31 พฤษภาคม 2548 02:08 น.
ดาวอังคาs
จักรวาลล้านปีแสงลอยแรงเอื่อย
ดูชาเฉื่อยมืดมนบนท้องฟ้า
ทางช้างเผือกทั้งจักรดารา
คงเป็นเพียงฝุ่นบ้าลอยวนไป
มองหาใครไม่เห็นหลืบเร้นซ่อน
แสงสะท้อนสะบัดดาวเจ้าส่องผาย
แปลกแต่จริงทุกดาวผ่านกาลเวียนกาย
ไม่เคยฉายเปล่งแสงผ่านเพื่อฉันเลย
คงต่ำต้อยด้อยค่าหาใดเปรียบ
ทุกอย่างเรียบเกินกู่ดูชาเฉย
ไร้สำเนียงเสียงใดได้ร่วมเปรย
ฉันจะเผยในหัวใจไปตามทาง
หลับตาพาตัวลิบดาววิปลาส
ไกลสุดคาดโค้งฟ้านภาผัง
ไห้กระซิกหลับตาล้มจมภวังค์
หมดความหวังฝังฟ้าดำด่ำเดียวดาย
หวังว่าใครในความมืดจืดความสุข
ไร้สนุกทุกอย่างดั่งสหาย
เปล่งสะท้อนแสงจากตากระพริบพราย
แม้แปลกหน้ามีความหมายในตัวมัน
ส่งสัญญาณขานกู่บอกรู้เถิด
กระพริบตาเพื่อจะเปิดเชิดความฝัน
ไม่ยิ่งใหญ่ไม่เหมือนใครก็ช่างมัน
ขอหนึ่งมิตรดวงจิตมั่นหนึ่งนั้นพอ
ไม่เหงา ไม่เศร้า ไม่ทุกข์ อย่าปลอบ
แค่เขียนให้ทุก คนที่รู้สึกเดียวดาย
ผมพร้อมเป็นมิตรกับทุกคน
กระพริบตาบอกผมซิ่ ว่าคุณอยู่ที่ไหน........
29 พฤษภาคม 2548 14:38 น.
ดาวอังคาs
ตัดสวาทขาดสัมพันธ์ฉันกับเธอ
ถ้าพบเจอเสนอกลอนหล่อนอย่าขึง
ถูกต้องแล้วแจวลาละคำนึง
ใช่! ตะบึงงี่เง่าก็เข้าใจ
เปิดระบบปฏิบัติการนั่นทางออก
เป็นกลอนบอกลาแล้วว่ะ! อย่าสงสัย
จะ Block MSN แล้วตามไป
Block คนอื่นที่เกี่ยวก่ายไปพร้อมกัน
Oh Captain! my Captain! ค้างมันไว้
จงเข้าใจใยไม่ On นอนหลับฝัน
กลอน สองทาง นางเคยอ่านเมื่อวานวัน
สรุปฉันเลือกทางซ้ายใจจำนงค์
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem73717.html (Link บทกลอน สองทาง)
ติดตรงไหนไม่เข้าใจไม่ต้องถาม
พยายามฝ่าขวากหนามตามประสงค์
เที่ยวระยองมันไหมหนาอย่าพะวง
เจ้าอย่าจงเปลืองทรัพย์มาโทรหากัน
แม่ดอกเหมยดอกน้อยคล้อยลาจาก
ฉันต้องกลืนฝืนลากถากทางฝัน
เธอจงจำนามปากกาดาวอังคาs
แล้วสักวันฉันจะจารขานนามเธอ
หนึ่งคำที่สัญญาหาลมปาก
ชื่อที่ฝากอุทิศเหวยเคยเสนอ
ตอนรวมเล่มไว้วันตายจะได้เจอ
ชื่อของเธอผู้ประกายในทางกลอน
28 พฤษภาคม 2548 03:01 น.
ดาวอังคาs
กรายอ่อนช้อยอ้อยอิ่งสะบิ้งท่า
ถ้อยกริยาเยื้องย่างดั่งนางหงส์
ดังเทียนดัดจัดแขนวางยามตั้งวง
ชวนลุ่มหลงส่งเสียงใสในบทจร
ประทับใจในความเห็นเป็นตัวนาง
วนเวียนวางทางตัวสิ้นศิลป์สมร
ขนิษฐาชะตาตรงหลงโคลงกลอน
ฟังโอนอ่อนอ้อนเอ่ยเผยวจี
ดั่งปางก่อนย้อนเก่าไม่เข้าใจ
แต่ปางไหนเคยได้ชิดขนิษฐี
กลับมาสบพบพานบ้านกวี
เหย้าแสนดีที่ระยองคล้องสัมพันธ์
มโนจินต์ผินโผงโรงละคร
ใบหน้าซ่อนในหัวยักษ์ปักกระทั้น
ใคร่อยากชิดพิศใกล้ไปดูกัน
เหิมกระทืบยามโมหันสั่นกังวาน
สัญญากันมั่นเพื่อนลืมเลือนไม่
มีละครน่าสนใจให้เรียกฉัน
ช่วงชีวิตที่ขาดไปได้กลับพลัน
เป็นจิ๊กซอว์ต่อความฝันที่หายไป
น้องจิ๊กน่ารักมากนะครับ เจ้าข้าเอ๊ย! เจ้าข้าเอ๊ย! มีน้องสาวเพิ่มอีกคนแล้วคร๊าบบบบ
24 พฤษภาคม 2548 23:51 น.
ดาวอังคาs
ทะลึ่งองค์ทรงกายขยายฝัก
เกิดเพราะรักรากหยั่งลึกผนึกฝัน
ค่อยค่อยเติบโตช้าช้ามุ่งฝ่าฟัน
ให้เฉิดฉันเจิดท้าโลกากาญจน์
รับน้ำพรมจมดินกินทางราก
ดูดความรักน้ำมิตรจิตสมาน
เริ่มผลิใบเขียวเข้มเตรียมเบ่งบาน
แผ่ดอกหวานดั้นฝ่ามาพอตูม
ถึงฉันเป็นดอกหญ้าเงยหน้าเป็น
มิริเด่นดอกฟ้าพร่างห่างหลายขุม
มีมาบ้างผึ้งภู่ผินบินมารุม
ได้พอชุ่มจิตใจให้พลัง
ยืดโครงกายสยายใบได้พองาม
ขอบคุณน้ำที่พรมซัดงัดความหวัง
ต่อเติมวันดีดีมีกำลัง
มิลาร้างห่างหายได้เพียงพอ
มาวันหนึ่งหนึ่งวันฉันเสียจริต
หยิบกระป๋องใบผิดมาล่ะหนอ?
ใส่น้ำร้อนค่อนถังคว่ำหนำเต็มกอ
หงิกเหง้าหน่อบ่อความฝันผันเลือนลาง
23 พฤษภาคม 2548 22:26 น.
ดาวอังคาs
ซึมซับสะบัดน้ำพัดทราย
เดือนทอสาดฉายไล้แผ่นน้ำ
ไร้แล้วเวลาชั่วโมงยาม
คืนค่ำด่ำดื่มลืมเมืองกรุง
ซึมซับภาพพิมพ์ยิ้มร่วมกัน
หัวร่อต่อขันวันเฟื่องฟุ้ง
ทะเลเห่ฉ่ำธรรมาปรุง
อวลจรุงแทรกรัดสัมผัสใจ
ซึมซับเสียงเพลงบรรเลงกล่อม
นั่งล้อมวงฟังดังขานไข
คีตลอยบอกรับทราบความใน
ก้องอยู่มิวายไว้ตราตรึง
ซึบซับน้ำใจในของขวัญ
สู่กันปันไปให้คิดถึง
สลากแลกรับของคล้องคะนึง
มิอาจขาดผึงตรึงจวบวาย
ซึมซับน้ำมิตรชิดเชยชม
หล่อผสมบ่มนานท่านสหาย
ชิดจอต่อมาได้ชิดกาย
อักขราผันผายกลายเป็นจริง