25 ตุลาคม 2549 12:14 น.
ตลิงปริง
กว่าจะถึงจุดหมายปลายทางฝัน
ต้องบากบั่นฟันฝ่ากล้าฝึกฝน
อุปสรรคขวากหนามข้ามให้พ้น
แล้วอดทนเรียนรู้สู้ชีวา
เส้นทางฝันยาวไกลให้ลุกสู้
จงอย่าอยู่อย่างท้อแท้แพ้ปัญหา
นำความรู้คู่ความดีชี้นำพา
ชีพก้าวหน้าสู่ทางฝันวันของเธอ
25 ตุลาคม 2549 12:09 น.
ตลิงปริง
แม้นตัวฉันไม่หวานปานน้ำผึ้ง
คำไม่ซึ้งให้เธอละเมอฝัน
ไม่เป็นหนึ่งเหมือนใจหวังก็ช่างมัน
ขอเท่านั้นเป็นดอกไม้กลางใจเธอ
จะแบ่งบานแต้มสีสันให้มันหวาน
ทั้งดอกก้านตัดแต่งชูอยู่เสมอ
ไม่ปล่อยหนอนชอนไชมิให้เจอ
ไม่ให้เก้อดอกจะงามตามใจคุณ
18 ตุลาคม 2549 15:13 น.
ตลิงปริง
มองดวงดาวในคืนแรมแจ่มกระจ่าง
หยาดน้ำค้างพร่างพรมห่มใบหญ้า
แสงสาดสวยเรืองรองของจันทรา
ในศิราจึงเด่นเห็นเงาเดือน
ลมพัดแผ่วใบไม้เอนเอียงอ่อน
อรชรหอมบุปผาหาใดเหมือน
เสียงจักจั่นเรไรไม่ฟั่นเฟือน
คอยเป็นเพื่อนกล่อมบรรเลงเพลงเรื่อยไป
บรรยากาศพาจิตให้คิดถึง
ห่วงคำนึงคนรักที่ฝักใฝ่
ที่สองเราเคยสบตาภาษาใจ
เคยอยู่ใกล้แนบสนิทชิดเอียงกาย
คิดถึงจัง คิดถึง และคิดถึง
ใครคนหนึ่งคือฤดีมีความหมาย
เสียงบรรเลงเพลงกีตาร์พาลวดลาย
ยังกล้ำกลายวนเวียนไม่เปลี่ยนแปลง
18 ตุลาคม 2549 12:56 น.
ตลิงปริง
ป๊ะโทนโทน ป๊ะโทนโทน โทนโทนป๊ะ
เป็นจังหวะไพเราะเสนาะหู
ตีคราใดเสียงดังลองฟังดู
เพียงชั่วครู่ก็สิ้นสุดเสียงหยุดไป
แต่ปากคนเสียงพูดฟังนั้นดังกว่า
เจรจาเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่
ปากต่อปากอยากเชื่อน่าเบื่อใจ
จักอยู่ได้หากพูดดีศรีแก่ตัว
18 ตุลาคม 2549 12:44 น.
ตลิงปริง
เธอบอกฉันเขาแค่แฟนแทนยามหวั่น
สำหรับฉันเป็นคนรักมักห่วงหา
เขานั้นแค่ปลายทางในหางตา
กลางอุรามีแค่เราเขาห่วงใย
แต่จู่จู่คำพูดเธอก็เผลอเปลี่ยน
เป็นบทเรียนสอนฉันอันยิ่งใหญ่
เขาคนนั้นเปลี่ยนฐานะดูจะไว
เลื่อนขั้นไปเป็นเมียเสียตั้งนาน
ฉันจึงถอยหนีห่างทางของเขา
อย่าคิดเอาแย่งของใครให้ชั่วผลาญ
ศีลข้อสามจำให้มั่นทุกวันวาน
เดี๋ยวจะพานปีนต้นงิ้วตะคิวกิน