13 ธันวาคม 2547 17:14 น.
ดาหลา & ปะการัง
" สวัสดีค่ะ....พี่อยู่ไหนคะ หนูมาถึงแล้วนะคะ "
"อื่ม รอก่อนเดี๋ยวหนูรันไปถึง เจอกันค่ะ ตอน 6โมงนะคะ"
" ค่ะ เดี๋ยวเจอกันค่ะ "
การสนทนาทางโทรศัพท์ ผ่านไป........เวลา ตีสี่ กว่าๆ ๆ
ฉันลุกจากที่นอน แล้ว หากาแฟ สักแก้ว ถ่างตา ......
แล้ว เรียก สาว ๆๆ ของฉันตื่นนอน เพื่อเตรียมตัวไป เที่ยวกัน........
ทริป นี้ เป็นการท่องเที่ยว ของฉันกับ " คนในเน็ต "
กลุ่มนี้ ฉันรู้จักแล้วเพียง 2 คนที่คุยกันอยู่
แต่ อีก 3 คนและ 1 สาว จาก ไทยโพเอ็ม ฉันไม่คุ้นเคย...........
ถามว่าฉันกังวลไหม แน่นอน ฉันกลัวไหม แน่นอน
" กลัว " " กลัวว่าจะทำให้เค้าลำบาก ไม่สนุก เพราะฉันไม่ ใช่ไกด์
กลัวว่า เอา เค้ามานอนเต็นท์ แบบ อนาถา ไม่น่าเลย อุตส่าห์ ดั้นด้นมาเหนือ ทั้งที มานอนเต็นท์อีก อาหารการกิอนก็ ดูลำบาก ไม่เริด หรู .........คิด คิด มาก ..........
สลัดหัวแล้วเดินไป กินกาแฟไป ......
อากาศ หนาว จน ทำ ให้ต้องห่อตัว นะ ........
กาแฟ หมด เมื่อไหร ไม่รู้ ฉันหมด เวลา สำหรับ การกังวลใจ ไป นาน จนลูกๆๆเรียก อาบน้ำเพราะรถมารับอีก15 นาที ข้างหน้า.........
เวลา 05.30 น. รถตู้ ที่ ว่างจ้าง ให้พา ทริปนี้มารับฉันที่บ้าน
สาวๆๆ ก้อ ช่วยกันขน หม้อ กะทะ ของแห้ง ต่างๆๆ สำหรับ ทำอาหาร ขึ้นรถ
น้องชายและน้องสาว มาจาก กทม ก่อน 1 วัน ก็ มาสมทบ ( จาก โลก ที่นี่ ดอทคอม )
เราเดินทางไป รับ 3 สาว และ1 หนุ่มที่ สถานีขนส่งอาเขต เชียงใหม่........อันมี สาวมีน สาวเอื้อย( ที่ตลอด ทริป ทุกคนคิดว่าชื่อเอื้อม ) สาวจิ๊บ ( ที่เธอบอกว่าเธอบ่อ ซ่ายลาว )
ยังมี หนุ่มน้อย ที่ ตอนแรก บอกว่าอายุ 15 น้องชายของเอื้อง ที่ไหนได้ คิคิ แล้ว อั้น เป็นหนุ่ม เอวบาง คิคิ
" แม่คะ แม่ แม่อยู่ไหน หนู รอแม่อยู่ที่ ......" เสียง มิ้นแง๊ว ๆ ๆ มา
เสียงคุยโทรฯ ระหว่างแม่ลูก ในอินเตอร์เน็ต ดัง จน ใคร ๆ มอง ฉัน ด้วยสายตา แปลกๆๆ
ฉันยังนึกขำไม่หาย เลยว่า เออ นะ คง มี ใคร ขำ ยายนี่ ลูก เป็น โขย๋ง
เมือเราเจอกันครบแล้ว 4 ชีวิต ที่ บขส
แนะนำให้รู้จัก กัน ใครเป็น ใครแล้ว ก็ เป็นลาว อพยพ
เราก็เดินทางไป หาอาหารเช้ากัน.........ที่ตลาด ต้นพยอม .........
นัดเจอ นายหมุยลูกชายในเน็ต อีก หน่อ หนึ่ง ที่ แง๊ว ๆ ๆ อยาก ไป แต่ม่ายได้ไป .......
มาส่ง เดินทางแต่เช้า............
เส้นทางการเดินทางไป ดอยอินทนนท์ ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ ราว 108 กิโล ก็ 1 ชั่วโมง
ระหว่างทาง ที่ไปนั้น มี สาวเจ้า คนหนึ่ง น่ารักมาก ร้องเพลงไป ตลอดทาง........
เธอ ทำให้ รถเราไม่เงียบเหงา ......ขอบคุณเธอหล่ะ ไอติมรส ประหลาด อิอิ
เมื่อเราถึงจุด ที่ทำการอุทยานดอยอินทนนท์
ไปติดต่อ เต็นที่พักแล้ว......ได้เต้น ของ ป่าไม้ หลัง ใหญ่
การ เข้ารับ ชุด เครื่องนอนก็ต้อง วางบัตรประจำตัว เอาไว้ .....
แล้ว ขนของไป เต๊นท์ และ จัดการ ...ยก สัมพาะระแหละ..........
ที่พักของเรา ขอบอก ว่าเริด มาก นะเออ .........เต๊นท์ ค่าเต๊นท์.............
บรรยากาศ โรแมนติก มาก ๆๆ เด้อ ..........เต๊นท์ กางระหว่าง ป่าสน ที่ เวลา แสงไฟ รถ สาด ส่องมา อ่ะ สวยเริด เหมือน ในหนัง เลยหล่ะ ( หนังผีนะ )
วันแรก พา ช๊อบปิ๊งตลาด ชุมชนชาวเขา
ที่ ขอบอกว่า ผัก แต่ละ ชนิด สด สด สด สด มาก หวานอร่อย.........
เย็วันนั้น ได้ บร๊อคโคลี่ สวยๆๆ มา สวัสดี กับ คุณน้ำมันห้อย.........
งานนี้มีเฮ ............เพราะ มี หนุ่มอั้น ไม่กินผัก แต่ ก็ยอม หม่ำเพราะ บอกว่า ผัก สด มาก ๆ ๆ ๆ
เมนู เมื้อเย็น วันนั้น คือ .....บร๊อกโคลี่น้ำมันหอย ....ไข่เจียว ฝีมือ น้องจ๋า..........ยำหมูยอ และหมุยอด ทอด ..........มี หมูย่าง ที่เตรียมไปด้วยแหละ ......
งานนี้ มีอะไร ขำ เยอะไปหมด .......น้องจ๋า อาบน้ำไป เต้นไป เพราะน้ำเย็นมาก เหมือนเอาน้ำเย็นในตู้ เย็น แล้วเติมน้ำแข็ง อีก มาอาบ อ่ะค่ะ หาว เย็น สย๋องงงงงงงงงงงง บรื๊อว์
แม่จ๋า แม่ หนูหิวข้าว.....เสียงเจ้าตัวเล้ก ตะโกนมาจาก นอกเต็นท์ ........
เลยได้เวลา ตั้ง วง โซย........เป็นอะเร้ดอาหร่อย............
แล้ว สาวๆๆ เค้าก็ เดิน ย่อยอาหารกัน
ผู้เฒ่า ก็นั่งคุยกัน........นั่งมอง ลุก ๆ ๆ กำลังโต......อื่ม.........
บรรยากาศ ยาก แก่ การลืม ..............
มีก๊อก 2 น้า
5 ธันวาคม 2547 14:24 น.
ดาหลา & ปะการัง
ลมเพ ลมพัด
ลมพัดอะไรไป พัดอะไรมา
ลมพัด ผ่านไป จาก ไหนถึงไหนกันนะ
อยาก บอกคน แดนไกล ว่าคิดถึง
อยากรู้จริง ....
โบกโบยความคิดถึงออกจากลมหายใจ
ให้ไปถึงถึงใครคนหนึ่งที่อยากให้รับรู้และ รับฟัง
แค่อยากรับรู้ เพียงแค่ อยาก ให้รับฟัง
ผ่านเสียงเพลง เพลงหนัง เป็นลมเพ ลมพัด
อยาก ฝาก.....
หอบเอาไออุ่นแห่งรัก แห่งหัวใจ
ความคิดถึงที่ ผ่านลมไป เกินที่ฉันจะพรรณา
เกินความรู้สึกที่ขัง อยู่ ในหัวใจ
ผ่านหนทางที่ยาวไป ข้างหน้า
แต่ก้อ นะ
เวลานี้ ฉัน ฉันอยาก กลายเป็นลม ซะเอง
และจะพัด เอาตัวฉันไป ยืนตรงหน้าคนดี ของฉัน
แต่เวลานี้ อยากให้เจ้ารับรู้ว่า ฉันคิดถึงและคิดถึง......
แค่อยากให้เจ้ารับรู้ เพียงแค่อยากให้เจ้ารับฟัง
รับฟัง
................ว่า................
...................คิดถึง...................
*-*-*-*-----*-*-*-*
มีคุณ เพื่อนคนดี มา แจม..........
ลมนี้ เจ้ามา จากไหน
มีใคร ใช้เจ้า มาหา
หอบรัก คิดถึง ใครมา
เหมือนว่า รู้เรา เหงาใจ
ไปเถิด กลับไป หาน้อง
ฝากร้อง พูดพร่ำ คำไข
แม้อยู่ สุดหล้า ฟ้าไกล
มอบรัก ปักใจ นงคราญ
คิดถึง คิดถึง คิดถึง
รำพึง เห็นหน้า ตาหวาน
บอกรัก บอกเธอ นานนาน
ก่อนผ่าน กลับมา หาเรา
madoo มาแล มาลอง
มามอง มามุ่ง มาหา
มาให้ มามอบ มาลา
มาชัก มาช้า ก็มา
3 ธันวาคม 2547 09:03 น.
ดาหลา & ปะการัง
ก็.......พี่ต้อมบอกจ๋าแล้วพี่รักจ๋าแบบน้องสาว...........ประโยคนี้ มันก้องอยู่ในหู
ประโยคนี้ ยังอยู่ในใจมานาน ถึง 5 ปีแล้ว ............ทำไมเราไม่ลืมเสียทีนะ
เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นมานาน 5 ปีกว่าแล้ว
เรา.....กับพี่ต้อม เจอกันเมื่อตอนปี 1 ออกค่ายอาสาพัฒนา
พี่เค้าคอยดูแลเอาใจใส่........มาตลอดการอยู่ค่าย มันทำให้เราเกิดความประทับใจมาก
กับการดูแลเอาใจใส่ เพราะว่าหลังจากนั้น พี่ต้อมก็มาวนเวียน พูดคุยทักทาย เรา ชวนทำงานอื่นๆๆเรื่อย
คอยดูแลเอาใจใส่เรามาตลอด ความสัมพันธ์ก็งอกเงยขึ้นมา ตามลำดับ
จนเรารู้สึกว่า ............พี่ต้อมเป็นกลายคนพิเศษในใจมาตลอด...(แอบชอบแล้วถล่ำรักเต็มหัวใจ)
จากปี 1 ขึ้น ปี 2 ก็คบหากันมาเรื่อยๆ พี่ต้อมมีดอกไม้ มีของขัวญฝากเราตลอด
น้องจ๋าเสาร์นี้ว่างไหม?. เสียงพี่ต้อม ใสๆๆมาตามสาย
ว่างจ้า พี่ต้อม จะชวนจ๋าไปไหนเหรอคะ
อ๋อ จะชวนไปคระหน่อยคับ มีระดมสมอง พี่ว่าจ๋า เก่งเลยจะชวนจ๋าไปด้วยคับ
ไม่มีปัญหาอยู่แล้วสำหรับจ๋า ขอเป็นพี่ต้อมชวนเหอะ ไปไหนไปกัน
ดี งันเสาร์ 9 โมงพี่ไปรับนะ บอกคุณแม่ด้วยหล่ะคับ ว่าพี่ต้อมจะไปรับ ไม่ต้องนั่งรถเมล์มานะ
ถึงงานวันเสาร์ จ๋าแต่งตัว ง่าย กางเกงยีนส์ เสื้อ รัดรูป ที่ ใครเห็นต้องเหลียวหลัง ทันที
จ๋าเป็นนักศึกษาสวย ระดับ ดาวเทียวแหละ..ไม่ยังกะสนใจใคร เดินตาม นายต้อม ต้อยๆๆๆ..
นี่ ไม่มีใครบอกจ๋า บ้างเหรอว่า นายต้อม เค้ามีแฟน เป็นรุ่นน้องของยายจ๋า อีกที.
ในวันนั้น พี่ต้อมพาจ๋าแนะนำให้ทุกคนรู้จัก เสมือนเปิดตัวแฟน ไงงั้นเลย
ทำเอา จ๋า รู้สึกว่า ตัวเอง เป็นคนสำคัญ ของต้อม
ความรักในหัวใจหญิงสาว ล้นท้นออกมาฉายที่ใบหน้า
" จ๋า หลับตาก่อนสิ "
"อะไรเหรอคะพี่ต้อม "
" น่านะ หลับตาก่อน มีมีอะไรมาฝาก "
สาวเจ้าหลับตามพริ้ม และได้กลิ่นดอกลินลี่ ที่รักนักหนา โชยมาแต่ไกล รู้ทันที ว่า พีต้อม เอาดอกไม้มาฝาก........
" ลืมตาได้แล้วครับ น้องจ๋า พี่ต้อม ให้จ๊ะ สวย เหมาะ กับน้องจ๋ามาก "
เหตุการ์ณที่นายต้อมรับสาวจ๋าไปไหนต่อไหน ยังคง มีให้เห็นจนกระทั่งปลายปี 4 .
จ๋าคิดในใจ เราเจอพี่ต้อมมาตั้งนาน 4 ปีแล้วนะ
แต่ พี่ต้อมก็ไม่เคยบอกรัก เราสักที ......รอคอย ที่จะฟังคำบอกรัก .....จากปากพี่ต้อมเสียที
แต่เอ .เค้าก็รับเราไปหนมาไหน ไปด้วยสม่ำเสมอนี่นา เค้าคงรัก เราหล่ะ ( จ๋าคิดเข้าข้างตัวเอง) ไม่งั้นคงไม่ตามรับตามส่งแบบนี้..........
เวลาผ่านมานาน ....พี่ต้อมเริ่มเปลี่ยนไปไปทีละนิดทีละน้อย.......
จากที่เคยโทรถึงเรา ทุกวัน เช้า....สาย......บ่าย......เย็น.......เคยมารับเริ่ม หายไป..
แต่หลังๆ.......โทรถึงน้อยมาก......เวลาเราโทรไปก็เริ่มไม่รับสาย....หรือ บอกว่ายุ่งไม่ว่าง
บางครั้งหลายๆๆวันที่จ๋าโทรถึงมักจะปิด มือถือเสียด้วย..
เราก็รู้สึกเหมือนกันว่าเค้าเปลี่ยนไป ....
มีเพื่อนๆบอกมาประปราย ว่าเห็นพี่ต้อม เดินควงรุ่นน้องปี 2
เราก็ลองถามพี่ต้อมว่าจริงไหม เค้าโกรธที่เราไปจู้จี้จุกจิก กับชีวิตเค้า
เราผิด ? เหรอ ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราไม่มีใครเลย เรามีพี่ต้อมคนเดียว
แล้วเรามีความผิดอะไรหล่ะ ถึงมีคนใหม่ ทั้งๆที่เราก็ยังอยู่....
หรือว่าเราคิดไปเองว่าเค้าเป็นแฟนเรา ทั้งๆๆเค้าไม่เคยบอกรักเราสักคำ.......
เราขอคุยกับพี่ต้อม.......เพื่อเคลียร์กัน ...
พี่ต้อมคะมีเวลาว่างสักนิดไหม จ๋า มีธุระคุยด้วยค่ะ
อื่ม ได้แต่ไม่นานนะ พี่ไม่ว่าง.
ค่ะ งั้นเราเจอกันที่ร้านเดิมนะคะ
ถึงเวลานัด ต่างคนต่างเดินทางไป พบกัน
ประโยคแรกที่ต้อม พูด มันทำให้จ๋าน้ำตาซึม
เอ้าจ๋า มีไร คับ ว่ามาเลนพี่ไม่ว่าง
เออ จ๋ากลายเป็นคนติดอ่างไป ตั้งแต่เมื่อไรกัน..
เออ..
" เอ้า มัวแต่เออ เออ นั่นแหละ มีไรก็ว่ามา " . นายต้อมเริ่มไม่พอใจ
พี่ต้อม ไม่รักจ๋าเลยเหรอคะ ถึง ห่างเหินจ๋า แบบนี้
กว่าจะรวบรวมความกล้า พูดออกไป อายมาก ๆ ๆ
ต้อม ตอบมาด้วยสีหน้าที่ไม่ได้ตกใจกับคำถามของจ๋าเลย..
ใครบอกว่าพี่รักจ๋า แบบแฟน แค่ ไม่มี ใคร ควงด้วยและ แค่ รักแบบน้องสาวแค่นั้นแหละ
..แล้ว คำพูประโยคนั้น มันก็ออกปากมาจากปากพี่เค้า
ว่ารักเราแค่.....น้องสาว......น้องสาว
โอ..!!!! ทำไมพี่ต้อมทำร้ายจ๋าแบบนี้นะ
ไม่รักแล้วแกล้ง ทำเหมือนรักและ ดูแล แคร์ ตลอดเวลา ตั้ง 4 ปี มันไม่นานไป หรือ
แล้ว เวลาที่ผ่านมา 4 ปี มันคืออะไรนะ การเอาใจใส่ ห่วงหาอาทร...ดูแลเรามาตลอด !
หูอื้อ ตาลาย แล้ว สติของจ๋าก็ดับวูบไป
จ๋า.คนเดิมที่ร่างเริง กลายเป็น คนเงียบ เดินเหม่อ ลอย
เรียนให้จบ รับปริญญา อย่างโดดเดี่ยว ไร้เงา ต้อม แม้แต่จะ แสดงความยินดี ว่าเรียนจบแล้ว
ทำไมนะไม่รัก กัน ต้องแกล้งกระทำ ให้เข้าใจ
แกล้งให้รับรู้ โดยสถานะของสังคม กันนะ.........เพราะอะไร
ความจริงใจที่ บอกมันหายไปไหนหมด .
ตอนนี้เวลาผ่านไปกับความเจ็บช้ำนี้...........
.นานเท่านาน กับคำพูดหลอกลวงกันด้วย.....การกระทำ !!!!
ดาหลา & ปะการัง
03-12-2004
1 ธันวาคม 2547 16:04 น.
ดาหลา & ปะการัง
หลับตา..........ย้อน อดีต เวลา ผ่านไป นานนะ สำหรับฉัน........
40 กว่าปีที่ ป๋า ให้ ชีวิตฉัน..........
20 กว่าปีที่ป๋า จาก ฉันไป และ คงค้างความรู้สึก ห่วงหา อาทร.....
โดยสายใยแห่งความรู้สึก ที่มีอยู่ไม่ ห่าง แม้ วินาที..........
ป๋ารักฉันและฉันก็รักป๋ามาก......เป็นพ่อลุกที่เป็นเงาตามตัวเทียว...........
จำได้เท่าที่จำได้........ครั้งหนึ่งป๋าบอกฉันว่าจะพาไป รู้จักเพื่อนใหม่ เยอะแยะเลย.......ฉัน ลิงโลดใจ...ป๋า..พาไม่สมัคร เข้าเรียน อนูบาล .......จำได้ แม่นเทียว..........
ตอนสอบได้ยินเสียงกลอง ดังหน้าโรงเรียน ฉันไม่สนใจทำสอบหรอก อยากออกมา ดูว่าเค้ามีอะไร กัน
ป๋าเลยจับไต๋ได้ ว่าฉันเป็น เด้ก สมาธิสั้น พอตัว ...........
เป็นคนที่ชอบ ทำ มากกว่าท่องจำ.......
เพราะฉะนั้น วิชาท่องจำฉันจึง ทะร่อ ทะแร่ มาตลอด แต่ วิชาคหกรรม กีฬา เกษตร ฉันยอดเยี่ยม มาโดยตลอด............
ตลอเวลา ป๋าไม่เคยบ่นว่า ฉันไม่เอาไหน ป๋า รับส่งฉันทุกวันที่หน้าโรงเรียน.....
จะมีคำพุด ที่ป๋า พุดกับฉันก่อน จะจากฉํนไป.......
" เดี๋ยวเย็นนี้ป๋า ซื้อติม กับสายไหมมารอหนูนะ "
" ตั้งใจเรียนอย่าดื้อ อย่าซนนะ ทุลหัว "
จำได้ เวลา จะนอนฉันจะต้องนอนกับป๋า ทุกวัน ป๋าจะเป็นหมอนข้างให้ฉันตลอด......
แม้ว่าจะอึดอัด ป๋ายอม ให้ฉันนอนกอด จนฉันหลับไป เป็นแบบนี้ ทุกๆ วัน.......
จาก เวลาเรียน ที่ โรงเรียนเดิม ของฉัน ....ฉันจบ มศ 3 มาด้วยปลอดภัย......คิคิ( ผ้าผ่านฉลุย)
จบมศ 3 ป๋า ถาม ฉัน ว่า อยาก เรียนอะไร ........
ชอบเขียน ๆๆๆ แต่ปัญญา มะดี คง สอบไม่ผ่าน เลยไป เรียน เลขา ....( หุหุ .หุ่นนักมวย )
เรียนไปเรียนมา ไม่รุ้ชะตา ฟ่าลิขิตรึไง มะรู้ หลุด เข้ามาอยู่ วงการแพทย์ได้ไง มะรู้
ทั้งๆๆ ทีกลัวเข็ม มั๊ก ๆๆๆ
มาทำงาน เมื่ออายุ แค่ 19 เท่านั้น.........
ความภูมิใจ ฉายบนใบหน้าของป๋า
ในวันที่ฉันรับประกาศนีย์บัตร ที่ โรงพยาบาล..........
ฉันตั้งใจทำงาน.........
ที่ฉันจำได้ไม่ลืม คือ เมือ่ไหร่ ฉันอยู่เวร บ่าย ป๋าจะมานั่งรอ เสมอ
และเมื่อ เวรดึก ฉันจะต้องนอน ก่อนขึ้นเวร ........
จมูกดี เหมือน ( ไม่บอก ) ........จะตื่นเมือ่ได้กลิ่น กาแฟ หอมๆๆ และ ได้ยินเสียงคนแก้วกาแฟ........เรียกตื่น ตอน เกือบ ห้าทุม แล้วออกมาส่งฉันทำงาน...........
เป็นช่วงชีวิตที่ฉันกับป๋า สนิทกันมากที่สุด.......
วันเวลา ผ่านไป หลายๆๆปี.........
ป๋าเริ่มมีอาการไอ .....เจ๊บหน้าอก มา
ฉันคะยั้นคะยอป๋าไปหาหมอ ........
ป๋าไม่ยอมไป ..." ป๋าจ๋า หาหมอนะคะ มันไม่ค่อยดีนะ "
" ป๋าไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมาก อยู่กับคนไข้มากๆๆ ทุก ๆ วัน คิดมาก ๆ ๆ น่า "
เวลา ผ่านไป.... วันเป็นเดือน ป๋า อาการไม่ดีขึ้น เลย....
ฉันเริ่มไม่สบายใจ...........
จนทวันหนึ่ง ป๋า บอกไม่ไหว ขอไปหาหมอ .....
หมอ เอ้กซเรย์ ปอด แล้วบอกว่า น้ำ ท่วมปอด........
ต้องเจาะ เอาน้ำออก..........
แม่ร้องให้ตกใจเพราะป๋าเป็นคนที่ไม่เจ๊บจริงๆๆ จะไม่เคยมี ใครรู้เลยว่าป่วย
ป๋ายอม..........ให้หมอ เจาะ ปอดเอาน้ำออก
หมอ บอกว่า ถ้า เจาะแล้ว น้ำ ใสๆๆ ก็สบายใจ
แต่ถ้าสีแดงๆๆ ปนเลือด นี่ คงต้อง ทำใจนะ............
ฉันจำได้คืนนั้น ฉันนอนไม่หลับเพราะ ระหว่างที่ ป๋าเจาะ ปอด ฉัน อยู่ ด้วย .........
ตกใจ เพราะ ว่า สีน้ำที่ออก มามันทำให้ หัวใจ แทบ สลาย..........
สีแดงน้ำล้างเนื้อ ...!!!!
อึ้งและอึ้ง จนไม่รู้จะ อึ้งอย่างไร
แต่ฉันก็ปลอบใจป๋า ว่า สีใส มาก ป๋า.สบาย เดี๋ยวป๋าก้หายแล้วนะป๋านะ
บอกป๋าด้วยสีหน้าแช่มชื่น แต่หัวใจร้องให้ เต็ม ๆ ๆ
ทำใจได้ไหม ? ทำไม่ได้แน่นอน ต่อให้ ฝึกให้มีสติ มา แน่นอย่างไรก็เฮอะ
ทำใจไม่ได้แน่นอน ..นอนร้องให้ เงียบๆๆ ข้างเตียงป๋า.........
หลังจาสกนั้นป๋ากลับบ้าน ฉันจะไม่ยอมให้ป๋า ทำอะไร เวลาว่าง ฉันจะ ขับรถ พาป๋าไป เที่ยวไป เดินเล่น ตลอด ........
เจ้านายป๋า เค้าใจดี ให้ป๋าพักที่บ้าน แล้ว ให้ลูกน้อง เอางานมาให้ เซ็นต์ที่บ้าน
การรักษาดำเนินไป อย่างต่อเนื่อง.......
ป๋าเริ่มมี สภาพอกเหมือนถังเบียร์ แล้ว ฉันเช็ดตัวป๋าไป น้ำตาซึม ไป
ระยะหลังๆๆ ป๋า ปวดมากขึ้น.......จนต้องพึ่ง ยา แก้ปวดที่ แรงขึ้นฉันตัดใจติต่อ ซื้อ ฝิ่นมาเพื่อมาปั้นเป็นเม็ดยาเม็ด เล็กๆๆ เท่าหัวไม้ขีด
เพื่อป๋ากินแก้ปวด........
ทุกครั้ง ที่ไป หาซื้อ ...........
ฉันเข้าใจเลยว่า คนทำผิด แม้ไม่คิดร้าย เห็นตำรวจ แล้ว หัวใจจะวาย ซะให้ได้
แต่เพื่อป๋า........ฉันยอมหล่ะ ป๋าจะได้ไม่ปวด อีก ..........
ยอม หล่ะ งานนี้ตายเป็นตาย ขวนขวายหา มาจนได้ ตลอดการป่วยของป๋า..........
แล้ว วาระสุดท้ายมาถึง........
ป๋า........ผอมมาก จนฉันรู้สึกได้
มือ ป่าแห้ง และแข็ง แต่ มันก็นุ่มเสมอ สำหรับฉัน
ป๋าบอกฉันแต่เช้าว่า วันนี้ป๋าจะไป โรงพยาบาล.........
ฉันไม่รู้หรอก ว่า นั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้เห็นป๋านอน อยู่ ที่ ห้องนี้ และ ป๋าจะได้ อยู่บ้านหลังนี้เป็นครั้งสุดท้าย.......สุดท้ายจริงๆ ๆ
ฉันพาป๋าไปหาหมอ......หมอให้นอนโรงพยาบาล
ฉันรู้ว่าป๋าปวด มาก แต่ ตลอดเวลาที่ป๋า ป่วยป๋าไม่เคยปริปาก เลยว่า ปวด
ด้วยกลัวว่า ทุกคนจะห่วง...........
เย็นวันนี้ ป๋าทรุดหนักมาก........หมอ ต้องให้ นำเกลือ และยาช่วยเรื่องความดัน....
หมอ ถามฉันว่า ........
คุณจะต้องเลือก การักษา ที่หมอ มี ให้คุณเลือก 2 ทาง คือ 1. เมือ่ คนไข้ หายใจเองไม่ได้หมอจะ ใช้เครื่องช่วยหายใจ แล้ว เข้า ICU แต่คนไข้จะเจ๊บปวด มากแม้นไม่รู้สึกตัวเท่าไหร
ทางที่ 2 คือ หมอ จะให้ยา มอร์ฟีนและยาอีกตัว ให้ประคองความดันและประคองให้คนไข้หลับไป จนกว่ชีพจรจะหยุด..........
สันสับสน ไม่รู้จะทeอย่างไร ถ้าเลือก ข้อแรก สิ่งแรกที่รู้คือ ป๋าเจ๊บ และทรมาน
แต่ถ้าเลือ กวิธีที่สอง เท่ากับฉันสั่ง ชี้เป็นชี้ตายป๋า..........
สับสน !!!!!!
คิดไม่ออก..........
ฉันเข้าไป นั่งข้างๆๆ ป๋า แล้ว จับมือป๋า มาแนบแก้มแล้วร้องให้.......
ป๋าถามฉันว่า " ร้องให้ทำไม ป๋าไม่เป็นไรสักหน่อย.....เห็นไหม ยังยิ้มได้อยู่"
มาร้องให้ให้ป๋าเห็น ไม่เอาน่าขี้แยไปได้........."
ประโยคสุดท้ายที่ป๋า บอกฉันเป็น ครั้งสุดท้าย....
" ดูแลตัวเองนะ ป๋า อาจจะไม่มีโอกาส ดุแลหนูอีกแล้ว.ต้องเข้มแข็ง
เป็นตัวของตัวเอง สู้ ทุกรูปแบบ
แม้ไม่มีจะกิน จงอยู่อย่างเสื้อ หิวยอมกินเนื้อตัวเอง ดีกว่าเสียศักดิ์ ศรี
อย่าร้องให้ แม้ ว่า เราจะหมด หนทาง "
...จำเอาไว้....นั่นคือ คำพูด สุดท้าย ก่อนที่ลมหายใจของป๋าจะหมดลง........ในคืนนั้นเอง.....
ฉันตัดสินใจเลือก การรักษา อย่างหลัง คือ ให้ยาป๋า หลับไป แล้วเราทุกคน นั่ง สวดมนต์ ข้าง ๆ ป๋า .........จนป๋า หมด ลม หายใจ ในเวลา ตีสาม.....ของวันที่ ๒๐ เดือนตุลา ๒๕๒๖
น้ำตาเจียนเป็นสายเลือด .........
ไม่รู้ว่า นานเท่าไร แล้ว สำหรับ ความรู้สึกตรงนั้น
ทุกครั้งที่ ฉันได้หวลคิดถึงประโยคเหล่านั้น น้ำตาไหลไม่หยุด ทุกครั้ง
ป๋าจ๋า ป๋า หนูขอโทษ หนู ไม่เข้มแข็ง หนูไม่รักษาสัญญา
ที่ให้ป๋าว่าจะไม่ร้องให้ ...........แต่หนูรู้สึกว่าหนูโดดเดี่ยวมากเลย.หนูเหงาค่ะ
ป๋า.จ๋า..... หนูไม่รักษาสัญญาเพราะว่าหนูคิดถึงป๋านะคะ..........
30 พฤศจิกายน 2547 14:45 น.
ดาหลา & ปะการัง
..กำลังใจ
........บนเส้นทาง การเดินทางของคนเรา
เราเดินไป ในโลกกว้างๆๆใบนี้ ด้วย 2 เท้าของตัวเรา
พบปะผู้คนมากมาย........
บ้างก็วิ่ง บ้าง ก็ เดิน บ้างล้มลุกคลุกคลาน..........แตกต่างกันไป
.........ตัวฉัน เดินไป บนเส้นทาง เส้นนี้เหมือนกัน
เปรีบยเป็นลู่ วิ่ง ที่ มีเป้าหมาย ในการ วิ่งไป...........เช่นกัน
.........ในวันนี้ .....การเดินๆๆหยุดๆๆของชีวิต.....
..........ได้ค้นพบอะไรมากมาย.........
เรียนรู้ ตั้งแต่ลืมตามาดูโลก ที่เค้าบอกว่า โสภา และศิวิไลย์
มีความฝัน มีความหวัง มี สุข ทุกข์ เหงา เศร้า อยู่ประปราย
........ในบางเวลาที่ รู้สึกว่า ต้องการ กำลังใจ...........
เคยคิดว่าร้องขอจากผู้อื่น ...........ฉันร้องขอได้เสมอ
แล้ว ทำไม ฉันไม่ค้นหา........... กำลังใจ ตัว ฉันเอง .......ล่ะ
เพราะ การที่เราบอกว่า ต้องการกำลังใจ และฝาก คำ คำนี้ ไว้ที่คนอื่นๆๆๆๆ
แล้วคิดว่า ............เค้าจะมีให้เราได้ตลอด หรือ ???
.......ในวันนี้ .........ค้นหาความเป็นตัวของตัวเอง .....กันนะ
เพื่อที่เราจะได้เข้มแข็ง และ เดินไปข้างหน้า
แต่ละก้าวย่าง..ที่มั่นคง .......ปลอดโปร่ง........
การเรียนรู้ ที่จะค้นหาความเป็นตัวของตัวเอง ..........
ซึ่งฉันไม่รู้หรอก ว่า ค้าหาจาก ที่ใด ได้บ้าง
ฉันต้องขอบคุณ...เจ้าลุกชาย ที่ส่ง ต้นกล้า นัยนา มาให้
ฉันจึงรู้ว่า การค้น หาความเป็นตัวเอง นี่ ยาก จริงๆๆ
คงไม่ยากเกินไป ถ้าเราจะเปิด ใจของตัวเอง
ให้ค้นหา ตัวเอง.....จงอย่าบอกว่าคนอื่นเป็นกระจกส่องให้เห็นได้
..............ใช่ ไม่ปฎิเสธ ว่าจริง ...............
แต่ ทำไม เราต้อง ให้คนอื่น มาเป็นผู้ชี้ทางตรงนั้น ให้กับเรา
ทำไม ไม่เริ่มที่ตัวเราเอง ก่อน........ล่ะ
ทำอย่างไรจึงจะรู้จักตัวเอง.............
........จะเชื่อมั่นในตัวเอง ....และ......ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น
........ไม่เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน ...และ.....ยอมรับผู้อื่นเชื่อ บ้าง
.........คิดในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่คิด.........แต่.......ไม่เป็นคนขวางโลก.............
.......เดินไป บนทางข้างหน้า โดยมองคนรอบๆๆข้าง ทั้ง ด้านหน้าด้านหลัง ข้างๆๆเสมอ........
.....จงซื่อสัตย์ต่อ ตัวเอง............
............จงเป็นคนธรรมดาสามัญ...........ที่ไม่เหนือใคร...........
ดาหลา & ปะการัง
๒๐ สิงหาคม ๒๕๔๗