19 เมษายน 2547 17:10 น.
ตนชายขอบ
การเดินทางแห่งเวลาเริ่มก้าวย่าง
ผ่านขวากหนาทุกทนมา มากหลาย
แสงแห่งฟ้าส่องนำทางชีวิตฉัน ให้กลับกลาย
เส้นสุดท้ายแห่งความหวังจึงนำพา
สู่เมืองฟ้าประเทศแดนเขตขรรค์
รัสเซียนั้นฉันจึงไปแฝ่หา
ลาเจ้าแล้วไทยภูมิตรึงอุรา
เป็นเพราะฟ้าให้ลิขิตจิตเจอกัน
ขอลาแล้วหญิงไร้เงาที่แสนดี
อีกมีทั้งภูตะวันอันเชิดชาย
คุณแทนไทที่เคารพไม่รู้กาย
คือความหมายที่ดีๆมีให้กัน
ฅนชายขอบ ถึงตรงนี้ต้องขอลา
การศึกษาที่รออยู่นำพาไม่รู้หาย
รัสเซียนี้ถึงว่าไกลใจไม่วาย
ใจมุ่งหมายมุ่งมั่นในตัวตน
คนทำดี
ตนชายขอบได้ทุนมหาวิทยาลัยเคียฟ ที่รัสเซีย ด้านมานุษย์วิทยา คงต้องขอลาไปเทสต์ อีกไม่นานจะกลับมา
10 เมษายน 2547 22:19 น.
ตนชายขอบ
พร่างพราววาววับแม้อับแสง
กระจ่างแจ้งแจ่มชัดในทัสสา
ยามฟ้าหม่นไร้เดือนเคลื่อนนภา
ดาวจึงเด่นเป็นดาราแห่งฟ้าใจ
ดังคนดีแม้มิเลิศประเสริฐทรัพย์
แต่เจ้านับเป็นดาราที่ยิ่งใหญ่
ส่องสกาวสุกสว่างอยู่กลางใจ
แจ่มจรัสอิ่มเอมใจในฤดี
10 เมษายน 2547 22:14 น.
ตนชายขอบ
วาววับสลับแสงพริ้งพราวดาวระยับ
เจิดจรัสประดับฟ้าราตรีหน
พระจันทร์ใหญ่ลอยเด่นฟ้า ณ.เบื้องบน
คล้ายกับคนเฝ้าเปลี่ยวเหงาเศร้าหัวใจ
ดาวจ๋าดาว ข้ารักดาว เจ้ารู้ไหม
ส่องกลางใจ ส่องกลางฟ้า พาสุขสันตร์
แสงน้อยนิดรวมเป็นใหญ่ ใต้เงาจันทร์
สายสัมพันธ์ลึกซึ้งตรึงหัวใจ