23 กุมภาพันธ์ 2550 10:52 น.
ตราชู
จตุคามรามเทพ
จอมขุนคุณล้ำดำรง
รำบาญหาญทะนง
ชำนาญชิงชัยในสนาม
อึงอื้อลือเล่ากล่าวนาม
ราวรวีศรีวาม
จตุคามรามเทพ ทุกภาย
องค์เทพเทวันพรรณราย
ไว้นามกำจาย
กำจรจำรัสจัดเจริญ
ชนทวยช่วยเทิดเชิดเทิน
แซ่ซั้นสรรเสริญ
เอิบซาบอาบซับสรรพเสียง
จึ่งเหรียญหลากหลายรายเรียง
ลือชัยไกรเกรียง
ชนกรากหลากกลุ้มรุมชิง
จึ่งภัยไสยศาสตร์พาดพิง
ขานอรรถคัดอิง
อ้างเอาอิทธิเดชเวทย์มนต์
เฮห้อมล้อมถึงอึงอล
คว้าไขว่, ขวายขวน
ไขว่คว้า, หา, ตาม ครามครัน
มีหลากอีกมากเหล่า
ยังยึดเงาอย่างงงงัน
เงาไสยฯ แทรกใส่สรรพ์
เข้าคอยสืบเข้าคืบสาย
ตามแล เห็นแต่หลง
งุนงวยงงจนงมงาย
คลั่งไคล้โดยไม่คลาย
ถือความ ขลัง คับคั่งคลุม
ขอจงจำนงจ้อง
เห็นมุมมองอีกแง่มุม
ก้มหลับอยู่กับหลุม
ก็โลเล กับเล่ห์ลวง
ส่องทัศน์ถึงสัจแท้
จึงแจ่มแดดั่งดาวดวง
แสงไล้ซึ่งใหญ่หลวง
สำเนียกลึกสำนึกหลอม
ความกลั่นแข็งขันกล้า
ในวิญญาณ์ไม่เยงยอม-
สิ่งแปลกแซงแทรกปลอม
มาเปลี่ยนปล้นมาปนแปลง
บงแยบเอาแบบอย่าง
ไร้เคลือบคลาง ไร้เคลือบแคลง
ฝันใฝ่จุดไฟแฝง
แข่งไฟฟืนขึ้นฟื้นฟู
แรงเน้นรวมเป็นหนึ่ง
เมื่อยืนตรึงต้านศัตรู
คึกคักกันอักขู
เข้มแข็งขันป้องกันคาม
ห้อยเหรียญให้เรียนรู้
รู้ต่อสู้ตัดสิ่งทราม
คึ่กคึ่กให้ศึกขาม
สมคุณค่าราคาคุณ
(๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐)
22 กุมภาพันธ์ 2550 08:21 น.
ตราชู
ปูผ้ากราบ
โคลงกระทู้โบราณ (ทะ ลุ่ม ปุ่ม ปู, ทุ สุ มุ ดุ, อุ สา นา รี, โก วา ปา เปิด, จก จี้ รี้ ไร)
โคลง ๔ ดั้นบาทกุญชร
ทะ เลเลือดหลากล้น รินไหล
ลุ่ม ลึกกโลบายบร บุกท้า
ปุ่ม กดก่อบรรลัย เลวระเบิด
ปู ซากศพซ้อนหน้า อนาถเหลือ
ทุ รนบังเกิดร้าย รุมระกำ
สุ จริตตายเป็นเบือ อุบัติเศร้า
มุ สันติสุขฤาสัม- ฤทธิ์สุข
ดุ ฆ่าเดือดแค้นเข้า เข่นสยอง
อุ บายรัฐปลุกสร้าง สงบคืน
สา รพัดปูผ้ากอง กราบไหว้
นา นาโหดยังหืน โหมบาป
รี รี่ป่วนด้าวใต้ ต่างเหิม
โก ลาหลกราบร้าง ไร้ผล
วา ทะเที่ยวแถลงเติม แต่งปั้น
ปา- หี่หลอกราวกล กุข่าว
เปิด พล่ามว่ารู้ชั้น ล่วงเชิง
จก แต่คำกล่าวใช้ เฉิดฉัน
จี้ ผิดจึ่งโพลงเพลิง พล่านร้อน
รี้ ริกร่ำรำพัน พูดปด
ไร เล่าปักษ์ใต้สะท้อน ทั่วสถาน???
(๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐)
หมายเหตุ กระทู้โบราณเยี่ยงนี้ ผมเรียนรู้จากกวีหลายท่านครับ มี "ท่านอังคารกัลยาณพงศ์" เป็นอาทิครับผม
18 กุมภาพันธ์ 2550 15:12 น.
ตราชู
พรตรุษจีน
จากแผ่นดินถิ่นกว้างใกลห่างโพ้น
ฝ่าคลื่นโยนยาตรานาวาใหญ่
ออกร่อนเล่ชะเลแดนเรือแล่นใบ
สู่แดนไทยธรณินทร์บุรินทร์ทอง
จึงมังกรร่อนหาวอะคร้าวเหิน
จึงจำเริญพรรณรายพริ้งพรายผ่อง
ไทยจีนจึงตรึงจงจำนงจอง
ดวงใจผองสัมพันธ์ผูกฟั่นเกลียว
สร้างตำนานการค้ามูลค่าล้น
สร้างสรรค์ชนสองชาติเก่งกาจเชี่ยว
ดั่งรวมคล้องสองแดนเป็นแคว้นเดียว
พร้อมยึดเหนี่ยวอยู่ในน้ำใจภักดิ์
ภักดียังฝังผนึกรำลึกอยู่
โดยร่วมกันกตัญญูอย่างรู้หลัก
รักชาติเฉิดเชิดชูต่างรู้รัก
จำรัสอาณาจักรประจักษ์จินตน์
จง ซินเจียยู่อี่ เอี่ยมศรีใสว
จง ซิงนี้ฮวดไช้ โชคชัยถวิล
อวยแรงร่ำทำมาหมั่นหากิน
ไม่ปล้อนปลิ้นปล้นป่ายตะกายปีน
ร้อยรัดบ่วงดวงมานบรรสานมั่น
อย่าซวนสั่นเซซัดเสื่อมสัตย์ศีล
อย่าเป็นไทยใจระยำเหมือนต่ำตีน
อย่าเป็นจีนขายชาติพิฆาตชน
(๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐)
16 กุมภาพันธ์ 2550 09:46 น.
ตราชู
ยามเฝ้าแผ่นดิน
เวียงไทยหวาดไหวทั่ว
ริกริกรัวแลร้อนรน
เคี่ยวขับ คนกับคน
ยังค้างคา ยังน่าขาม
ก้องกึกข้าศึกเก่า
คอยจ้องเข้าขู่คุกคาม
ห่วงใยจึงใช้ยาม
คือ แป๊ะยักษ์ ปักหลักยืน
ยักษ์เอ๋ย....อย่าเอ่ยอ้าง
สุมไฟฟางสู่ฟ่อนฟืน
เผ่าพ้อง ภพผ่องผืน
จักพับแผ่ พ่ายแพ้ภินท์
จงห่วง จงหวงแหน
เฝ้าผืนแดน เฝ้าแผ่นดิน
ชูเชิดความเฉิดฉิน
ใช่เฉเฉียงมุ่งเพียงชัง
มัวกู่ ด่าหมู่เก่า
พลุ่งเพลิงเผาให้พับพัง
หนักแค้นอัดแน่นขัง
โดยคึกคักด่าอักโข
มุ่งหมายยกนายใหม่
ให้ยิ่งใหญ่ คนไชโย
แรงเติบกำเริบโต
รุ่มร้อนติดแผลงฤทธิ์ตาม
ยักษ์เอ๋ย....จงเอ่ยอ้าง
ทุกสิ่งอย่างสมเป็น ยาม
ตอบถ้อย ทั้งคอยถาม
ครบ, ถี่ถ้วน ถึงมวลธรรม
จงใช้ หัวใจ ชี้
สิ่งใดดี, สิ่งใดดำ
อย่าขามกับความขำ
ต้องไสขับสิ่งคับขัน
ใฝ่เห็นแล้วเฟ้นหา
มีหูตาอย่าตีบตัน
ก้าวนำเพื่อกำนัล-
สุขถ้วนหน้าสู่ธานี
(๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐)
หมายเหตุ
คำว่า ความขำ เป็นคำเก่าครับ ซึ่งหมายถึงเรื่องอันมีนัยหรือควรปกปิด ขอยืนยันด้วยพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ดังนี้ครับผม
ขำ
คำ :
ขำ ๒
เสียง :
ขำ
คำตั้ง :
ขำ ๒
ชนิด :
น.
ที่ใช้ :
ที่มา :
นิยาม :
สิ่งหรือข้อความที่มีนัย ไม่ควรเปิดเผย เช่น ความขำต้องอำพราง.
(นำข้อมูลจาก
http://rirs3.royin.go.th/ridictionary/lookup.html
ครับผม)
13 กุมภาพันธ์ 2550 13:51 น.
ตราชู
แม่ศรีสุพรรณหงส์
(รูปแบบการเขียน ได้เรียนรู้จากบทกวี แม่ศรีเอย นิพนธ์โดย ท่านเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ จากคอลัมน์ ข้างคลองคันนายาว หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ครับผม)
แม่ศรีเอย แม่ศรีสวยสม
อวดเนื้ออวดนม ยั่วนวลยวนเนียน
อย่าเหลิงเริงนัก จงรักการเรียน
อย่าโปร่งโล่งเลี่ยน เลยงามทรามวัย
แม่ศรีเอย แม่ศรีอัปสร
มีผ้ามีผ่อน อาภรณ์อำไพ
เปลื้องผ่อนเปลื้องผ้า จี๋จ๋าถึงใจ
ไปไหนต่อไหน ลอยหน้าลอยตา
แม่ศรีเอย แม่ศรีสดใส
เหมือนดวงดอกไม้ มาลัย มาลา
ควรออมถนอมนวล ชื่นชวนบูชา
เพิ่มคูณพูนค่า โสภาบุษบัน
แม่ศรีเอย แม่ศรีสุพรรณหงส์
สำรวยสวยทรง ใหลหลงลาวัณย์
ต้องรู้กาละ- เทศะสำคัญ
จึงควรคู่ขวัญ แก้วกัลยาเอย
(๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐)