแห่งสถานการศึกษา
หลายปีก่อนมือเปล่าเธอก้าวมา
ถึงเวลาก้าวไปรับใช้คน..**
**..ศึกษาศาสตรบัณฑิตคิดให้มาก
งานเธอยากแต่ยิ่งใหญ่ได้กุศล
ตาดำดำทำเธอสุขและทุกข์ทน
ถ้ากลัวจน แล้วอย่า มาเป็นครู..**
**..นิติศาสตรบัณฑิตคิดไหมว่า
โชคชะตาคนทั้งผองเธอครองอยู่
พิทักษ์สิทธิ์พิชิตโศกให้โลกรู้
เชิดตราชู ยุติธรรม์ จนวันตาย..**
**..วิทยาการจัดการงานผลิต
ธุรกิจสูงสุดใช่จุดหมาย
ต้องสร้างสรรค์งานประชาที่ท้าทาย
รับแล้วจ่าย คืนกำไร ให้สังคม..**
**..แพทย์ศาสตร์พยาบาลเธองานหนัก
ใช้ความรักความรู้คู่ประสม
เธอยึดมั่นจรรยาจึงน่าชม
อย่านิยม อามิส ชีวิตใคร..**
**..นิเทศศาสตรบัณฑิตคิดให้กว้าง
ใช่หนทางดาราน่าพิสมัย
เธอจงเป็นนกพิราบคาบใบไม้
สื่อหัวใจ สู่สวน แห่งมวลชน..**
******.....บัณฑิตเอยบัณฑิตใหม่จงได้คิด
อย่ายึดติดแต่กระดาษขาดเหตุผล
ชีวิตจริงยิ่งต้องเข้มต้องเต็มคน
พร้อมผจญปลดครุยลงลุยโคลน..........
5 ตุลาคม 2545 09:39 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
กลอนเรื่องนี้ที่ผมจะนำเสนอ ผมเห็นถึงความสำคัญและความหมายดีมาก
โดยเฉพาะเพื่อนๆที่กำลังศึกษาอยู่ กลอนอาจยาวไปบ้างแต่ก็ขอให้สมาชิกค่อยๆอ่านก็แล้วกันนะครับ
บทประพันธ์ของคุณ อัคนี หฤทัย
**..เหมือนนิยาย เรื่องยาว เล่าซ้ำซาก
ฉากก็ฉาก วันเริ่ม เปิดเทอมใหม่
ตาก็ตา คู่ที่แห้ง และแล้งไร้
ใจก็ใจ ที่โหย อยู่โรยล้า..**
**..นี่คือวัน เวลา คือหน้าที่
เปิดเทอมที ก็เหนื่อยยาก เป็นนักหนา
รอยชื้นซึม น้ำใส ที่ปลายตา
เหมือนหยาด รอเวลา ให้ลอบซับ..**
**..ซับจนแห้ง เพื่อจะให้ ไหลอีกหน
ยังเอ่อล้น ยังฝันร้าย ในยามหลับ
รู้ทั้งรู้ ถึงภาระ ที่แบกรับ
แต่ความทุกข์ ก็โถมทับ จนท้อใจ..**
**..ค่าใช้จ่าย ทุกรายการ ของวันนี้
มีไม่มี ก็ต้องหา มาจนได้
หนูมีหน้าที่เรียนก็เรียนไป
แม่มีหน้าที่ให้แม้ไม่มี..**
**..แม่คุ้นกับ โรงจำนำ ยามตากหน้า
ไม่รู้ว่า วันไหน จะไถ่หนี้
ส่งดอกเบี้ย ต่อเวลา มานับปี
วันพรุ่งนี้ ยังอีกไกล ยังไม่มา..**
**..แม่ยอมเหนื่อย และพร้อม ยอมทุกข์ยาก
โดยไม่อยาก ให้หนู รู้ปัญหา
เงินค่าเทอม ค่ากิจกรรม ค่าตำรา
และทุกค่า หนูจะได้(ไม่อายครู)..**
**..ชุดนักเรียน รองเท้า กระเป๋าใหม่
ค่าอาหาร ก็หาไว้ เตรียมให้หนู
อยากให้เรียน ให้ร่ำ มีความรู้
ไว้ต่อสู้ กับพรุ่งนี้ ที่โหดร้าย..**
**..โรงเรียนรัฐ จัดไว้ เพื่อฝ่ายรัฐ
ใช้นามบัตร ระบุเส้น ฝากเป็นสาย
หนูคงเรียน เอกชน ไปจนตาย
เพราะแม่เกิน ตะเกียกตะกาย ไปหามัน
**..วันนี้วัน เปิดเทอม ประเดิมภาค
หนูคงอยาก ไปเรียน เปลี่ยนความผัน
หนูจะพบ เพื่อนใหม่ ที่ในชั้น
จะมีวัน อันงดงาม ตามช่วงวัย..**
**..ลู่และลาน การแข่งขัน วันข้างหน้า
หนูคงยัง ไม่รู้ว่า เหนื่อยแค่ไหน
หนูไม่รู้ และไม่รอ ก้าวต่อไป
เท่ากับไม่ รู้เห็น ความเป็นมา..**
**.. ซึ่งกว่าหนู จะมี วันนี้ได้
แม่ต้องใช้ ความรัก มากหนักหนา
อย่าเห็นเลย สำหรับ คราบน้ำตา
อย่ารู้เลย ว่าอ่อนล้า มาเท่าไร
****.......เหมือนนิยาย เรื่องยาว เล่าไม่จบ
ซึ่งได้พบ ทุกวันเริ่ม เปิดเทอมใหม่
เขียนบันทึก ให้หนูอ่าน พอผ่านไป
โตเมื่อใด เมื่อนั้นหนู จะรู้เอง........
ผมหวังว่าทุกคนคงรู้กันดีนะครับว่าโตมาได้ทุกวันนี้ก็เพราะ...ใคร
ด้วยความหวังดี
ก.ประแสร์ ศิษยาพร + ก.นพดล รักษ์กระแส