3 ตุลาคม 2553 11:23 น.
ตราชู
ปฏิวัติปกรณัม
๑. ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒
ผนิดลึกผนึกหล้า
ติลกค่า ตุลาคม
ระเบ็งชื่อระบือชม
อเนกชนอนลฉาย-
พลังมาดพิลาสมั่น
ถวิลวันเทวษวาย
อุดมรุ้งอะดุงราย
จรูญรัตน์จรัสเรียง
ประชุมหน้าประชานาศ
อธรรม์ฆาตอธึกเคียง
สะเทื้อนซ่านสะท้านเสียง
ระทกซึกระทึกทรวง
สนามลานสนานเลือด
ระด่าวเดือดฤดีดวง
นิมิตเลือง ณ เมืองหลวง
สลายลับ สลับเลว
สขาเร้าสิเข้าเร่ง
เพราะพลุ่งเปล่งพระเพลิงเปลว
จะฝ่าห่า...จะฝ่าเหว
กระโจนหัต กระจัดหืน
ถลาหัน ถลันหา
ไสวป่า แสวงปืน
จุเร้นแฝงแจรงฟืน
อุราใฝ่อุไรฝัน
๒. วสันตวงศะฉันท์ ๑๕
เซ็งแซ่กระแสสรพะ สู้
พละจู่ประจญประจัญ
ก่อการก็ก่านมนฉกรรจ์
ยุตกิจ ณ จิต สกนธ์
โดยเราระเร่าพลวรุด
ตะละจุดประจัญประจญ
โดยพรรคฯ จะผลักประทุฐผล
อภิภพประสบวิภา
ไม่หยุดประยุทธปะทะแย้ง
ธชะแดงสล้างระดา
เหินหาวจะห้าวจรเสาะหา
บถให้พิชัยลุเห็น
เฉกนี้ฤหนีหทยหน่าย
ผิวสายรุเธียรกระเซ็น
ใจผองน่ะผ่องพิริยะเพ็ญ
นรผองจะต้องประไพ
๓. วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
ขวัญว้างคว้างหวิว
หวังลิ่ววูบหล่น
ดลมานดาลหม่น
อกล้นอาลัย
ภาพลักษณ์ พรรคล่ม
โศกจมสิงใจ
วารวันหวั่นไหว
โอ้ว่าอาวรณ์
ทรุดล้มซมล้า
ผันหน้าผินหนี
เด่นแสงแดงสี
ริบหรี่รอนรอน
เหมือนล่ามาหลง
ภูดงเผื่อนดอน
ต่างทาง ต่างถอน
เกลื่อนทัพกลับถอย
เล่ห์เขาเล่าขาน
เชี่ยวชาญช่ำชอง
ปรีดาปรองดอง
กลบร่องเกลี่ยรอย
ท่วงช้อยถ้อยฉ่ำ
สารอำ สำออย
เนื่องเขาเนาคอย
เค้น, กำ, ค้ำ, กุม
พ้องพานผ่านเพ่ง
งันเคร่งเงียบขรึม
เมืองครองหมองครึ้ม
มัวทึมม่านธุม
พาลควั่กพรรคไขว่
จัญไรจึงรุม
เลวทรามลามสุม
มาใส่ไม่เซา
๔. สัทธราฉันท์ ๒๑
ทบทวน ถ้วนถิ่นทมิฬเงา
ปริทิศนภเทา
ชาติอนาถเฉา
ชนาแด
เพลาพาปรวนกระสวนแปร
ชนตุลขณะแล
พร้อยปรุรอยแผล
ไถลพลำ
บ้างเพลินเงินงามอร่ามงำ
สธนะวณิชนำ
หนาธนาหนำ
เกาะเนานาน
บ้างเข้าเคารพสยบคลาน
กะบทพลทหาร
ชัดถนัดชาญ
แฉลบเฉ
สับสนคนส่ำคะมำเซ
ทลิททกประเด
พลั้งผุพังเพ
สภาพโรย
แล้วใครใดเล่าจะเผาโพย
ภิทะวิฆนะประโดย
ปรายสุหร่ายโปรย
ประพรมสินธุ์
ใครชิดติดด้าวสกาวดิน
หตะนิกรทมิฬ
เชิดประเสริฐฉิน
ประชาชน
(ร่างเดิม๒๙ ถึง ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๓ ปรับแปรแก้ไขบางถ้อยคำ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓)
หมายเหตุ:
วสันตวงศะฉันท์ ผมเขียนตามในหนังสือ ความรู้เกี่ยวกับร้อยกรอง ซึ่งท่านอาจารย์มะเนาะ แหละท่านอาจารย์วันเนาว์ ยูเด็น เรียบเรียงร่วมกันครับ ผู้เรียบเรียงทั้งสองท่านกล่าวว่า ฉันท์นี้ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงประดิษฐ์ขึ้น โดยทรงนำวสันตดิลกฉันท์กับ อินทรวงศ์ฉันท์ มาประสมกันครับผม
1 ตุลาคม 2553 08:14 น.
ตราชู
ฟิล์มดำ
เราต่างมีฟิล์มดำอันคล้ำด่าง
ซึ่งเราต่างก็กระดากมิอยากต้อง
ฟิล์มที่ฉายถ่ายกรรมตามทำนอง
ล้วนจดจ้องเห็นได้จากใจเรา
เราทำผิด คิดไพล่เฉไฉพลาด
โดยประมาท, มึนมัว, เกลือกกลั้วเขลา
ทุกภาพฟิล์มพิมพ์ประทับต้องรับเอา
รับแล้วเฝ้าสอนตนฝึกฝนไป
ฟิล์มคนอื่นปื้นด่างจงช่างเขา
ฟิล์มของเราอย่าสลด จงสดใส
สร้างความดีชีวาก้าวหน้าไกล
ถ่ายรูปไว้ในจิตตรึงติดจำ
ขอฟิล์มใหม่ไม่หมางเมื่อล้างภาพ
อย่าเหมือนคราบคาวเขรอะเปื้อนเปรอะคร่ำ
เป็นฟิล์มพรายถ่ายทัศน์วิวัฒน์ธรรม
กันฟิล์มดำอย่าให้เกิดในตน
(๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๓)
หมายเหตุ:
ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่สนใจข่าวคุณฟิล์ม รัฐภูมิ ครับ
25 กันยายน 2553 12:22 น.
ตราชู
จงสูจำ
เปิบข้าวทุกคราวคำ
จงสูจำเป็นอาจิณ
เหงื่อกูที่สูกิน
จึงก่อเกิดมาเป็นคน
อ่านคำทุกคราวคำ
จงสูจำซึ่งความจน-
ผองทาสผู้ทุกข์ทน
โศกขื่นถมสังคมไทย
จิตร ภูมิศักดิ์ พ่อ
เจตน์จดจ่อจากจริงใจ
เกียรติเชิดหวังเกิดชัย
มวลชนชัดจำรัสฉาน
คำคิดท่านขีดเขียน
คือคำเธียรคงทนทาน
เตือนนามเป็นตำนาน
อันแตกหน่อในธรณิน
ฟ้าลวกด้วยเปลวเลือด
ระอุเดือดทั้งแดนดิน
วอดวายทุกชีวิน
แต่คนยังจะหยัดยืน
ปวงคนย่อมเปี่ยมค่า
ใช่สัตว์ป่าสังเวยปืน
เปลวไฟจากปวงฟืน
จักฟูมฟ้าเจิดเฟื่องฟู
แล้วคนก็ลุกขึ้น
ตระหนักตื่นขึ้นพันตู
ผองพาลอันพล่านภูว์
ต้องพ่ายแพ้ประชาพล
อ่านคำทุกคราวคำ
จงสูทำอย่างสู้ทน
เจนนำ อย่าจำนน
ต่อหนามไหน่ในธานี
ฟ้ามืดเมื่อมีได้
ก็ฟ้าใหม่ย่อมคงมี
คำ จิตร พิจิตรพจี
ตรูตราจิต ตรึงติดใจ
แก้กฎที่เดือดดุ
ที่พังผุเป็นพิษภัย
ท่าวรื้อด้วยมือไทย
และสร้างกฎขึ้นทดแทน
กฎใหม่อำไพผ่อง
จะทาบทองแก่ด้าวแดน
สังคมที่คลอนแคลน
จะมั่นคงไร้วงทราม
แก้ชีพใช่ที่โชค
หากแก้โลกให้งดงาม
สังคมที่คุกคาม
ต้องมือคนสิกู้คืน
สังคมนี้กินคน
อย่าหลงกลให้กินกลืน
กำหมัดหยัดกายยืน
ยืนหยัดสู้...กู้โลกา
(ร่างเดิม พ.ศ. ๒๕๔๘ เสริมแต่ง พ.ศ. ๒๕๕๒)
หมายเหตุ
๑. กาพย์ยานีในเครื่องหมายอัญประกาศนั้น ผมคัดตัดตอนบางช่วงจากบทกวีของ ท่านจิตร ภูมิศักดิ์ มา ดังมีรายนามผลงานต่อไปนี้ครับ
ก. วิญญาณหนังสือพิมพ์ (คำเตือนจากเพื่อนเก่าอีกหน)
ข. โคลงสรรเสริญเกียรติกรุงเทพมหานครยุคไทยพัฒนา (ตอนที่ ๑)
ค. เสียงแผ่นดิน (ตอนที่ ๘)
๒. ผมนำงานชิ้นนี้มาลงที่นี่อีกครั้ง ในวันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๓ เนื่องเพราะ เป็นวันครบรอบแปดสิบปีชาตกาล ท่านจิตร ภูมิศักดิ์ ครับผม
17 กันยายน 2553 08:09 น.
ตราชู
ไข้เลือดออก
ยุงมากหลายร้ายเหลือกว่าเสือร้าย
เจ้ายุงลายยั้วเยี้ยนัวเนียยุ่ง
ไข้เลือดออก บอกกันเพราะพันธุ์ยุง
มันนำมุ่งมาชิดสนิทกาย
เกาะกัดใครไข้นั้นก็พลันติด
แต่...มีฤทธิ์หยูกยารักษาหาย
ไข้เลือดออกบอกกัน ป้องอันตราย
ฆ่ายุงตายดับไปลดไข้ลาม
ไข้จากยุงยุ่งแย่ยังแก้พ้น
ไข้จากคนนี่คิดแล้วจิตขาม
พวกขูดเลือดเชือดเนื้อทุกเมื่อยาม
สวาปามโกยกำไรผู้ใช้แรง
เขาเค้นดูดขูดเดือด คนเลือดดาษ
มีอำนาจหนุนนำ มีตำแหน่ง
มีลับเร้นเส้นสายขยายแยง
มีการแผลงพลิกเล่ห์โฉเกโกง
ข้างถูกรีดซีดหน้าเนืองยาจก
มิอาจยกย้ายไอ้จัญไรโขยง
หลายครั้งไล่ให้เตลิดโดยเปิดโปง
พวกเขี้ยวโง้งกลบยุบลด้วยกลงำ
โลหิตแล้งแห้งเหือด ไข้เลือดออก
มันย้อนยอกแยบยลเพราะคนขย้ำ
ไหนเล่ายาว่าวิเศษ ไหนเวชกรรม
โรคระยำยังประชิดตามติดพัน
สามฤดูพรูมาไหลบ่าระบาด
จู่โจมรุกอุกอาจฉกาจมหันต์
ถามซื่อซื่อสื่อคำซึ่งสำคัญ
จะป้องกันโรคนี้วิธีใด?
(๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๓)
หมายเหตุ:
เมื่อวาน ขณะผมนั่งทำงานอยู่ ได้ยินข้างนอกเขาประกาศปาวปาวบนรถกระจายเสียงให้ระวังโรคไข้เลือดออกซึ่งระบาดในช่วงนี้แล้ว เกิดแรงดาลใจให้เขียนงานนี้ขึ้นครับผม
12 กันยายน 2553 12:02 น.
ตราชู
เทิดศิลป์ธานินไทย
กลอน ๖ กลบทกบเต้นสามตอน
หวานกรรณวรรณกานท์วารก่อน
อาภรณ์อรผ่องอ่องแผ้ว
ถ้อยนำทำเนียบเทียบแนว
เกินแววแก้วหว่านกาญจน์วาม
มิ่งซา มาสร่างหมางศรี
บ้ายุคบุกยีบี้หยาม
มารคไหลใหม่ลักษณ์มักลาม
เห็นยามห้ามยากหากยล
ทัศน์ล้วนถ้วนเลศเทศหลอม
ยั่วปลอมย้อมแปลงแย่งปล้น
วัยรุ่นวุ่นร่อนว่อนรน
ใจเหม่อ เจอมนต์จนเมา
เลยแช แลชักลักษณ์ช้ำ
เทศฉ่ำทำชัย...ไทยเฉา
บรรุกบุกรันบรรณเรา
ศิลป์เก่าเศร้ากรรมซ้ำกุม
จริงตรงจงตรองจ้อง ตรึก
สำนึกซึกน้าวสาวหนุ่ม
หมั่นรู้ หมู่ร่านมารรุม
ขึ้นหลุมขุมเลศเขตลวง
ที่ในไทยนาน ฐานแน่น
ศิลป์หรรษ์สรรพ์แหนแสนหวง
เวี่ยติด วิทย์ตักวักตวง
เฉกรัตน์ชัดร่วงช่วงไร
สืบภาษาเพิ่มเสริมเพชร
กอปรเสร็จเก็จส่องก่องใส
เพริศวาวพราวแววแพรวไว
ชูเทิดเชิดไทยชัยเทอญ
(๘ ถึง ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๓)