5 สิงหาคม 2549 16:23 น.

สิทธิ์เราเท่าเทียม

ตราชู

สิทธิ์เราเท่าเทียม
ไม่มองจึงมองไม่เห็น
แม้เป็นเปลวแดดแผดเปรี้ยง
เอียงลำจึงตั้งลำเอียง
ไม่เที่ยงไม่ตรงคงทาง
เราหยัดยืนยงคงอยู่
ต่อสู้เติมสิ่งสรรค์สร้าง
ความเท่าเทียมทัดวัดวาง
เคียงข้างคงคู่ผู้คน
ตาบอด ใช่ติดสิทธิ์บอด
ทางทอดทึบทั่วมัวหม่น
น้ำเหงื่อเรารินดิ้นรน
เพื่อชาติของตนตรูตรา
ใช่ก้าวเกินก้ำคำขอ
ใช่ก่อเกินการหาญกล้า
เพียงขอสิทธิ์ที่มีมา
เพียงขอเงยหน้าสง่างาม
โปรดมองเพื่อมองให้เห็น
อย่าเมินความเข็ญมองข้าม
สุนทรแสงทองส่องทาม
เรืองราม สิทธิ์เราเท่าเทียม
(เขียนไว้ ณ ปี พ.ศ. ๒๕๔๘)				
4 สิงหาคม 2549 16:21 น.

แม่นั้นนิรันดร

ตราชู

แม่นั้นนิรันดร
		แต่เยาว์จนเติบใหญ่
หญิงหนึ่งใฝ่เฝ้าฟักฟูม
ผ่าเผยแลภาคภูมิ
เป็นผู้พึงพิงพึ่งพา
		หลั่งสายเกษียรสินธุ์
อุทกรินอิ่มธารา
ยืนหวังยังชีวา
มาเนิ่นวารนับนานวัน
		ข้าวอุ่นอันขาวอ่อน
ค่อยปรนป้อนค่อยปรุงปัน
พจน์พร่ำพร้องรำพัน
เพลงกล่อมนำเกลาทำนอง
		เพียรซ้ำสู้พร่ำสอน
ค่อยชูช้อนจนช่ำชอง
เคียงข้างประคับประคอง
จวบแข็งขัน จนมั่นคง
		มือน้อยสองมือนี้
เปี่ยมปรานีปองจำนง
ทอรักถักธำรง
บรรเทียบรุ้งที่รุ่งราม
		ปิ่นหญิงผู้ยิ่งใหญ่
ผู้ห่วงใยทุกโมงยาม
หญิงนี้แหละมีนาม
ว่า แม่ นั้นนิรันดร
(เขียนไว้ ณ พ.ศ. ๒๕๔๘)

-----------------------------------------------------				
2 สิงหาคม 2549 11:08 น.

น้ำตาใต้

ตราชู

น้ำตาใต้
กลอนเพลงตันหยง (ผมได้ต้นแบบจากบทกวี สิเหร่ตันหยง ในหนังสือ เขียนแผ่นดิน นิพนธ์โดย ท่านอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ครับ)
		ตันหยงตันหยง
หยงไรเล่าน้อง							หยงดอกระกำ
หรือเวรกรรมเก่า							เข้าครอบงำ
วาบไหวใจหวำ							ยิ่งอาวรณ์

		ความเอยความตาย
ชิดใกล้เฉียดกราย							คอยกวักกร
เอื้อมเอาชีวิต							ปลิดปลิวจร
ร้างลา รอนรอน							อ่อนแรงโรย 
		ตันหยงตันหยง
หยงไรเล่าน้อง							หยงดอกยมโดย
โดยยมหรือไร							รุมภัยโพย
โพยไห้ภัยโหย							คำนึงหวน
		ความเอยความเศร้า
ไม่สร่างห่างเหย้า							ยังแปรปรวน
เสียงครางเสียงคร่ำ							สำเนียงครวญ
อื้ออึง อื้ออวล							อกตรมตรอม
		ตันหยงตันหยง
หยงไรเล่าน้อง							หยงดอกพะยอม
จำยอมเขาหรือ?							ถือนิ่งออม
ให้เขาเข้าล้อม							ล่าทำลาย
		โจเอยโจรา
ไยเข่นชีวา							ไยฆ่าชีพวาย
ถ้อยอำทำแอบ							ด้วยแยบคาย
แค้นไม่แคลนหาย							หายเคืองกัน
		ตันหยงตันหยง
หยงไรเล่าน้อง							หยงดอกไม้จันทน์
นั่น! เมรุเผาพลุ่ง							คลุ้งกลุ่มควัน
นี่! คนอาสัญ							ซบซมจมดิน
		แดนเอยแดนใต้
น้ำเลือดหลั่งไหล							น้ำตาหลั่งริน
แผ่นอกผกเอียง							เพียงพังภินท์
ไม่สูญไม่สิ้น							โศกทรวงในเอย
(วันพุธที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2549)				
1 สิงหาคม 2549 09:21 น.

ข่าย

ตราชู

เพื่อนๆที่รักทุกท่านครับ งานเขียนชิ้นนี้ ผมถือเป็นของเล่นเท่านั้นเพื่อนๆอ่านแล้วจะด่าว่าประการใด ตราชูยินดีรับผิดทั้งสิ้นครับ เพราะอุตริเล่นเอง
		ตั้งแต่ผมได้อ่านหนังสือ กฎบนกลบท ของ ท่านคมทวน คันธนู และจดบทกวีเป็นอักษรเบรลล์เก็บไว้อ่านทบทวน ทำให้ผม นึกสนุก อยากเล่นกลบทดูบ้าง (ทั้งๆที่ตัวเองยังฝีมือด้อยนักหนา) ในบรรดากลบททั้งหลาย กลหนึ่งชื่อ เจ้าเซ็นเต้นต้ำบุด ถือว่าหฤโหด หฤหินมากมายเหลือเกินจนผมเคยสัญญากับตัวเองว่า จะไม่เล่นเป็นอันขาด แต่แล้ว เมื่อศึกษาทางพอจะจับเคล็ดได้ ก็นึกสนุก ค่อยๆด้นไปทีละวรรค ทีละวรรค เข็น ลาก ฉุดดึงตัวเองจนสำเร็จ แม้กระนั้น ด้วยข้อบังคับอันซับซ้อน ทำให้มีลักษณะ กลอนพาไป หลายแห่งมากๆ เพื่อนๆโปรดอ่านเอาสนุกแล้วกันนะครับ เนื้อหาของกลอน กล่าวโดยสรุปว่า คนรวยมักวางเขื่อง วางข่ายวางขุมดักคนจน คนเสียเปรียบให้ต้อยต่ำไม่มีโอกาสเอ่ยปากอะไรมากนัก เราควรช่วยพวกเขา ผู้ทุกยากให้กลับมีความสุขขึ้นมาอีกครั้ง นั่นแลครับ
ข่าย
กลอนกลบท เจ้าเซ็นเต้นต้ำบุด
		รวยเข้าเร้าเขื่องเรื่องขุกร้าย
แขงฤทธิ์คิดรายข่ายรอบขัง
เรียงข่ายรายขุมเร่งคุ้มรัง
ขันรึงขึงรั้งขังรัดคน
		ร้อยคำร่ำขานร่านโขเร้า
คึกรู้ขู่เร่าเข้ารุมขน
รันข้อนร้อนขุมรุ่มเข้ารน
โขร้อนข้อนร้นข้นแรงคุม

		รวยเข้าเร้าข่มฤทธิ์คมเร่ง
คึกเร้งคิดรั้นขันรอบขุม
รวมควบรวบเคียงเรียงเข้ารุม
คนร้อนค่อนรุ่มขุมแรงเคือง

		แร้วขึงรึงขันรันเข็ญรั้ง
คอยรายข่ายรังขังรอบเขื่อง
รายคนร้นไข้ไร้ความเรือง
เข็ญรุกขุกเรื่องเคืองร้ายคอย
		ร้อนไข้ไร้ค่าราคาไร้
ขานไรคงร่ำคำร้องค่อย
แร้นขมรมเขาเราค้นรอย
ขื่นร่ำคำร้อยคงรอยคำ
		เราคอยร้อยความรามโค้งรุ้ง
คืนรุ่งโคมรามคามรอบขำ
รับคนรนเขาเร้าขึ้นรำ
ขานเรียงเคียงร่ำคำรื่นควร
-----------------------------------------------				
29 กรกฎาคม 2549 09:43 น.

ดอกสร้อย ภาษาไทย

ตราชู

ดอกสร้อย ภาษาไทย

กาเอ๋ยการเวก
มาสรรค์เสกซาบซ่านบรรสานเสียง
แจ้วแจ้วเรื่อยเจื้อยร่ำร้องจำเรียง
ไพเราะเพียงเพลงพิณพลิ้วรินพรม
มิเทียมภาษาไทยซึ่งไพสุทธิ์
สำเนียงดุจดุริยาเทพาผสม
บรรโลมฉ่ำร่ำชื่นรวยรื่นชม
เอกอุตดมแดนด้าวอะคร้าวเอย

ภาเอ๋ยภาษา
แต่โบราณนานมาพริ้งผ่าเผย
เป็นมาลินประทินหล้าไม่ราเลย
ได้เอื้อนเอ่ยอรรถโอ่เอี่ยมโอฬาร์
คงความงามความจรัสฉายชัดชี้
เพ็ญศิลป์ศรีซาบซึ้งซึ่งภาษา
สืบจำนรรจ์บรรพชนแต่ต้นมา
คงคุณค่ามิ่งขวัญงามครันเอย

เด็กเอ๋ยเด็กไทย
โลกยุคใหม่มาย้อมมามอมหลง
หลงตาข่ายความคิดคล้ายติดกรง
จนงุนงง มักง่าย งมงายงำ
หลงภาษาต่างแดนชั่งแสนดื้อ
ด้วยถูกสื่อซึมซับสิ่งสรรพส่ำ
จงตื่นขึ้นจากหลับเร่งกลับลำ
อย่าเพลี่ยงพล้ำหลุมพรางเขาวางเอย

ลูกเอ๋ยลูกหลาน
ช่วยสืบสานโสภาภาษาสยาม
ให้ ไทย นั้นลั่นระบือบรรลือนาม
โลกเลื่องความอำนรรฆคงศักดิ์อนันต์
ร่วมเชิดชูบูชาภาษาชาติ
ไม่พลั้งพลาดใช้แผลงจนแพลงผัน
ช่วยเกื้อกูลคูณค้ำสิ่งสำคัญ
ภาษาไทย ไทยนั้นคงมั่นเอย

(เขียนไว้สำหรับวันที่ ๒๙ กรกฎาคม วันภาษาไทยแห่งชาติ)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตราชู