12 มีนาคม 2555 19:36 น.
ตราชู
โพลงเพลิง
ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒
ประชันโรจน์ ประโชติรุ่ง
เชวงพลุ่งชวาลเพลิง
กระจรหลายกระจายเหลิง
สมัยเลื่อนเสมือนลาง
มะโรงพรรษ มิรัฐแผ้ว
ตะลอนแถวตลอดทาง
สยดมองสยองหมาง
อเนกหม่น อนลมี
ระวังไฟระไวฟุ้ง
อุสุมปรุง อสูรปรีดิ์
ตะบิดสัตย์ เตอะบัดสี
ขนัดส้องคะนองทราม
ริถมให้ ฤทัยหิน
เพราะพลิกลิ้นพระเพลิงลาม
สนองเคียด เสนียดคาม
กระด้างเขื่องกระเดื่องขัง
มลากฝ่ายมุลายแฝง
ประยุกต์แย่ง ประโยชน์ยัง
ประเทืองเภท ประเทศพัง!
ทุเรศผล ทุรนโพย
พะวงคว้าผวาไขว่
เสาะหวังได้สวรรค์โดย-
เมลืองแห่งมิแล้ง, โหย
สุขุมหา สิขาหาย
เสลารักสลักรั้ง
วิบูลหวังวิบัติวาย
คะนึงอางขนางอาย
สะท้านอก สะทกอุณห์!
(๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕)
7 มีนาคม 2555 06:56 น.
ตราชู
มาฆะ มารคละ
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
จันทร์แจ้งแจรงจ้า
ทิวะมาฆะชื่นมาน
จุ่งใสฤทัยศานติ์
สุขศรีทวีแสน
เว้นชั่วเลอะมั่วฉาว
ประลุด้าวสราญแดน
ถั่งท้นกุศลแทน
หิตเทิดประเจิดธรรม์
กอปรดีฉะนี้เด่น
กิจเน้นคุณานันต์
แน่วสัตย์พิพัฒน์สรรค์
ศุภสรรพประดับทรวง
เจิดจุดพิสุทธิ์จิต
ศุจิปิดอบายปวง
ซ่านซึ้งประหนึ่งสรวง
สิริสร้างมิสร่างซา
พบพุทธิ์มนุษย์ผ่อง
พุฒิพ้องวราภา
ขอท่านตระการถา-
วรธรรมประจำเทอญ
โสตรับ สดับ รู้
คณะหมู่ทุชนเมิน
เฮฮาถลาเหิน
หฤหรรษ์ฉกรรจ์หีน
เผ่นโผนกระโจนผ้าย
บทป่ายกระไดปีน
เป็นตับขยับตีน
ระดะไต่วิสัยตน
ทรามซ้อน พระสอนสั่ง
มลหยั่งบยินยล
ค้างคาเจอะหน้าขน
เยอะแยะคึกพิลึกโข
โอ่อิทธิฤทธิ์เอิบ
วสุเติบพลังโต
มืดมิดสนิทโม-
หะทมิฬเกาะกินเมือง!
(ร่างเดิม ๖ ถึง ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ แก้ไขบางถ้อยคำ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ครับผม)
3 มีนาคม 2555 06:51 น.
ตราชู
เหย้าเย็น
กาพย์ฉบัง ๑๖ กลบทกบเต้นสามตอน
ร้อนเยือนเรือนเหย้าเรายาว
หยุดเน้นเย็นหนาว
ลองนึกลึกแหนง แล้งนาน
นาทีนี้ถอยน้อยธาร
แดดช่วงดวงฉาน
แจ้งชัดจัดช่างจ่างฉาย
อกภพอบผ่าวอ้าวภาย
คนร้อนข่อนราย
ถี่รุมทุ่มรุกทุกข์รน
น้ำใจในจิตนิตย์จน
หวังชัย ไวฉล
หลอกช่วงลวงใช้ไล่เฉือน
ทึม ฟาง ทางฝันธรรม์เฟือน
เพราหล้าพร่าเลือน
หมองไล้ไหม้หลายหมายลาม
ขอสรรพขับไสไข้ทราม
คอยติดคิดตาม
รู้ตักรักแต่งแรงเติม
คราญดั่งครั้งด้าวคราวเดิม
มุ่งให้ ไม่เหิม-
โลภหาบลาภหิวลิ่วหา
ทั่วมณฑลมวลถ้วนมา
ศรีเพิ่มเสริมภา
แสงผ่องส่องพัฒน์สัตย์เพ็ญ
รักยัง รังเหย้าเราเย็น
ม้างคด หมดเข็ญ
สุขคงทรงค้าง สร้างคาม
(ร่างเดิม ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ แก้ไขบางถ้อยคำ วันมาฆบูชา ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ครับผม)
หมายเหตุ
๑. การเล่นกลบท กบเต้นสามตอน กับกาพย์ฉบังนั้น ผมศึกษาเรียนรู้จากหนังสือ กฎบนกลบท รจนาโดย ท่านอาจารย์คมทวน คันธนู ครับ
๒. ผมได้งานชิ้นนี้มาจากความบังเอิญแท้ๆครับ ขณะกำลังเครียดเพราะอากาศอบอ้าว ก็พยายามหาอะไรทำ เพื่อมิให้หมกมุ่นแต่ ร้อนจังเลย ที่สุด ก็เขียนกาพย์เล่นครับผม