29 พฤศจิกายน 2546 18:30 น.

ถ้า ^การให้^ คือ ^ความรัก^

ตู่นุดี

วันนั้น  ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ  ฉันเห็นยายแก่คนหนึ่งนั่งยกมือไหว้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา เพื่อแลกกับเศษสตางค์เล็กๆน้อยๆ ตรงหน้ามีกระป๋องที่มีเงินเพียงไม่กี่บาท   ด้วยความสงสาร ฉันจึงรีบควานหาเศษเงินในกระเป๋า  แต่ไม่พบแม้เพียงสักเหรียญ   ยายมองหน้าฉันด้วยความหวังว่าในกระป๋องจะมีเงินเพิ่มขึ้นอีกสักบาท   แต่ฉันไม่มีเศษสตางค์จริงๆ จึงเข้าไปถามยามว่า ^ยายหิวไหมค่ะ?^ ยายพยักหน้าหงึกๆ แทนคำตอบ  ฉันบอกยายคอยเดี๋ยวแล้วไปซื้อขนมปังมาถุงหนึ่ง   ยายยกมือขึ้นรับถุงขนมปังแล้ววางไว้ข้างตัว   แก้มยายเปื้อนไปด้วยน้ำตา  มือของยายเอื้อมมาจับมือฉันพร้อมกับพูดว่า ^ขอให้เจริญๆนะลูก มีกินมีใช้ทุกชาติ^ 
     ถ้าการให้คือความรัก  การให้ของฉันในครั้งนี้ น่าจะเรียกได้ว่าเป็นความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  ฉันไม่รู้ว่ายายปลื้มหรือดีใจเพียงไร  ฉันรู้เพียงแต่ว่าคืนนั้นฉันหลับฝันดี  และคิดถึงยายแท้ๆของฉันเหลือเกิน				
31 กรกฎาคม 2546 20:04 น.

นิทานเรื่อง "แม่"

ตู่นุดี

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วแม่ผู้แก่เฒ่าเดินไม่ได้คนหนึ่ง เป็นที่รำคาญใจของลูกชาย เหลือเกิน สมัยนั้นยังไม่มีสถานสงเคราะห์คนชรา ลูกชายจึงไม่รู้ว่าจะเอาแม่ไปฝากใครให้เลี้ยงจึงตัดสินใจแบกเอาไป ปล่อยทิ้งไว้ป่าลึกให้อยู่ตามยถากรรม แม่ไม่วอนขอ ไม่ถาม ไม่ว่าอะไร และตั้งใจหักกิ่งไม้ตามทาง เรื่อยไปเข้าป่าลึกไกลมากแล้ว ลูกชายวางแม่ลง บนโขดหินแล้วหันหลังเพื่อเดินกลับทางเดิมไปโดยปล่อยแม่ผู้แก่เฒ่าไว้เบื้องหลัง ตอนนี้เองที่แม่ตะโกนตามหลังลูกชายไปว่า ลูกเอ๋ย เดินตามรอยกิ่งไม้ที่แม่หักไว้ให้นะ จะได้ไม่หลงทาง... 
--เห็นไหมว่าขนาดลูกอกตัญญูเอาแม่ผู้แก่เท่าไปทิ้งแม่ไม่แม้แต่ตำหนิซ้ำยังเป็นห่วงกลัวว่าลูกจะหลงทางเลยหักกิ่งไม้ไว้ให้ลูก-- 
**นี่แหละความรักของแม่ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไรแม่ก็ยังคงรักลูกเสมอ**				
5 กรกฎาคม 2546 20:42 น.

ฉั น รั ก อ ยุ ธ ย า

ตู่นุดี

หลังจากที่ต้องจากบ้าน...  มีความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน  รู้สึกรักบ้าน  รักอยุธยา  รักจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ....บ้าน....แผ่นดิน....ที่ยืนอยู่แล้วมีความสุข
     พระนครศรีอยุธยา  หรือ เรียกสั้นๆว่า "อยุธยา"  และที่คนท้องถิ่นเรียกง่ายๆว่า  "ยุดยา"  เป็นบ้านเกิดของตู่เอง  กรู๊ววววว์   ภูมิใจมากๆ  ที่ได้อาศัยอยู่ในจังหวัดนี้  ถึงแม้ว่าไม่ได้เกิดที่อยุธยา  ชื่อในทะเบียนบ้านจะอยู่นนทบุรี  หรือแม้กระทั่งต้องเข้าไปในเรียนที่กรุงเทพฯ
     ก็...ไม่รู้จะกล่าวอะไรหรอกนะคะ  แต่อยากระบาย  ...  เอ...  เขียนอะไรล่ะ  อิอิ

     นี่ๆ  จังหวัดพระนครศรีอยุธยานะ  ไม่มีอำเภอเมืองหละ  (เจ๋งปล่าววววว!!!)  คิคิ  เพราะที่นี่มีแต่อำเภอพระนครศรีอยุธยาเลย  (อดีตอำเภอกรุงเก่า)  นี่คือความแปลกอีกอย่างหนึ่งของจังหวัดเรา  (มันแปลกในสายตาของคนอื่นไหมเนี่ย??)     
     แล้วมีอีกอย่างนะ  อยุธยามีเทศบาลนครด้วย...  เย้ๆๆๆ   เทศบาลนครนครศรีอยุธยา   ...เป็นไงหละ?...  (ขอย้ำ : นครนคร นะ)  เหตุที่เป็นเทศบาลนครได้  ก็เพราะบุญเพรงแต่ปางก่อนของบรรพบุรุษไทยได้สร้างไว้  เทศบาลนครนครศรีอยุธยาถึงมีรายได้มากมายมหาศาล  ส่วนมากได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จากชาวต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่  อีกทั้งความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินอยุธยา  บริบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร เนื้อ ปลา ต่างๆ  แต่หากอยุธยาแยกตนเป็นเอกเทศนะ  อยุธยาก็สามารถเลี้ยงประชากรของตนได้  โดยมิต้องพึ่งพาอาศัยประเทศไทย (เคยรู้มางี้นะ)  แต่อยุธยาไม่มีวันนั้นหรอก เพราะเราก็เป็นคนไทยด้วยกัน  อยุธยาก็เป็นไทย  เป็นส่วนหนึ่งของไทย  เหตุไฉนเล่าจึงต้องตั้งเป็นประเทศนิ...
     อ้อออ...  สิ่งที่ชาวยุดยาภูมิใจมากๆ  ก็คือ  อยุธยา..เป็นมรดกโลก !!!   เย้ๆๆ  หุหุ  หลายๆคนจะคิดว่า  อยุธยาเป็นมรดกโลกก็ด้วยเป็นเมืองเก่า มีซากปรักหักพังมากมาย  หนูขอบอกนะคะว่า...หาใช่ไม่...  อยุธยาไม่ได้เป็นมรดกโลกเพียงเพราะก้อนอิฐ  เศษหิน ดิน ทราย  แต่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)  ได้เล็งเห็นถึงภูมิปัญญาและพระปรีชาญาณของสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ปฐมบรมกษัตริย์แห่งกรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยา  ที่ทรงเลือกทำเลที่ตั้งการสร้างพระนครที่เหมาะสม  เหมาะแก่การตั้งอยุธยาเป็นเมืองหลวง  ทั้งความบริบูรณ์ของธรรมชาติที่ให้มาแก่แผ่นดินทองผืนนี้  ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สรรสร้างปราการสายนทีป้องกันข้าศึกศัตรูด้วยแม่น้ำ 3 สาย : เจ้าพระยา ลพบุรี ป่าสัก  เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก..ภายนอกพระนครก็จะเปลี่ยนจากทุ่งนาเขียวขจี  เป็นเวิ้งน้ำอันกว้างขวาง  ข้าศึกศัตรูก็ต้องยอมถอยทัพกลับไป  สมเด็จพระเจ้าอู่ทองจึงทรงใช้จุดนี้สถาปนาอยุธยาเป็นเมืองหลวง  และเป็นราชธานีของไทยมาเป็นเวลา 417 ปี


     รั ก อ ยุ ธ ย า จั ง เ ล ย ~ ~ ~				
24 เมษายน 2546 15:16 น.

RiCh Kid สอนให้รวย สู่อิสรภาพทางการเงิน

ตู่นุดี

ตัวอย่างบางส่วนของ  RiCh  Kid  
สอนให้รวย สู่อิสรภาพทางการเงิน 
โดย  Wit. Mas.  
ตลาดหลักทรัพย์จะไม่เป็นที่เสี่ยงอีกต่อไปเหมาะสำหรับนักลงทุนรายใหม่ที่กำลังจะก้าวสู่ตลาดหลักทรัพย์โดยไม่มีประสบการณ์ 
เนื้อหาเข้าใจง่ายสอนได้แม้แต่เด็กก็สามารถเข้าใจได้ 
ขอสงวนสิทธิ์ข้อความทั้งหมดในไฟล์นี้ (C) 2002-2005 
คำเตือน การลงทุนมีความเสี่ยงกรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน 
สารบัญ 
- ทำไมต้องสอนเรื่องหุ้น 
- การเริ่มต้น 
- หุ้นคืออะไร 
- เส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงิน 
- เกร็ดหุ้น 
- ภาษี ความเสี่ยง การออม 
- เพาะปลูกความอัจฉริยะ 
- ตอบแทนคืนสู่สังคม 
- เกี่ยวกับผู้แต่ง 

                                     บทที่ --1-- 
                          ทำไมต้องสอนเรื่องหุ้น 

คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายตื่นแต่เช้าไปทำงาน พอกลับบ้าน หรือมีเวลาว่างเมื่อไรก็จะเปิดทีวี หรือใครลงทุนหน่อยก็จะดูจากคอมพิวเตอร์คุณคงจะรู้นะว่าดูอะไรกันตามประสา ผู้ใหญ่ยุคนี้ก็หุ้นยังไงละครับ 
ลูกๆของคุณเคยถามหรือไม่ว่าดูอะไร? ดูไปทำไม? ดูเพื่ออะไร? 
คุณจะตอบเขาว่าอย่างไรไม่มีอะไรหรอก เรื่องของผู้ใหญ่ไม่ต้องยุ่งงั้นเหรอถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นความคิดที่ผิดแล้วเด็กคงคิดว่าถ้าไม่มีอะไรแล้วเฝ้าอยู่ได้ทั้งวันเด็กคงแปลกใจละครับที่คุณพ่ออยู่ดีๆก็ร้องโวยขึ้นมาทั้งๆที่ดูตัวเลขวิ่งๆอยู่ 
หรือคุยกับใครก็ไม่รู้เหมือนว่าจะซื้อขายของทางโทรศัพท์ 
เพราะฉนั้นคุณควรจะมีคำตอบให้เด็กๆจริงอยู่ที่หุ้นเป็นอะไรที่เข้าใจยากสำหรับเด็กคนหนึ่งแต่ก็เหมาะสมที่จะปลูกฝังให้เขาได้รู้จักอธิบายว่าอะไรเป็นอะไรก็จะทำให้เขาสนใจขึ้นมาบ้าง ไม่ได้ให้ยัดเหยียดเด็กนะครับควรสอนตามความสนใจของเด็กคนนั้นดีกว่า 
ทำไมต้องสอนเรื่องหุ้น 
     ที่ต้องสอนให้รู้จักเรื่องหุ้นก็เพราะ ในสังคมยุคปัจจุบันมีอะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนไปจากยุคของคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายที่ตื่นแต่เช้าไปเรียนกลับมาบ้านทำการบ้านวันหยุดก็หารายได้เสริมต่างๆมันเปลี่ยนไปแล้วครับมีอะไรมากกว่านั้นเยอะเลยทีเดียว 
และปัจจุบันหุ้นเป็นหนทางหนึ่งแห่งรายได้และผลประโยชน์มหาศาลมากจนคุณพ่อคุณแม่คงคาดไม่ถึงถ้ารู้จัก วอแรนต์ บัฟเฟต เขาคือใคร? 
เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งนั้นแหละแต่เขามีความคิดต่างออกไปจากคนทั่วไป 
นั้นคือการลงทุนวอแรนต์ ได้รับการปลูกฝังเรื่องการลงทุนมาตั้งแต่เด็กแน่นอนลงทุนในหุ้นทุกวันนี้เขาก็ได้เป็นบุคคลที่ร่ำรวยอันดับ2ของโลกรองจากบิลเกต 
     นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำไมจะต้องให้ลูกๆคุณรู้ไว้อย่าลืมนะครับว่าโรงเรียนไม่เคยสอนสิ่งเหล่านี้เลยแล้วใครจะสอนละก็คนยังไงละครับก็คุณยังไงละ 
     วันหนึ่งลูกคุณโตขึ้นไปประกอบอาชีพทำงานมีเงินเหลือเก็บออมและคิดที่จะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นทั้งสถานที่หารายได้และสถานที่เสี่ยงสุดๆแห่งหนึ่งคุณจะปล่อยให้ลูกของคุณเดินดุ่มๆเข้าไปงั้นเหรอ 
      แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะต้องเกิดขึ้นในประเทศไทย คนไทยจะทนความโลภของตนเองไม่ได้เช่นเดียวกับญี่ปุ่นและฮ่องกงซึ่งมีคนเล่นหุ้นมากมายเปรียบกับไทยแล้วยังห่างกันมาก 
ในที่สุดคนไทยก็จะมีการเข้าไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์กันมากขึ้นเช่นปัจจุบันมีคนมากมายไม่มีความรู้เกี่ยวกับหุ้นเท่าที่ควรเราเรียกคนเหล่านี้ว่า 
แมงเม่าแมงเม่าบินเข้ากองไฟแล้วคุณจะปล่อยให้เกิด แมงเม่าGenerationใหม่ในอนาคตอีกหรืออย่างไร 

                                   บทที่--2-- 
                                  การเริ่มต้น 
      เช้าวันหนึ่งลูกชายวัย15คุยกับพ่อว่า พ่อๆลองซื้อหุ้นตัวนี้ดูสิผมวิเคราะห์ตามปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการแล้วเหมาะกับตลาดตอนนี้มากเลย 
คุณจะรู้สึกอย่างไร? ผมว่าก็ไม่เลวนะ 
      คุณพ่อคุณแม่ที่อยากจะดูหุ้นด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อจะได้ติดตามอย่างใกล้ชิดแต่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์แบบ Snake Snake Fish Fish (งูๆปลาๆ) 
ก็ไม่อาจจะทำได้ไม่ลองให้ลูกคุณช่วยละแน่นอนเด็กๆสมัยนี้เก่งคอมฯกันนักเชียวลองให้เขามีส่วนร่วมดูสิครับแต่การเริ่มต้นยังไม่ใช่ตรงนี้ 
      ลูกคุณอายุเท่าไรแล้วละ 
ถ้ายังแค่6-7ขวบยังวิ่งเล่นซุกซนอยู่ละก็เรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วกันแต่ถ้าซัก14-15ขึ้นไปแล้วละก็เริ่มได้ 
       ให้ความเข้าใจกันก่อน 
มาถึงตรงนี้ไม่ว่าจะสอนยังไงก็ต้องคำนึงถึงจิตใจและความสนใจของเด็กแต่เมื่อลูกคุณให้ความสนใจเป็นอย่างดีก็ต้องให้ความเข้าใจไม่เห็นเด็กไปหมกมุ่นกับหุ้นมากเกินไปจนไม่เป็นอันรียนเพราะคิดว่าเล่นหุ้นได้เงินเยอะไม่ต้องเรียนก็ได้หรือไม่ต้องประกอบอาชีพอื่นต้องให้เขารู้ว่าเป็นความคิดที่ผิดที่จะไปหลงไหลว่าหุ้นจะได้เสมอไปความเสี่ยงคือความไม่แน่นอนหรือมันไม่ชัวร์นั่นเองต้องให้เขารู้ว่าสิ่งเหล่านี้พบได้ในหุ้นทั้งหลาย 
หุ้นไม่ใช่การพนัน 
และตลาดหลักทรัพย์ก็ไม่ใช่บ่อนการพนัน หลายๆคนบอกว่าคนเล่นหุ้นคือนักพนันทั้งสองสิ่งนี้มีความเหมือนและความแตกต่างในตัวของมันเองมีเส้นบางๆแบ่งสองอย่างนี้อยู่คือความเสี่ยงการพนันเสี่ยงร้อยเปอร์เซนต์ และเราควบคุมอะไรไม่ได้เลยส่วนหุ้นนั้นก็เสี่ยงร้อยเปอร์เซ็นต์เช่นกันแต่เราสามารถลดหรือควบคุมความเสี่ยงได้ 

                                   บทที่--3-- 
                                   หุ้นคืออะไร 
หุ้นในคำจำกัดความของผม 
หุ้น เป็นที่รวมของสรรพสิ่ง 
เป็นที่รวมของทุกวิชาการ เป็นทั้ง เศรษฐกิจ 
การเงิน การคลัง การธนาคาร จิตวิทยา จิตวิทยามวลชน 
เป็นทั้ง เป็นประวัติศาสตร์ เป็นศาสตร์และศิลป์ 
เป็นการลงทุน เป็นการพนัน เป็นที่ทดสอบจิต และใจ 
เป็นความเสี่ยง เป็นศาสนา สุ จิ ปุ ลิ เป็นทุกอย่างในโลกนี้ 
หากใครเรียนรู้จบ เขาอาจได้รับ รางวัล 
เกียรติยศอันยิ่งใหญ่ ความร่ำรวย ที่สำคัญที่สุด 
ในการลงทุนก็คือ ความสงบสุขในใจ 
ความสงบเป็นสุขอย่างยิ่ง สุขใดยิ่งกว่าความสงบไม่มี 
แม้อยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย โกลาหล ความโลภ ความ 
โกรธ ความเกลียด อิจฉา ริษยา ความกลัว ความกล้า 
แต่ก็ยังอยู่ยังร่มเย็น เป็นสุขได้ 
เห็นไหมละครับหุ้นไม่ใช่ตัวเลขวิ่งๆอย่างเดียวเป็นศาสตร์ชั้นสูงเลยทีเดียว 
ถ้าคุณประมาทคุณก็จะล้มเหลวถ้าสำเร็จคุณก็จะพบกับความมั่งคั่งและ 
อิสรภาพทางการเงิน 
                                       บทที่ 4 
                      เส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงิน 

ทำมั๊ยหลายคนประสบความสำเร็จ และร่ำรวยจากตลาดหุ้นและทำไมอีกหลายคนถึงได้พบกับสิ่งที่ล้มเหลวขาดทุนย่อยยับคำตอบคือ กลวิธีในการลงทุน และอารมณ์ในการตัดสินใจตลอดจนข่าวสารข้อมูลและการคาดคะเนของนักลงทุนต่างกัน ผมจะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าเส้นทางมันเป็นเส้นทางสู่อิสรภาพทางการเงิน ที่แต่ละคนมักจะเลือกเส้นทางที่ต่างกัน 
จากพื้นฐานในแง่มุมของคนเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่คือพวกเขาเข้าถึงข้อมูลที่แท้จริงพวกเขารู้จักการตัดสินใจที่เฉียบขาดพวกเขารู้จักจังหวะและแนวโน้มของสภาพตลาดโดยรวมได้เป็นอย่างดีและที่สำคัญสุดคือพวกเขามีโอกาสที่ดีอยู่เสมอ 
คุณรู้ไหมทำไมคนที่รวยมักรวยขึ้นเรื่อยๆคนที่จนก็มีแต่จนลง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตู่นุดี
Lovings  ตู่นุดี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตู่นุดี
Lovings  ตู่นุดี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตู่นุดี
Lovings  ตู่นุดี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตู่นุดี