24 พฤศจิกายน 2550 10:25 น.
ตราชู
หลั่งถ้อย ลอยกระทง
เวสสเทวีฉันท์ ๑๒
เดือนเพ็ญลอยเด่นแผ้ว
ผ่องประภัสสร์แพร้วสวรรค์พราย
รุ่งชูดำรูฉาย
อาบสลิลชื่นระรื่นชล
จันทร์เสริมแสงเจิมส่อง
ลอยกระทงท่อง ณ มณฑล-
ธารพูนเทิดทูนผล
แผ่กุศลเพิ่มเฉลิมพร
แสนสันติ์ทรวงหรรษา
ยลพระคงคาสุสาคร
รันทดค่อยลดถอน
รอนเทวษถมระทมถอย
จันทร์ไซร้แจ่มใสสุก
โปรดประเทาทุกข์ถะถั่งทอย
ผู้คนไขว่ค้นคอย
หวังควะคว้างคล้อยนิราศคลา
ของแพงต่างแข่งเพิ่ม
ปวงประชาเติมเหยาะน้ำตา
ทุกผู้ถูกภูผา
ภินท์ถล่มพังกระทั่งภูว์
จึงคนยิ่งจนแค้น
ดื่นประดังแดนประดาษดู
มองรุ้งไม่รุ่งหรู
อยู่ก็รอร่วงระลวงโรย
ยิ่งแพง ยิ่งแผลงเพี้ยน
ยิ่งกระหนาบเบียนกระหน่ำโบย
ร่างเผือดด้วยเลือดโผย
โพยพิบัติภัยประลัยเพ
จันทร์ยงบรรจงยิ่ง
โปรดเถอะช่วยทิ้งเคราะห์กรรมเท
กำสรวลซวดซวนเซ
จงนิวัตศานติ์สราญใส
ราวโสมบรรโลมแสง
แจ่มกระจ่างแจ้งเจริญใจ
จันทราดลหล้าไทย
ให้ประสบทางสว่างเทอญ
(๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐)
หมายเหตุ
เวสสเทวีฉันท์นี้ ผมยึดแบบแผนจากตัวอย่างตามตำราแต่งฉันท์วรรณพฤติและมาตราพฤติ ซึ่งสมเด็จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงพระนิพนธ์ไว้ ประกอบกับบทกวีในหนังสือ คำหยาด ของ ท่านเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ครับผม
23 พฤศจิกายน 2550 10:06 น.
ตราชู
ข้าวหม้อแกงหม้อ
แกงเขียวหวานจานนี้หรือฝีมือย่า
ไปฝากน้าบ้านโน้นเขาสักหน่อย
ประโยคนั้นสรรค์ประเสริฐแสนเลิศลอย
ด้วยพร่างพร้อยมิตรภาพเอิบอาบพราว
ไม่แหนงหน่ายคลายแคลนรักแน่นเหนียว
จึงข้าวเคี้ยวหวานล้ำทุกคำข้าว
หวานไมตรีนี้ชื่นฉ่ำยืนยาว
ทุกครั้งคราวดื่มด่ำได้คำนึง
นี่ต้มยำน้ำใสจากใจน้า
นำมาฝากคุณย่าด้วยหม้อหนึ่ง
ความอารีปรี่มามั่นตราตรึง
บ่งบอกถึงประเพณีวิถีไทย
เมื่อโลกเคลื่อนเลื่อนรุดมิหยุดนิ่ง
หลายอย่างยิ่งควบโขยกจนโยกไหว
เดี๋ยวโผล่ผลุบปุบปับช่างฉับไว
รุ่งเรืองไรอดีตเดิมก็เริ่มราง
ลืมความงามความเก่าพริ้งเพราก่อ
มนต์ข้าวหม้อแกงหม้อก็เมินหมาง
เกิดกำแพงแกร่งกั้นกีดคั่นกาง
ต่างบ้านต่างสืบเสาะจำเพาะตัว
สังคมเมืองเรื่องชินคือกินด่วน
ใครมีถ้วนอิ่มท้องสมปองทั่ว
แต่....มืดดำคล้ำกมลหมองหม่นมัว
ไม่แบ่งถัวสุขแท้เผื่อแผ่ใคร
ปัจจุบันรันทดสลดท้อ
แบ่งข้าวหม้อแกงหม้อกันบ้างไหม?
ฤาสิ้นศรีมีประจำแห่งน้ำใจ
เพราะต่างใคร่คิดแค่เห็นแก่ตน?
(๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐)
แรงบันดาลใจ
ผมเขียนกลอนบทนี้ขึ้น ด้วยความหดหู่ยิ่ง เมื่อเห็นวิถีชีวิตไทยที่แปรผัน ในทุกๆวัน ท่ามกลางแดนคอนกรีต เราต่างคนต่างอยู่เสียจนกระทั่ง บ้านใกล้กันก็ปราศจากรอยยิ้ม คำทักทายให้แก่กัน หวนย้อนคิดถึงคำบอกเล่าเก่าก่อน คนบ้านใกล้เรือนเคียงรู้จักกันโดยตลอด เคยฟังเรื่องราวซึ่งท่านพระพิศาลธรรมพาที (ท่านพระพะยอม) ท่านเล่าว่า สมัยท่านเด็กๆ เมื่อคุณย่าของท่านทำกับข้าว ก็จะแบ่งให้เพื่อนบ้านเสมอ มานึกเทียบกับปัจจุบันแล้วใจหาย สังคมเราเป็นอะไรไปเล่า? อะไรหรือแบ่งเขาแบ่งเรา? อะไรทำให้เราห่างกันไปทุกทีๆ? ผมได้แต่หวังว่า สักวัน เราจะได้มีโอกาสแบ่งปันข้าวหม้อแกงหม้อ อวยเอื้อความรัก ความห่วงใยให้กันฉันกาลก่อน เพื่อหัวใจอาทรจะหวนกลับมาเยียวยาสังคมไทยตลอดไปครับผม
13 พฤศจิกายน 2550 11:35 น.
ตราชู
เลือก
เมื่อนั้น
รจนานารีมีศักดิ์
เทพไทอุปถัมภ์นำชัก
นงลักษณ์ดูเงาะเจาะจง
นางเห็นรูปสุวรรณอยู่ชั้นใน
รูปเงาะสวมไว้ให้คนหลง
ใครใครไม่เห็นรูปทรง
พระเป็นทองทั้งองค์อร่ามตา
ชะรอยบุญเราไซร้จึงได้เห็น
ต่อจะเป็นเนื้อคู่กระมังหนา
คิดพลางนางเสี่ยงมาลา
แม้นว่าเคยสมภิรมย์รัก
ขอให้พวงมาลัยนี้ไปต้อง
เจ้าเงาะรูปทองจงประจักษ์
เสี่ยงแล้วโฉมยงนงลักษณ์
ผินพักตร์ทิ้งพวงมาลัยไป ฯ
(ข้อความจากบทพระราชนิพนธ์ สังข์ทอง ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย)
รจนาเลือกคู่มาอยู่ข้าง
ได้คู่สร้างสังข์ทองผ่องใส
ภายนอกน่าชังช่างกระไร
ภายในรางชางช่วงรังรอง
โอ้พระสังข์รูปทรงส่งศรี
ครั้นคราตีคลีก็แคล่วคล่อง
สองร่วมเรียงเคียงคู่อยู่ครอง
ประสมสองสุขสานติ์ซ่านทรวง
อ่านนิทานสังข์ทองตามท้องเรื่อง
แล้วหนุนเนื่องทุกข์นักให้หนักหน่วง
จะพึมพำพร่ำบ่นบนบวง
ก็เหงาง่วงซึมเงื่องเซื่องงัน
ป่วยการขานไขกราบไหว้ขอ
เสี่ยงทาย ส.ส. ที่ดีสรรพ์
หลายพวกพร้อมเพรียงเรียงรัน
เชิงชั้นฉันเฉิดเลิศลักษณ์
เมื่อนั้น
ประชากรเกรียมกรมซมหนัก
พวกมารอุปถัมภ์นำยักษ์
รวมพรรคจำเพาะเจาะจง
มองเห็นรูปกุมภัณฑ์อยู่ชั้นใน
รูปมนุษย์สวมไว้ให้แลหลง
ดูไปไหม้หมองต้องปลง
โอ๊ย! กาลีทั้งองค์อุจาดตา
ชะรอยเวราไซร้จะได้เห็น-
เหตุลำเค็ญคลุ้มคลั่งกระมังหนา
คิดพลางทางป่วนวิญญาณ์
คล้ายบ้าไม่สมภิรมย์รัก
กากบาทเบอร์ใดก็ใจข้อง
ถ้ายักษ์ขึ้นครองคงกระอัก
อนาถแล้วรอยกรรมนำชัก
หลงมรรคไม่รู้จะเลือกใคร!
(๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐)
10 พฤศจิกายน 2550 13:06 น.
ตราชู
ปรัศณีย์เมถุน
หลังนายสมัครแถลงเสร็จ ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวซักถาม ปรากฏว่าบรรยากาศเริ่มตึงเครียดทันที โดยผู้สื่อข่าวหลายคนพยายามยิงคำถามเกี่ยวกับกระแสข่าวที่ระบุว่าอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยบางคนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง
ไปเข้าร่วมประชุมกับแกนนำพรรคพลังประชาชนเพื่อจัดตัวผู้สมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วน
เมื่อคืนวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา จนกลายเป็นปัญหาลุกลามบานปลาย ขณะที่นายสมัครยืนกรานไม่ขอตอบคำถามดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีผลกระทบกับพรรค พร้อมกล่าวตำหนิตอบโต้กลุ่มผู้สื่อข่าวด้วยอารมณ์
ฉุนเฉียวว่า ผมไม่มีหน้าที่ต้องมาแถลง และพวกที่ถามอย่างนี้มีใครไหว้วานมาหรือไม่ ผมจะไม่ตอบ อย่ามาถามผมเหมือนศาล อย่ามาแคะแกะเกาเพื่อทำให้เกิดความเสียหายแก่พรรค
ผมจะตั้งข้อกล่าวหาและฟ้องร้องทุกคน พวกคุณรับจ้างใครถามหรือไม่ อย่าหาว่าหยาบคายนะ ถ้าผมถามกลับว่า เมื่อคืนคุณไปร่วมเมถุนกับใครหรือไม่ ถ้าไม่ร่วมก็จบไป แต่ถามอย่างนี้เลวไหม
เพราะไปถามเรื่องส่วนตัว มันเป็นเรื่องพรรคของเขา ต้องการเอาไปแฉโพยให้พรรคเขาพังหรือ ถ้าไม่ต้องการให้พรรคพัง ก็ไม่ต้องถามเรื่องนี้ ไปๆมาๆข่าววันนี้จะออกว่าอย่างไร
สมัครรวนผู้สื่อข่าวหรือ ทั้งที่ความจริงพวกคุณรวนผม ผมพูดชัดเจนแล้วว่าจะไม่ตอบคำถามนี้ มันควรยุติกันบ้าง ควรมีมารยาทกันบ้าง ให้สมควรแก่เหตุ ถ้าจะรวนผม ผมก็จะรวนคุณ
(คัดข้อความจาก
http://www.thairssfeed.com/news/0000006892YIXTB/
ครับผม)
ผมขอถามตามจิตที่คิดครุ่น
เมื่อคืนคุณแข็งขันกระสันใคร่
เสพเมถุนวุ่นอยู่กับผู้ใด
สังวาสใช่หรือเปล่าจงเล่ามา
ครับ ผมเทียวเที่ยวเตร่เสพเมถุน
แต่ไม่วุ่นทุกวันก่อปัญหา
ดีกว่าคนล้นสถุลที่คุ้นตา
เลี้ยงพันธุ์หมาไว้ในปากตั้งมากมาย
เรื่องโลกีย์มีมั่นสามัญมนุษย์
ยังรู้หยุดหย่อนเนือยรู้เหนื่อยหน่าย
แต่คนคุ้นถุนชาติมิคลาดคลาย
มันกระหายโหดหืนกว่าหื่นกาม
ความโลภเข้มเต็มแปล้ถึงแก่เฒ่า
ก็มึนเมามืดมัวทำมั่ว, ห่าม
ยิ่งบ่อยคาบหยาบคายเลวร้ายลาม
ตั้งคำถามถ้อยกระด้างได้อย่างไร
ขอถามกลับครับคุณอย่าขุ่นขื่น
ทุกวันคืนคิดคาดสร้างชาติไหม
หรือคิดแต่เมถุนทำวุ่นไป
โปรดช่วยไขตอบความผมถามที
(๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐)
6 พฤศจิกายน 2550 11:26 น.
ตราชู
อธิษฐานวาที
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
เห่เอยเฉลยมธุรอรรถ
สุมนัสมโนนันท์
นาวาวะวาววิยสวรรค์
พิศวามอร่ามวร
เพื่อไท้จุฑาปฐวิท่าน
พสุธารนเรนทร
ทรงศักดิศรีพระอดิศร
สิริสิทธิ์สฤษฎิ์ทรง
ปางท้าว ธ ทอดวรกฐิน
ประลุจินตนาจง
ก่อสรรค์กสานติ์หิตประสงค์
พระกุศลพิมลศรี
ยลเรือบุรินทรธเรศ
ปะกิเลสลุกาลี
ทุกวันทิวาพยุทวี
จรว่ายจะวายวาง
กราดเกรี้ยวกระเกริกวิจิวิกฤต
ทศทิศมิเห็นทาง
เคว้งคว้างควะควั่งวิฆนะขวาง
ภยคร้ามสยามครัน
เห็นเพียงบพิตรภพประภาส
ปิตุชาติพระราชัน
ครองเขตนครบวรขัณ-
ฑประคองคระลองคุณ
ยิ่งยงนิยมยศสยาม
อภิรามพระการุณ
เนาเนิ่นฉนำนฤปหนุน
ธรณีฉะนี้นาน
ฉายฉัตรพิชัยพิสิฐเฉิด
ปิติเกิดนิรันดร์กาล
สมถ้อยสถิตอธิษฐาน
จิรเทียรฆ์พระเกียรติ์เทอญ
(เขียนในขณะนั่งชมพระราชพิธีเสด็จพยุหยาตราพระกฐินทางชลมารค เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายนต์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ครับผม)