3 สิงหาคม 2548 01:06 น.
ดาวอังคาs
ขอขอบคุณความหวังดีที่มีให้
แม้น้อยไปเข้าใจแล้วแก้วยังเหลือ
ความใยดีที่เก็บเก่าเฝ้าจุนเจือ
คอยโอบเอื้ออดทนแม้ไม่แน่นอน
ขอขอบคุณในน้ำเสียงที่ส่งผ่าน
แม้ไม่หวานเข้าใจแล้วแก้วยากถอน
ฉันจำได้ในราตรีที่บังอร
ส่งอวยพรหลับฝันดีมิลืมลง
ขอขอบคุณไม่ลบเลือนเป็นเพื่อนเที่ยว
ใยไม่เกี่ยวก้อยเคียงกันฉันกลัวหลง
เข้าใจแล้วแก้วลำบากยากปลดปลง
ตอนไปส่งขึ้นรถนั่งยังไม่ลา
ขอขอบคุณอย่างมากมายในของขวัญ
แต่ว่าฉันคงรับไว้ไม่ได้หนา
คงจะเก็บห่างเอาไว้ไกลลูกตา
เข้าใจแล้วแก้วกานดาไม่มีใจ
ขอขอบคุณไม่พ้อฉันว่างี่เง่า
ที่นั่งเศร้าเมื่อรู้ความเธอขานไข
เข้าใจแล้วเรื่องแก้วนั้นฉันห่วงใย
อดทนไว้ฉันจะย้ำจำให้มั่น
ขอขอบคุณที่มาบอกกันแต่เนิ่น
หากมันเกินเวลารู้กูแค่ฝัน
เข้าใจแล้วแก้วลาร้างนะช่างมัน
ตอนนี้กลับตัวไหวทันยังสบาย
จะริรักหากรู้ว่าไม่จีรัง
ฉันจะปลีกตัวไม่ฝังฝันสลาย
เข้าใจแล้วแก้วเวิ้งว้างจืดจางคลาย
ขอหันเหสู่จุดหมายในลำพัง
ฉันไม่อยากให้ความหวังฝังหัวใจ
หากวันหนึ่งมีหญิงใดให้อิงหลัง
ต้องขอโทษที่ไม่อยู่เป็นพลัง
เพราะจิตใจฉันวางตั้งกับนางเดียว
2 สิงหาคม 2548 00:01 น.
ดาวอังคาs
พิรุณเอยเอ่ยอ้าง...........................กรองความ
ธรรมชาติดลใจยาม......................มืดฟ้า
ขับเร้าบทกลอนงาม......................หลายหลาก
มุมเบิ่งต่างท่านข้า.........................เม็ดน้ำละอองปรอย
ฤดูฝนวนมาข้ามองย้อน
ดูบทกลอนหลายงานจารเรื่องฝน
ธรรมชาติวาดไหวดลใจคน
ได้เหม่อ-ยลผ่านแกลไม่แน่ใจ
บ้างยกประดุจแก้ว.......................จากโพยม
พรมชะใบบังโฉม.........................ป่าไม้
ประหนึ่งคีตประโคม......................เปาะแปะ เสนาะเฮย
แห้งเหือดจากคลายไร้...................ชุ่มชื้นราวสวรรค์
มีสองทางคำนั้นคำว่าฝน
ในบางคนเปรียบเป็นความสดใส
ดั่งดนตรีจากฟ้ากล่อมป่าไพร
ชะพรมไม้พรมหญ้าสุขารมย์
บางพวกกลับก่นร้อง.....................ฟ้าฝน
เปียกโชกแย่เหลือทน...................วุ่นแท้
เทหลั่งล่วงสายชล........................เจิ่งมรรค
ซ้ำโรครุมพ่ายแพ้.........................หวัดร้ายกรายกล้ำ
ความอีกทางต่างกันด้านตรงข้าม
มาในนามเปลี่ยนหมายกลายเป็นขม
ด้วยน้ำนองเต็มถนนเพราะฝนพรม
ต้องนอนซมพิษไข้ไม่สบาย
ตั้งเค้ามาช่วงนี้.............................ตั้งตัว
สดชื่นฤาหมองมัว.........................มิรู้
ครืนขู่อย่าเพ่อกลัว........................วิตก
ริรักใคร่ชื่นชู้................................มั่นไว้หาญเผชิญ
ฝนตั้งเค้าคราวนี้ชวนให้คิด
อาจจะเป็นฝนพิษฤทธิ์โหดร้าย
หรืออาจเป็นฝนหวานจวบวางวาย
ยากทำนายคอยลุ้นพิรุณเท
31 กรกฎาคม 2548 23:24 น.
ดาวอังคาs
ฉันรู้สึกว่ามั่นใจเมื่อไว้หนวด
เอาไว้อวดใครต่อใครไม่ขัดเขิน
ฉันไม่สนใครจะชังใครจะเมิน
เท่เหลือเกินทั้งหนวดเคราช่างเร้าใจ
แต่วันนี้ส่องกระจกชักตระหงิด
มีความคิดว่าเธอนั้นพอใจไหม
ก็เข้าทีพี่ดูหล่อไว้ต่อไป
หรือไม่ไหวดูรุงรังน่าชังจริง
ถ้าเธอชอบคงดีใจไม่ต้องถาก
ถ้าเกลียดมากฉันก็คงต้องโกนทิ้ง
บอกซักคำมาเถอะนะอย่าประวิง
โอ้น้องหญิงที่ฉันรักบอกทักมา
ไม่เคยยอมให้กับใครมากเท่านี้
หนวดเคราพี่โกนทิ้งได้ไร้ปัญหา
เพื่อนวลน้องไว้ควงเพลินเจริญตา
ปรารถนาเพียงลออได้พอใจ
29 กรกฎาคม 2548 00:44 น.
ดาวอังคาs
มาจำลองเหตุการณ์กันสักนิด
ความใกล้ชิดหากหายกลายเป็นอื่น
ทำอย่างไรดีฉันเพื่อผ่านคืน
ความสดชื่นคงถอยด้อยลงไป
คงนั่งถอนหายใจหลายร้อยรอบ
หาคำตอบให้ตัวว่าไฉน
เธอจึงจากลาล้างห่างไปไกล
เหตุแห่งใจระส่ำดำดิ่งจม
อาจนั่งเหม่อเพ้อพกหมกความเศร้า
อาจนั่งเหงาเจ่าจุกทุกข์ไหม้ขม
อาจร้องไห้โหยหาตาระบม
อาจปลิวลมดิ่งตึกผนึกปูน
อาจจะช็อคน็อคคว้างทางความคิด
เสียจริตใบ้บ้ามาเสียศูนย์
อาจจะแค้นเคืองข้องกองจูนพูน
แรงอาดูรลอบแทงยับดับชีพคน
รวบรวมความรู้สึกผนึกคิด
อาจก่อฤทธิ์เลวร้ายเนื่องในผล
ตอนนี้มีสติผิไว้ยล
ในตัวตนเกิดมาหาอันใด
ในปรัชญาสูงสุดนั้นคือสุข
ทำอย่างนั้นนั่นทุกข์มิสดใส
ใครจะจากเร่ร้างช่างปะไร
จำเอาไว้สั่งสอนตอนนางเมิน
26 กรกฎาคม 2548 22:36 น.
ดาวอังคาs
ความคิดล้วนขัดท้า อริสโตเติล ครูเอย
ชิชะทำล่วงเกิน ศาสน์แย้ง
หาญหักจักเผชิญ บ่วงฆาต คอเฮย
หัวบุราณกลั่นแกล้ง เก็บกล้ำสงบคำ
ยืนยงมานานโองการใคร
หมุนวนหมุนไปใครรังสรรค์
ของขวัญของใครใครกำนัล
แสนหมื่นล้านฝันนั้นของใคร
พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้
คือผู้สร้างสรรค์วันไสว
สร้างน้ำสร้างดินสร้างเปลวไฟ
ชี้ความเป็นไปในจักรวาล
ถวายตนใกล้ชิดติดพระองค์
ข้าปลงชีพได้ให้เพื่อท่าน
สันตะปาปาคาดินาล
ลดหลั่นบิชอพถึงเสนา
พลเรือนทาสไพร่ผู้หิวโหย
ขอทานหัวขโมยจอมมิจฉา
คนโซโคควายถัดไล่มา
ล้วนซบนบข้าพระเจ้าจอม
คลุกเคล้ายาวนานร้านตลาด
ชนชาติเชยเช่นทั้งเหม็นหอม
พลีกายฝืนจินต์หรือยินยอม
ดมดอมตามก้นด้นตามกัน
ดูกร! องค์ท่านนั่นผู้ใด
คัมภีร์ปล่อยไว้ตามไล่ฝัน
มิเดินตามมรรคจักถูกทัณฑ์
สวรรค์มีตาจะโบยตี
กาลิเลโอคือนามข้า
กล้องส่องดาราฟ้าวิถี
ฟังก่อนเถิดหนาประชาชี
ไร้แล้วไม่มีหรอกพระองค์
วิทยาการล้ำนำปัญญา
เปิดหูเปิดตาอย่าลุ่มหลง
อย่าถอยตัวเราเข้าป่าดง
กล้าหาญมั่นคงจงอิสรา
ตะวันก็ลอยของมันอยู่
อย่างนั้นจงรู้ไว้เถิดหนา
หาองค์ทรงปั้นมันขึ้นมา
โลกาก็ห่อนเป็นศูนย์กลาง
ดูก่อนเจ้ากาลิเลโอ
ชิชะ! ทำโวแข็งกระด้าง
เชือกบ่วงขึงคอรอเป็นลาง
อาจเห็นรอยทางอันเสรี
กฎเกณฑ์อย่าละผละตัวออก
ไอ้แก่มันบอกช่างบัดสี
พี่น้องทั้งหลายพระคัมภีร์
องค์ท่านจักชี้ทางสวรรค์
ชีวิตสุดต้านด้านตรงข้าม
บังอาจเหยียดหยามคิดบิดผัน
ดวงดาวบนฟ้าของใครกัน
น้ำตาสุดกั้นฝันทะลาย
วิทยาความรู้ต้องกู้กอบ
ค้นหาคำตอบชนทั้งหลาย
ทดลองฟันฝ่าปัญหาคลาย
ที่สุดสุดท้ายไม่หลอกลวง
ปรากฏกระจ่างต่างสายตา
สะเทือนท้องฟ้าท้าแดนสรวง
ฉีกพักตร์หักศาสน์บาดทั่วทรวง
เรียนรู้พ้นล่วงห่วงงมโง่
หัวเก่าโบราณท่านมิยอม
มิน้อมต่อองค์ทรงโมโห
ใส่ความให้กาลิเลโอ
หมิ่นศาสน์อักโขจอมอวิชา
ปลุกปั่นกระแสแก่กรุงโรม
เร่งโหมใส่ไฟในปัญหา
ให้โป๊บสูงส่งทรงตุลา
ตัดสินโทษาแก่ตัวท่าน
แถลงแจงการตามความผิด
โป๊บคิดยกมือบอกว่าผ่าน
แต่มิอาจทานแรงบงการ
อย่าหาญต่อองค์ศาสดา
คำสั่งกลางศาลห้ามสั่งสอน
สังวรจำไว้ศาสนา
ห้ามหมิ่นหลู่ผู้ขีดชะตา
ทายท้าต้องเผาเจ้าทั้งเป็น
ขมปากฝาดเฝื่อนเหมือนมีตูด
จะสอนจะพูดความคิดเห็น
ประโยชน์ของใครโอ้กรรมเวร
เก็บงำซ่อนเร้นเล่นพวกพ้อง
จะปลดโซ่ตรวนล้วนยากเย็น
ลำบากเหลือเข็นถูกมองจ้อง
ค่อยคิดค่อยทำตามครรลอง
ชื่อเสียงเริ่มก้องไปแดนไกล
สิ่งใดตรงข้ามในความคิด
ผู้คนอยากพิศให้รู้ได้
ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! อยากเข้าใจ
ตำราซ่อนไว้ห้ามเผยแพร่
เพียงนิดเพียงน้อยทะยอยรู้
ชื่นชูความจริงที่ตีแผ่
ท้องฟ้าสุดกว้างห่างตาแล
จริงแท้นั้นเป็นของพวกเรา
โอ้โอ! กาลิเลอี
วันนี้สิ้นร่างท่านผู้เฒ่า
ลูกศิษย์ลูกหายังทาบเงา
เร่งเร้าเรื่องราววิทยา
โอ้โอ! กาลิเลโอ
วาโยพาพัดสู่โลกหน้า
นามผู้ก่อวางสร้างปัญญา
กระพริบห้วงฟ้ากาลนาน