18 พฤษภาคม 2550 07:40 น.
ตราชู
สิบห้าปีพฤษภาทมิฬ
(งานเขียนชิ้นนี้ ผมได้นำไปให้ท่านสดายุตรวจแล้วในบล็อกของท่าน ผมต้องขอกราบขอบพระคุณท่านสดายุไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ)
เดือนหกหัวอกให้...............หวนหา
ถึงภาพเดือนพฤษภา...............ผ่านพ้น
ใครใดทอดกายดา-...............รดาษดื่น
ทอดท่ามรัถยาท้น...............ทั่วทั้งทางวิถี
สิบห้าปีเปลี่ยนห้วง...............แห่งสมัย
บันทึกเลือดคนไทย...............ที่ม้วย
ดวงใจกี่ดวงใจ...............จำจด
ใจกี่ดวงลืมด้วย...............อดีตโน้นนมนาน
ฉายฉานโชติชื่อชี้...............วีรชน
ยกค่าเยินยอคน...............แค่นั้น
ไป่นานเนิ่นอนุสนธิ์...............เซา, สงบ
บังเกิดเมฆากั้น...............ก่อเค้าระคางเมือง
เรืองเรืองเพียงครู่ร้าง...............แรมไกล
คือประชาธิปไตย...............แต่ง, สร้าง
ยังรัฐลุ่มหลงใหล...............ลอยเตลิด
ราษฎร์ไขว่คอยคอยค้าง...............ขุ่นแค้นใครเห็น
จึงกระเซ็นโลหิตสิ้น...............สูญหาย
สูญหมด หมดความหมาย...............มากแล้
ใครตายปล่อยเขาตาย...............ชะตาขาด
ใครอยู่คอยใหญ่แท้...............เที่ยวยื้อกฤตยา
พฤษภาปางก่อนพ้น...............ผันผิน
ยังหม่น พฤษภาทมิฬ...............ไม่เปลื้อง
โกงชาติพวกกังฉิน...............ชูเกียรติ
คือระบอบครอบทุกเบื้อง...............บาปทิ้งทับสยาม
(๑๔ พ.ค. ๒๕๕๐)
17 พฤษภาคม 2550 08:49 น.
ตราชู
หล้าไหว
กลอน กลบทสุรางค์ระบำ
พากย์ลือหวั่นลั่นว่าแผ่นหล้าไหว
หรือด้าวไพล่ ใดผลาญบันดาลแผลง
เหตุผวนเปลี่ยนเพี้ยนแปลกให้แผกแปลง
คนล้วนกล่นล้นแกล้งโลกแหล่งกลาย
หลายแหล่ฟากหลากฝ่ายแลหลายฝั่ง
สิงทรามคั่งสั่งคุมซ่อนสุมค่าย
คิดถ่อยล้นท้นล้ำคอยทำลาย
ไม่วางเร้น เว้นร้ายวุ่นวายรณ
อยากยิ้มชื่นยืนชื่อแย่งยื้อช่วง
เบียนโลกปวงล่วงไปบรรลัยป่น
กาลีเผยเลยเผาเกณฑ์เหล่าพล
อาวุธค้นวนไขว่ว่องไวคิด
โลกสะเทือนเลื่อนสะทึกพันลึกสะท้าน
ต่างรบต่อรอต้านรุกรานติด
ชั้นเชิงราญชาญเรี่ยวช่างเชี่ยวฤทธิ์
เลวปกจิตปิดใจโดยไป่จาง
เพียงยั้งรุทร์หยุดแรงยื้อแย่งรบ
หยุดเพื่อสบภพศานติ์เอาภารสร้าง
ย่อมแสงทองส่องธรรมเสกสรรทาง
ย่อมหล้าสร่างล้างโศกฟื้นโลกซวน
ปราศเรื่องหม่นรนไหม้ร้างไร้หมอง
เพลงพร่ำซ้องพร้องเสียงพร้อมเพรียงสรวล
สุขใจนักจักหนำเพิ่มจำนวน
ดวงมานชื่นมื่นชวนแด่มวลชน
(๑๗ พ.ค. ๒๕๕๐)
หมายเหตุ
๑. กลบท สุรางค์ระบำ นี้ พบได้ในหนังสือ ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน สำนวนของ ท่านนายทัตมหาดเล็ก ผมลองฝึกหัด โดยอาศัยงานของท่านคมทวน คันธนู เป็นครูครับ
๒. ท่านที่สนใจเรื่องกลบท สามารถศึกศาได้จาก
http://www.geocities.com/bot_kawee/kolbot1-3.htm
ครับผม
14 พฤษภาคม 2550 11:23 น.
ตราชู
ปรัศนีย์จากนักศึกษา
ท่านครับ....
โปรดสดับคำถามความกังขา
ผมเฉลยเอ่ยถามตามสงกา
ปริญญานั้นเขาขายได้หรือไร?
ก็ท่านนักการเมืองผู้เปรื่องโปร่ง
ทางเขาโล่งสะดวกหลามไร้หนามไหน่
ธนบัตรปัดปลิวพลิ้วพลิ้วใบ
เขาก็ได้ปริญญาเข้ามาครอง
จะเรียนตรีต่อโทตราบถึงเอก
มีเงินเสกทุ่มใส่ก็ได้คล่อง
เตรียมหรูเลิศเฉิดล้ำเที่ยวลำพอง
คนยกย่องเยินยออวยออเออ
ท่านครับ ศักดิ์ศรีมีหรือไม่?
โปรดช่วยไขคำขานสื่อสารเสนอ
คุณธรรมกับความจริงที่พบเจอ
ชั่งเพ้อเจ้อคนละข้อไม่ต่อความ
คนที่นำปริญญามาซื้อขาย
เขาอับอายบ้างไหมขอไถ่ถาม?
หรือเขาเคยลักษณะตะกระตะกราม
ไม่เกรงขามครหาวาจาใคร?
หากผมนำหนังสือเข้าห้องสอบ
โปรดช่วยตอบผมสักนิด ผมผิดไหม?
ถ้าผมผิด ผิดเพราะกฎกำหนดใด?
หรือญาติผมมิยิ่งใหญ่ให้คนยก?
การศึกษาแยกคนแยกชนชั้น
พวกหนึ่งอยู่สู่สวรรค์ชั้นที่หก
พวกหนึ่งอยู่อเวจีผีนรก
มันแปรผกเปลี่ยนผันแผกกันลิบ
อยู่สวรรค์สรรสาวสอยดาวสูง
ก็สอยจูงลงมาถือในมือหยิบ
อยู่นรกอกหนาวมองดาวระยิบ
มันพริบพริบพร่างพร่างอยู่ห่างมือ
คนที่ขายความรู้เป็นสินค้า
ไยผู้คนถ้วนหน้ายังนับถือ?
คนที่ได้ปริญญาโดยหาซื้อ
ควรขึ้นชื่อว่า ไอ้. อะไรดี?
(เขียนเมื่อปี พ.ศ. 2545)
ข้อชี้แจง
. ผมเขียนงานดังกล่าวขึ้น ขณะยังเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัย รามคำแหง ครับ กลอนบทนี้ มิได้มีเจตนาดูถูกคุณค่าของ ปริญญา เลยแม้แต่น้อย จุดบันดาลใจสำคัญของการเขียนก็คือ ในระยะนั้น มีข่าวประโคมเกรียวกราวว่า ข้อสอบวิชารัฐศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยรามคำแหงรั่วไหลออกไป และผู้ทุจริตในการสอบครั้งนั้น ก็คือลูกชายนักการเมืองผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ผมฟังแล้วหดหู่เหลือเกินครับ ประกอบกันกับ เสียงลือเสียงเล่าอ้าง เรื่องนักการเมืองใช้เงินซื้อปริญญา ก็มีให้ได้ยินหนาหู ผมจึงขออนุญาต (ในฐานะนักศึกษาคนหนึ่ง) ตั้งคำถามถึงความเป็นไปทั้งปวง เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ก็เท่านั้นเองครับ
12 พฤษภาคม 2550 09:59 น.
ตราชู
ความเป็นไทย
วัดวา, เวียง เรียงไสววิไลวิลาส
ให้ต่างชาติเชยชมภิรมย์ชื่น
ส่วนรายได้ไม่น้อยเราคอยกลืน
รับเงินหมื่น, แสน, ล้าน เนิ่นนานมา
โขน, ละคร ก่อนเก่าให้เขาเชิด
ไทยตะลอนคอนเสอร์ตเตลิดหล้า
เพลงฝรั่ง, หนังเกาหลี เลียนลีลา
ต่างเต้นก๋ากล้ากลั่นตามกันไป
ขลุ่ย, ซอ, ฆ้อง, กลอง, ระนาด ต่างชาติเล่น
ไทยตื่นเต้นวงสตริงว่ายิ่งใหญ่
ต่างชาติชื่นรื่นฤดีดนตรีไทย
เราปล่อยให้ป็อบ ร็อคหลอนหลอกเอา
เขาโอชาอาหารเขียวหวานไก่
เราคลั่งไคล้เคเอฟซีเสียนี่เล่า
เขาหลงความงามประไพผ้าไหมเรา
เราหลงเพราพรายพร่างผ้าต่างแดน
เขาเชิดชูบูชาวันมาฆะ
ส่วนเราล่ะ วาเลนไทม์เที่ยวไล่แล่น
โอ้เมืองไทยใครรู้คงดูแคลน
เคยแนบแน่นในเสน่ห์ประเพณี
มาใกล้เกลือกินด่างทุกอย่างด้อย
เคยเลิศลอยกลับล้าเลือนลาหรี่
ความเป็นไทยในวันหน้าหากว่ามี
คงพบที่นอกประเทศ....นอกเขตไทย
(๗ พ.ค. ๒๕๕๐)
10 พฤษภาคม 2550 14:37 น.
ตราชู
ก็มิใช่ญาติกาของนายก
คนเป็นผีกี่ครั้งท่านยังขรึม
ระเบิดบึ้มเท่าไหร่ท่านไม่เบื่อ
ความหม่นหมองครองคลุ้มมากคลุมเครือ
ท่านยังเชื่อ สมานฉันท์ เชิงชั้นชาญ
ทหารหลายตายบ้างก็ช่างเถิด
ถือว่าเกิดมากร้าวเหี้ยมห้าวกร้าน
เขาคุมกองป้องกันประจัญบาน
ตายในงานอันสง่านับว่างาม
ตำรวจตายหงายคว่ำช่างตำรวจ
ตายแล้วยวดยิ่งใหญ่สิ้นใครหยาม
ใช่ซุกซ่อนซอนซบเป็นศพทราม
แต่ตายท่ามหน้าที่ วิถีนำ
ชีพชาวบ้านรานร้าวช่างชาวบ้าน
อีกไม่นานคนร้ายมากหลายส่ำ
คงรอนรอนอ่อนล้าเลิกสาริยำ
แล้วกลับลำปุบปับถอยกลับไป
กี่ร่างฝากซากศพให้กลบหลุม
กี่เพลิงสุมเหลือแสนโซมแดนใต้
ใครแก้แค้นแล่นล่าไล่ฆ่าใคร
ก็มิใช่ญาติกาของนายก
(๑๐ พ.ค. ๒๕๕๐)