25 กุมภาพันธ์ 2546 19:02 น.
ดาวสีหม่น
มองตะกอนฟอนไฟมอดไหม้สุม
คงร้อนรุ่มรุมร่างอย่างแผดเผา
ทั้งควันไฟฝุ่นฟุ้งคลุ้งจากเตา
เหลือเพียงเถ้าเศษธุลีที่วางวาย
ดวงวิญญาณหลุดลวงร่วงจากร่าง
ลอยเคว้งคว้าง ฤ สถิตย์ ณ ทิศไหน
บูรพา-หรดีทิศาใด
แต่สถิตย์ในกลางใจฉันนิรันดร์กาล
ขอคนดีสู่แดนดวงสรวงสวรรค์
ให้รังสรรค์ในนิทราพลาหาร
จะคอยเคียงเรียงร้อยถ้อยคำกานท์
ขอพบพานและประสบทุกภพไป...
13 กุมภาพันธ์ 2546 20:30 น.
ดาวสีหม่น
กุหลาบแดงแย้มผลิเพียงหนึ่งดอก
ชูไหวหลอกลวงล่อช่อไสว
กลีบเบ่งบานท้าทายกวัดแกว่งไกว
ภู่ผึ้งไล่ดมดอมหอมผกา
ภาพที่เห็นเป็นใจให้ลุ่มหลง
เอื้อมมือลงสัมผัสแผ่วแก้วพฤกษา
กุหลาบน้อยเอียงกลีบหลบก้านซบมา
ดวงลดางามนักยากหักใจ
แต่สำนึกหลอนหลอกบอกให้คิด
ใต้ห้วงจิตจินตนาเริ่มหวั่นไหว
ย้ำว่าฉันไม่สำคัญสำหรับใคร
วาเลนไทน์หรือวันไหนไม่เปลี่ยนแปลง...
3 กุมภาพันธ์ 2546 11:16 น.
ดาวสีหม่น
ไม่รู้จะขอพรจากใคร...
ถึงจะสมหวังได้ในทุกสิ่ง
ไม่ว่าจะในโลกแห่งความฝัน-หรือความจริง
เหมือนถูกทิ้งเคว้งคว้างทางแสนไกล
จันทร์เจ้าขา...
ขอให้ลูกสมหวังสักเวลาจะได้ไหม
ขอแสงจันทร์อันผุดผ่องส่องทางไป
ช่วยตามหาหัวใจให้ลูกที
จะได้ผลไหมนะ !!!
ที่เลือกขอพรจากจันทร์ดาราคืนนี้
จันทร์เจ้าขาขอได้โปรดจงปรานี
ลูกขอพรผ่านบทกวีบทนี้ไป
สิ่งที่ขอไปนั้น...
ใช่หลับฝันหลงละเมอเพ้อถึงไหน
หรือจันทร์คิดแค่จินตนาการอันกว่าไกล
จึงดลให้ร่างทุกข์ใจไร้วิญญาณ !!!