15 สิงหาคม 2549 07:52 น.

จันทร์ส่องหล้า

ตราชู

จันทร์ส่องหล้า

                จันทร์แจ่มวามแวมจ้า

บรรเจิดมาจากเมืองแมน

เฉิดดวงโชติช่วงแดน

ศรีแผ่นดินโสภินดล

                จันทร์แสงเจ้าแจ้งสุนทร์

แต่จิตขุ่นในใจคน

ใจจืดมิดมืดจน

เรืองแสงจันทร์ฤาสรรค์ใจ

                จันทร์ล่องจันทร์ส่องหล้า

อ่องอาภาอ่าอำไพ

ขอส่องครรลองใส

ครรไลสิ้นชีวินซม

                เดือนดับลงกับแด

ก็มีแต่เต็มเมือกตม

ความถ่อยเข้าคอยถม

เกินขืนทัดเกินขัดทาน

                หดหู่ราหูโหม

รุกรุมโรมเร้ารอญราญ

สืบมาจึงสามานย์

จนโสมมสั่งสมมอม

                ผันเปลี่ยนหรือเพียรปรับ

ไม่อาจกลับที่กรมกรอม

ผีแปลงยังแผลงปลอม

ย้ำแปดเปื้อนมิเลือนไป

                จันทร์ล่องจันทร์ส่องหล้า

จงส่องจ้าเจิมแสงใจ

รุ่งเรื้องอยู่เรืองไร

อย่าราร้างเป็นข้างแรม

(๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙)				
14 สิงหาคม 2549 11:07 น.

สื่อ, ซื่อ

ตราชู

เพื่อนๆทุกท่านครับ เมื่อไม่นานมานี้ รักษาการนายกฯ ของเรา ออกมาโทษสื่อมวลชนอีกแล้วครับ หาว่าตีความผิดพลาด ในกรณีที่ท่านกล่าวปราศรัยพาดพิงไปถึงคนกรุงเทพฯ ผมจึงขอเขียนงานสักชิ้น เพื่อให้กำลังใจสื่อฯ ทุกแขนง ให้ทำหน้าที่ต่อไป เปิดโปงกลโกงของใครบางกลุ่มต่อไป โดยไม่หวั่นไหวต่ออิทธิพลเงิน หรืออิทธิพลกำลังคุกคามใดๆทั้งสิ้น สื่อใดเสนอข่าวอย่างเที่ยงธรรม ท่านควรแก่การคารวะยิ่งครับ
สื่อ, ซื่อ
กลอน ๗ กลบท เจ้าเซ็นเต้นต้ำบุด
	สื่อฯ มีศรีมั่นสรรพ์เมื่อซื่อ
เมื่อสื่อมือสร้างม้างสิ่งหมอง
โศกหมมซมมีเสียงมี่ซ้อง
มวลสื่อมาส่องมองสิ่งมวล
	ซึ่งมารซ่านหมู่สู่มาซ้อน
หมายซ่อนมิดสรรพ์มันสุขม่วน
เสพเมืองเซื่องหมองส่องเมืองซวน
มองซากมากส่วนมวลสืบมา
	สื่อฯ มั่นสรรค์มานสานมือสู่
มุ่งสู้มารไซร้ไม่ซบม่าห์
สร้างมิตรสิทธิ์ใหม่ส่งไม่ซา
มารสามานย์สบไม่ซบมัน
	สร่างหมางสร้างมิ่งสิ่งมวลศิลป์
ไม่สิ้นมานศรีมีศักดิ์มั่น
สื่อฯ มาสามรรถสัตย์มุ่งซั้น
ไม่สั่นมั่นสร้างหมางโศกมุญจน์
	สื่อฯ มีศรีมั่นสรรพ์เมื่อซื่อ
มุ่งสื่อมองใสไม่ส่ายหมุน
สิ้นเมาห์เศร้าม่านซานมัวซุน
มอบสุนทร์มิ่งแสนแม้นสร้อยเมือง

(๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙)
หมายเหตุ กลบท เจ้าเซ็นเต้นต้ำบุด นี้ พบได้ในหนังสือ ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน  (ผู้บรรจงรจนาไว้คือ หลวงนายชาญภูเบศ) และหนังสือ กฎบนกลบท ของ ท่านคมทวน คันธนู
-------------------------------------------				
11 สิงหาคม 2549 09:05 น.

ศรีศรีราชินี มิ่งศรีสยามินทร์

ตราชู

ศรีศรีราชินี มิ่งศรีสยามินทร์
กุสุมิคลดาเวฬิตาฉันท์ ๑๘
		ศรีศรีสิบสองสิงหประลุศุภวาร
ปีติสำราญ							เสริงจินตน์
		ศรีศรีศัพท์แซ่ซ้องพิเราะสรระบิล
ภูมิธานินทร์							พระธานี
		ศรีศรีสมโภชไท้ ธ จุฬปฐวี
มวลประชามี							มโนรมย์
		ศรีศรีสรวมตังวายสริร์ฤดิผคม
มาตุองค์พรหม							พระทรงธรรม์
		ศรีศรีทรงรังรักษ์ชนสุขนิรันดร์
ราชินีขวัญ							นครไทย
		ศรีศรีสาธรเสริมพระชนมสมัย
เกริกประกาศไกร							พระเกียรติงาม
		ศรีศรีไพบูลย์โสตถิผลนิจยาม
ราษฎร์นิราศความ							ระคางใจ
		ศรีศรีสรวมพรพร้อมมรุคณะประไพ
เทิดถวายชัย							พระจอมชน
		ศรีศรีทรงครองฉัตรมหปฐวิดล
เนื่องประเนืองนน						                ทนาเทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นายชูพงค์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ประพันธ์ถวาย ด้วยความจงรักภักดียิ่งชีวิต พระพุทธเจ้าข้า
-------------------------------------------------------------				
10 สิงหาคม 2549 10:28 น.

ใครหลอกใคร?

ตราชู

เพื่อนๆทุกท่านครับ เมื่อวาน ตอนได้ฟังข่าว ผมกะว่า จะไม่เขียนอะไรแล้วเชียว แต่แล้วก็อดไม่ได้ เพราะ.
		วันนี้ปัญหาของคนไทยคือการโดนหลอก แม้กระทั่งคนมีความรู้ยังโดนหลอกง่าย ใครไม่รู้มาหลอกก็เชื่อ คนกรุงเทพเรียนหนังสือสูง ผมยังเสียดายปริญญาที่ได้มา
โดนคนไม่ดีหลอกด้วย ตรงนี้น่าห่วง ถ้าเรามีข้อมูลใครมาหลอกก็ไม่ได้

		(คัดจาก 
www.manager.co.th)
		ฟังกัน อ่านกันเถอะครับ คนที่บอกให้เราเลิกทะเลาะกัน กำลังก่อความแตกแยกขึ้น (อีกแล้วครับท่าน) แล้วตราชูจะเฉยอยู่ได้อย่างไรเล่าครับ
ใครหลอกใคร?
		ฉันคือคนกรุงเทพ
ที่ไม่เสพยศฐา
ไม่เพ้อเจ้อพูดจา
ให้คนเขาผิดใจ
ปริญญาที่มี
ด้วยเรียนดีสามารถ
แม้ไม่เพริศเลิศฉลาด
ก็ไม่พลาดเหลวไหล
พอรู้ทางรู้ทิศ
พอรู้ผิดรู้ถูก
ความดีมั่นขยันปลูก
ให้ดีเรื่อยเรื่อยไป
ฉันน่ะคนกรุงเทพ
ไม่ชอบเสพเงินทอง
จึงคลาไคลไม่คล่อง
เรื่องเข้านอกออกใน
พวกนักมายากล
เขาก็ก่นแต่กล่าว
พูดปดโป้ปาวปาว
ร่ำเรื่องราวร่ำไร
ฉันไม่หลงงงงัน
เขาว่าฉันงมโง่
มาพูดจาพาโล
เอ๋ย ว่าไม่รู้เรื่องใด
โอ๊ย! ด็อกเตอร์ด็อกต้ม
ชอบสะสมมุสา
ฉัน เสียดายปริญญา
พวกโจรายิ่งใหญ่
เรียนวิชาการเก่ง
เร่งวิชาโกงกาจ
อนิจจาน่าอนาถ
คุณว่าน่าอายไหม?
คนเงียบๆนั่งเงื่อง
คนเขื่องเขื่องวิ่งคล่อง
พวกลิ่วล้อก็สอดคล้อง
ไม่รู้ว่าใครหลอกใคร?

๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๙				
9 สิงหาคม 2549 11:51 น.

ไก่ได้พลอย

ตราชู

เพื่อนๆทุกท่านครับ วันนี้สบายๆ ผมจึงขอนำกลอนเก่าซึ่งแต่งเล่นๆไว้ในสมุดจดอักษรเบรลล์มาให้ลองอ่านกันดู เกิดกรณีพิพาทระหว่างคนกับไก่ขึ้นแล้วครับ
เพื่อนๆช่วยผมตัดสินทีนะครับ ว่าจะเลือกข้างไก่ถูกหรือคนถูกกันแน่

ไก่ได้พลอย

                ไก่เขม้นเห็นพลอยเดินคล้อยผ่าน

คนก็ขานแคะไค้ว่าไก่โง่

ไก่มันเศร้ากำสรดแสนอดโซ

ผอมกงโก้ก้มเลือกข้าวเปลือกกิน

                มันรู้ว่าเม็ดข้าวทุกคราวเคี้ยว

ช่วยขับความซูบเซียวให้สูญสิ้น

ถ้าเรี่ยวแรงแกร่งพอก็ปร๋อบิน

พ้นโรครุมราคินระคางระคาย

                คนเขม้นเห็นพลอยที่พร้อยเพริศ

กลับว่าเลิศในหล้าราคาหลาย

ทั้งที่ตัวถึงชะตาคราอดตาย

ใช่พร่องทุกข์ทับกายเพราะกลืนพลอย

                เม็ดข้าวเคี้ยวกลืนครู่ย่อมรู้อิ่ม

แต่เม็ดพลอยหรือจะลิ้มรู้รสอร่อย

ถ้าไร้ที่ซื้อขาย อย่าหมายคอย

จะหากินแต่สักหน่อยที่ไหนมี

                พลอยก็กลายเป็นแต่แค่เม็ดกรวด

หมดทางอวดโอ่จำรัสรัศมี

ไยคนนั้นแน่แน่วหลงแก้วมณี

หลงโสภีแสงผ่องส่องอำไพ

                ไก่ได้พลอย คนก็หาว่าไก่โง่

คนได้พลอย ไก่ก็โห่คนโง่ใหญ่

ต่างฝ่ายต่างเจรจาประสาใจ

คนกับไก่ใครเล่าเขลากว่ากัน?

(๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๘)

______________________________________________				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตราชู