1 มิถุนายน 2550 08:25 น.

นาฏกรรมการเมืองไทย

ตราชู

นาฏกรรมการเมืองไทย

(รูปแบบในการเขียน ได้แรงบันดาลใจจากการท่องบทอาขยานบางตอนใน รามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช การเรียนรู้กลบทบางส่วนจากวรรณคดีเรื่อง สิริวิบุลกิตติ ของ ท่านหลวงศรีปรีชา (เส้ง) รวมถึงหนังสือประชุมจารึกวัดพระเชตุพน และตำรา คัพภครรลองร้อยกรองไทย รวบรวมเรียบเรียงโดย ท่านอาจารย์วัฒนะ บุญจับ นักอักษรศาสตร์แห่งสำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ตลอดจนบทกวีชุด ภาราสาวัตถี กับ เพลงยาวร้าวสมัย ของ ท่านคมทวน คันธนู ครับผม)
กลอนบทละคร
	มาจะกล่าวบทไป
ถึงเมืองไทยไม่ถ่องทาบทองทั่ว
ขุ่น, รน คนร้ายรำร่ายรัว
ช้ำนิตย์ชิดนัวความชั่วเนือง

	สิงเหย้าเศร้าย้ำสุดย่ำแย่
ทุกข์แปล้แท้ปลดไม่ถดเปลื้อง
พาดกิ่ง พิงก้าน พรรคการเมือง
เติบโขโตเขื่องกระเตื้องครัน

	ทำบ่อย ถ่อยบ้าบีฑาบุก
กด, ยี กี่ยุคไม่เกรงยั่น
ล้นแผ่แลผายหลากหลายพันธุ์
ช่างก่อฉ้อกันแต่ชั้นโกง

	เผยแง่แผ่เงาลำเพาสง่า
ซ่อนห่าสาหัสแห่งสัตว์โหง
สายยาวสาวยื้อซื้อโยง
ลากเขยื้อนเลื่อนโขยงขยับคลา

	นอนยั่ง นั่งยัดขนัดย่าน
ดื้อ, หนา ด่านานยังด้านหน้า
ขนสมุนขุนสมัครชักมา
รอโถมโรมถาภาราไทย ฯ
กลบท กบเต้นสามตอน
	บัดนั้น
หวังมานวารมั่นวันใหม่
โศกนำซ้ำหน่วงทรวงใน
เศร้าไร้ ใสร่ำสำราญ

	บาปเสี้ยนเบียนเซาเบาซบ
ผ่อนเสียงเพียงสบพบศาล
ยุบพรรคยักษ์ผู้อยู่พาล
แนวท่านนั่นแท้แน่ธรรม

	ตัดทรามตามสัตย์ตัดสิน
แทตย์สิ้นถิ่นสุขทุกส่ำ
เผยจากพากย์จดพจน์จำ
หยัดขึ้นยืนคำย้ำคง

	เจิดแต้มแจ่มเติมเจิมแต่ง
รุ่งโสตถิ์โรจน์แสงแรงส่ง
เทิดซื่อถือสรรพ์ธรรม์ทรง
ตรึงยงตรงอยู่ตรูยาม ฯ
	บัดนั้น
ศาลท่านซั้นทวนสอบสวนถาม
คืบเต้าเข้าติดครุ่นคิดตาม
วายครั่นหวั่นคร้ามเกรงขามใคร

	ชั่ว, ดี ชี้ได้ไฉไลเด่น
เนืองคำนำเค้นเน้นขานไข
ล้มฐานลาญทักไทยรักไทย
พวกฉลพลใช้กลไกชัด

	พรรคยงพงศ์ยังพร้อมพรั่งเยี่ยม
อ่องเปี่ยมเอี่ยมเป็น ประชาธิปัตย์
ชาญคำช่ำเขียนเชียรคัด
เชิงจ้านชาญจัดชัดเจน

	เชี่ยวครันชั้นครูมีอยู่ครบ
ลางแพ้แลพบรีบหลบเผ่น
ผันวารผ่านวนเลยพ้นเวร
เบิกกฎบทเกณฑ์มาบังกาย


ฝากวาจาถึงประชาธิปัตย์
กลบทสุรางค์ระบำ

	ใช่เอ่ย, บอก ออกเบนโอนเอนเบี่ยง
ก่อกิจเพียงเกี่ยงผ่านพ้นกาลพ่าย
แล้วอ้างหลอนอ้อนหลอกยามออกลาย
โศภิศหลาย ภายหลังซิ่พังลาญ

	จงแน่วคิดนิตย์คุณเจตน์หนุนค้ำ
สร้างนันท์ซ้ำนำซึ้งสำนึงศานติ์
เปล่งฉายดื่นชื่นดลปวงชนดาล
เกิดสุขปราณซ่านปรนกุศลปรุง

	พ้นโพยฤทธิ์พิษเร่าที่เผาร้อน
ความทุกข์รอนถอนไร้ ถิ่นไทยรุ่ง
ดลเรี่ยวแกร่งแรงเกริกได้ฤกษ์กรุง
พริ้งเพรามุ่งพรุ่งหมายเพริศพรายมา

	เห็นเมืองผ่องหมองผ่านหมอกม่านพ้น
เห็นผู้คนผลคูณเพิ่มพูนค่า
เห็นซึ่งใจใสจัดส่องสัจจา
เห็นแสงถ่องส่องทาหรรษาไทย

(๒๘ ถึง ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)				
31 พฤษภาคม 2550 11:31 น.

วันวิสาขบูชา

ตราชู

วันวิสาขบูชา
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
	ไพสาข์พิเศษรุจิพิสุทธิ์
ปิติจุดเจริญใจ
เปี่ยมแผ้วประภัสสรประไพ
ศุภผ่องระรองพรรณ

	ใจจินตน์ ธ จอมพระพุทธ์เจ้า
คติเนาคุณานันต์
ทรงผ่องสุภณจรลิผัน
นฤเภทกิเลสพูน

	ร้อนเหลือมลายอคนิลับ
ฤดิดับอุราดูร
ทรงศรีนุศาสน์มนุชสูญ
มนโศกวิโยคสิง

ธรรมเลิศ ธ หลั่งมธุแถลง
กระจะแจ้งกระจ่างจริง
เอกอรรถ ธ อวยวจนะอิง
มละโอฆลุโชคอวย

	ไพสาข์พิเศษขณะพิสิฐ
อกนิษฐะอำนวย
ซาบซึ้งพิสัยหทยะสวย
วิยศรีมณีโสม

	ใจใสจะสร้างรุจิระสู่
ถิระคู่แถงโคม
เที่ยงแท้พระธรรมนิรโทม-
นสะเทิดประเสริฐเทอญ				
26 พฤษภาคม 2550 11:03 น.

พิรุณธาราแห่งน้ำพระราชหฤทัย

ตราชู

ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ ผมขอแถลงก่อนว่า งานเขียนชิ้นนี้เกิดขึ้นเมื่อเย็นวาน หลังจากผมฟังข่าว เห็นท่าทีพรรคการเมืองต่างๆ น้อมรับในพระราชดำรัสแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กลุ่มที่ทำท่าว่าจะก่อความวุ่นวายก็สงบ ผมจึงขอเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน ด้วยงานเขียนซึ่งออกมาจากความรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่านครับ
พิรุณธาราแห่งน้ำพระราชหฤทัย
	เทียมฝนธารถั่งฟ้า...............ฝากไผท
ชูจิต เจิมดวงใจ...............กระจ่างแจ้ง
เคยวาบหวาดอกไหว...............ผวาหวั่น
เกรงยุ่งความขัดแย้ง...............ขื่นญ้ำวิโยคยาม
	
ลุกลามจนแหล่งหล้า...............ล่มจม
มัวมืดมารหมักหมม...............หม่นไหม้
ชนพฤณฑ์หยาดเลือดพรม...............พรูสาด
รินหลั่งชลเนตรไล้...............อนาถล้ำลาญขวัญ

	ฉับพลันองค์ผ่านเผ้า...............ภูมี
ทรงสยบภัยยายี...............หยุดขึ้ง
สุรศัพท์พระทรงศรี...............ศักดิ์สิทธิ์
เย็นซ่านยามยินซึ้ง...............โสตนั้นเสาวนา

	หยุดพาพรรคพวกผ้าย...............โผนผจญ
ดับดุแดอันดล...............เดือดร้อน
หยุดความวุ่นวายขวน...............ขวักไขว่
หยุดป่าวสรรพ์ปดซ้อน...............ปั่นซ้ำป่วนศาล

	ดาลฝนแดนฟากฟ้า...............ฝากดิน
ดินจักรวมใจจินตน์...............เจิดจ้า
ใจชาติจุ่งฉายฉิน...............ฉันเฉิด
ชูชาติไทยไม่ช้า...............มุ่งชี้ชัยเสมอ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นายชูพงค์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ขอถวายความจงรักภักดีด้วยชีวิต พระพุทธเจ้าข้า
(๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)				
23 พฤษภาคม 2550 15:41 น.

๒๒๕ ปี ศรีรัตนโกสินทร์

ตราชู

๒๒๕ ปี ศรีรัตนโกสินทร์
(แรงบันดาลใจจากบทกวีร่วมสมัยอันสะท้อนสภาพสังคมกรุงเทพหลายบท จากกวีหลายท่าน รวมถึง กำสรวลโกสินทร์ ของ ท่านคมทวน คันธนู ครับผม)
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
	ศรีศรีวิศาลวิสิฐศักดิ์
ศุภลักษณ์เฉลิมเลอ
ยรรยงผยองยศเผยอ
ทิฆยั่งจิรังยาม

	ศรีศรีประเสริฐดิลกศรี
ธรณีอุโฆษนาม
มั่นคงนครบวรคาม
บุรขัณฑ์อนรรฆ์โข
	ศรีศรีพิเศษพิพิธสิ่ง
สิริยิ่งสุภิญโญ
ปรากฏประกาศรตนโก-
สินทร์แก้วพระแพร้วกาญจน์

	โดยเดิมอดีตอุดมเด่น
สุขเพ็ญประสบพาน
แสงโชติประชันชุษณะฉาน
ชนชมภิรมย์เชียง

	บันเทิงบ่ทิ้งวฒณธรรม์
อภิวันทน์ขนบเวียง
แซ่โสตประสานสวนเสียง
เสนาะซั้นเพราะสรรเสริญ

	เพ็งพูนประภพบุรพผ่าน
ทินผลาญอดีตเพลิน
เทพกรุงถกลทิพถะเกิน
ปะทะกรรมกระหน่ำกูณฑ์

	ดังเทวท่านบมิสถิต
ดลพิษอะดักพูน
อาสัตย์สะสมคณะอสูร-
บริษัทขนัดสิง

	มั่นหมายพิมานสุรเสมอ
จะเจอะเจอก็ยากจริง
หวั่นหวั่นพะวงจิตประวิง
มนหวังมล้างวาย

	ปัญหาประหัตปะทุประหาร
ผิวต้านมิพ้นตาย
ทั่วหล้าธราดุจสลาย
พุฒิลี้แหละลีลา

อีทิสังฉันท์ ๒๐
	โอ! วิลาสประไพวิไลประภา
ประดับรจิตประดิษฐ์รุจา
แจรงกรุง

	ใครล่ะอาจประดังพลังผดุง
ประสงคยึดประพฤติพยุง
สงบเย็น

	สรรพสิ่งประดาษฉกาจประเด็น
เกษมวิสัยมิได้กระเส็น-
กระสายมี

	น้ำเขรอะเน่า ณ ธานละหานนที
พระเจ้าพระยากระหม่าฤดี
ระด่าวรุม

	ท้องถนนน่ะยนตยานประชุม
ประชาทะลักประดักละลุม
แหละลนลาน

	ควันอนันตพิษพิกฤตพิการ
คละคลุ้มนภามหาพิมาน
สลัวมล

	ทั้งพะวงผวาพะวักพะวน
ชิวาตม์ประชิดกะมิจฉชน
ฉะเชือดกาย

	ฆาตกรกระโจมคระโครมกระจาย
เขม็งขมึงคะนึงขมาย
ขโมยสิน

	เทพสิมาประอรนครพระอินทร์
เชวงบุราณชวาลบุรินทร์
ระบมตรม

	กามสิขีคุด้าวระด่าวระดม
บุรุษ, นรี ระรี่ผสม
เพาะสายพันธุ์

	แหล่งอบายมุขสนุก ณ มรร-
คจรประจำคละคล่ำจรัล
เจริญใจ

	พื้นพสุนธรารุจาอุไร
มิเหลือสุวรรณสวรรค์ไสว
วะแวววาว

	ป่วนประสบกลีกระนี้ลุคราว-
เคราะห์กรรมวินาศพิฆาตระนาว
นราดูร


สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
	เพรงยามธานิผจงสุมงคลจรูญ
ตราบปรัตยุบันบูร
บุรี

	คำรบถ้วนทวิศัตวรรษพระปฐวี
บวกเบ็ญจเพสมี
ประมวล
	ล่วงสู่กาลภพปั่นประหวั่นสมยปรวน
จ่อมจมระทมจวน
จะภินท์

	มีเพียงภูวบดีศุลีนฤบดินทร์
เดชาพระราชินทร์
ประชา

	เทียมเทียบเทพสถิตประสิทธิรตนา-
โกสินทร์ก็หรรษา
สยาม
	ทรงพ่างโพธิ์ดรุร่มภิรมย์มหิพิราม
เรื่องร้ายระรายหลาม
ทุเลา
	ดวงแดราษฎรดับระงับกระอุเขดา
ยามนาถพระราชเนา
นคร

	ขอองค์ตรัยรตนามหาคุณขจร
เพริศพรายถวายพร
พระองค์

	ขอปิ่นราชพิสุทธิ์มกุฎกษิฎิทรง
เป็นฉัตรธวัชธง
เถกิง

	ทรงบำรุงพสุธาประชาปิติประเทิง
เทพรัฐจรัสเริง
นิรันดร์

(เขียนไว้ ระหว่างวันที่ ๙ ถึง ๑๓ พฤษพาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ และปรับปรุงแก้ไขขณะพิมพ์ครับ)				
20 พฤษภาคม 2550 11:18 น.

แมวเอ๋ยแมวเหมียว

ตราชู

แมวเอ๋ยแมวเหมียว
(แรงบันดาลใจจากบทอาขยานเก่าครับผม)

บทดอกสร้อย แมวเหมียวแยกเขี้ยวยิงฟัน ของ ท่านนายทัดเปรียญ คัดจากหนังสือ บทดอกสร้อยสุภาษิต ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณ
	แมวเอ๋ยแมวเหมียว
รูปร่างปราดเปรียวเป็นหนักหนา
ร้องเรียกเหมียวเหมียวเดี๋ยวก็มา
เคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู

	รู้จักเอารักเข้าต่อตั้ง
ค่ำค่ำซ้ำนั่งระวังหนู
ควรนับว่ามันกตัญญู
พอดูอย่างไว้ใส่ใจเอย

	คือพาทีลีลาแห่งอาขยาน
ท่านเขียนอ่านขานอรรถสอนคัด, เอ่ย
สอนประจบนบคนเสียจนเคย
ทอดตัวเกยก่ายเกล้ากับเท้านาย

	เชื่อวาจาอาขยานโบราณร่ำ
จึงสร้างทำอุปเท่ห์คิดเทถ่าย
ล้วนกลิ้งหลอกกลอกหลอนซุกซ่อนลาย
ด้วยคนหลายลีลา....เลวกว่าแมว

	แมวเอ๋ยแมวเหมียว
รูปร่างปราดเปรียวนัยน์ตาแป๋ว
มองหมายนายกูด้วยรู้แกว
เลียแล้วรวยล้นลาภผลทวี

	รู้จักเอาคดซ่อนขดไส้
นายแย่เมื่อไหร่จะได้หนี
เปลี่ยนนายใหม่พลันขยันดี
อัปรีย์จัญไรนิสัยเอย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตราชู