15 มีนาคม 2553 23:35 น.

สมาชิกบ้านกลอน

ดาวศรัทธา

มีข้อสงสัยและข้อเสนอเกี่ยวกับสมาชิกของเว็บ www.thaipoem.com ดังนี้ครับ

1. เหตุใดจึงมีสมาชิกต่างชาติมากมายในทะเบียนสมาชิก เขาได้ใช้ประโยชน์อย่างไรกับเว็บนี้ และมีผลกระทบฐานข้อมูลและรายละเอียดของสมาชิกอื่นๆอย่างไรหรือไม่

2. เข้าใจว่าเว็บไม่มีระบบกรองคำหยาบ และเปิดโอกาสให้ใครก็ได้ เขียนอะไรก็ได้ในเว็บ โดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ปล่อยให้สมาชิกเจ้าของหัวข้อต่างๆรับผิดชอบเอง โดยเจ้าของหรือผู้ดูแลเว็บไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง

3. ขอเสนอว่า หากต้องการให้เว็บนี้มีคุณภาพมากขึ้น และหลีกเลี่ยงกรณีหมิ่นประมาทหรือการทำผิดกฎหมายเท่าที่จะทำได้ ควรให้เฉพาะสมาชิกที่ล็อกอินเท่านั้นเขียนข้อความใดๆในเว็บ

เคยเข้ามาแจมโดยไม่ได้เป็นสมาชิก ด้วยรู้ตัวว่าจะไม่ทำผิด แต่เห็นว่ามีช่องโหว่มากมาย จะทำให้เว็บเสื่อมเสียได้ง่าย จึงขอถามและเสนอมา

หากท่านใดมีความเห็นอย่างไร เชิญครับ				
11 มีนาคม 2553 22:31 น.

วันที่ประชาชนต้องเรียนรู้จากการ"ล้มมาร"

ดาวศรัทธา

ทุกอย่างในโลกนี้ มนุษย์ต้องอยู่ด้วยการเรียนรู้ และสิ่งที่ได้จากการเรียนรู้ที่ดีนั้นต้องผ่าน "ขั้นตอนปฏิบัติ" ไปก่อนทั้งสิ้น ขณะนี้ก็เช่นกัน คนไทยกำลังเข้าสู่ขั้นตอนปฏิบัติจากการเรียนรู้...รู้ ผิด-ถูก, ชั่ว-ดี, จริง-ลวง จากทักษิณว่าเป็น "คนดีสร้างชาติ" หรือ "คนอุบาทว์ชาติชั่ว?"

ถ้าถามว่า แล้วมันจะไปจบอยู่ตรงไหน?

ตอบได้เลยว่า...เมื่อมันมาถึงจุดนี้แล้ว มันก็ต้องไปจบตรง "ความเจ็บปวดร่วมกัน" ของคนทุกคนในชาติ และความเจ็บปวดนั้น จะเป็นแส้โบยเพื่อคั้นจิตสำนึกคนไทยทุกคนออกมาเองว่า สิ่งที่ได้จากการปฏิบัตจนเป็น "บทเรียน" นี้

อย่างไหน...ใช่, อย่างไหน...ไม่ใช่ และอย่างไหน...ถูก, อย่างไหน...ผิด!?

และด้วยปัญญาอันได้มาจาก "สติ-คืนตัว" นั้น คนในสังคมไทยจะเลือกทางเดินสังคมชาติ "สู่อนาคตใหม่" เองว่า ทางไหน คือ "ทางที่คนไทยควรต้องไป"

ไป...โดยจมูกไม่ร้อยเชือก!

ครับ...เหล็กดี ต้องผ่านการตีและเตาหลอม ไม่มีอะไรเลวอย่างเดียว หรือดีอย่างเดียว เพราะดี-เลวอยู่ในสิ่งเดียวกัน แต่เราจะได้มันจากการ "รู้จักคัดแยก"

โดยนัยนี้ ผมจึงแอบปลื้มใจจนน้ำตาซึมอยู่คนเดียวเงียบๆ เพราะจับปฏิกิริยาคนไทย โดยเฉพาะ "คนในเมืองหลวง" จากช่วงนี้ได้ว่า นอกจากไม่ตื่นกลัว "คนบ้าหลงยุค" ชื่อทักษิณ ที่หลอกผู้คนให้มา "แดงทั้งแผ่นดิน" ในวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้แล้ว

ปรากฏว่า หลายกลุ่ม หลายปฏิกิริยาชุมชน กลายเป็น "คนรู้ทันโจรปล้นชาติ" และต่างหมายเขม้นเค้นคันมือ เตรียมต้อนรับการมาทำบ้าคลั่งของคนเสื้อแดงกันเต็มภิกขา ทั้งชุมชนย่านถนนเพชรบุรี ย่านนางเลิ้ง ย่านดินแดง ย่านราชปรารภ ย่านนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นอาทิ

โดยเที่ยวนี้ พวกเขาที่ไม่เอากับความรุนแรง จะไม่ยอมให้คำว่า "สุจริตชนคือคนที่ต้องรับกรรม" โดยเป็นผู้ "ถูกกระทำ" ตลอดกาล เกิดขึ้นเป็นคำรบสอง เช่นตอนเมษาปีที่แล้วอีกเด็ดขาด!

ทุกคนในชาติ คือส่วนหนึ่งในคำว่า "ประชาชน"

และคำว่า "ประชาชนต้องเรียนรู้" หากถามว่า "เรียนรู้อะไร?" คำตอบก็คือ

"ประชาชนต้องเรียนรู้ประชาชนด้วยกัน" นั่นแหละ!

เมื่อถึงจุดหนึ่ง รัฐและเจ้าหน้าที่รัฐ ตำแหน่งที่ต้องอยู่เพื่อทำหน้าที่ดีที่สุดคือ "ตำแหน่งบริหาร-จัดการ" คือต้องคอยบริหาร-จัดการ ความต่าง ความขัดแย้ง ความรุนแรงที่มีต่อกัน อันอยู่ในความหมายว่า "ประชาชนเรียนรู้ประชาชน" ให้อยู่ในจุดสมดุล

สมดุลนั้นคืออะไร?

ก็คือ ควบคุมความขัดแย้ง และความรุนแรงจากอารมณ์ประชาชน ให้เป็นความขัดแย้งนำไปสู่เส้นทางสร้างสรรค์ พยายามอย่าปล่อยให้ความขัดแย้งนั้น นำไปสู่ความเป็นปฏิปักษ์ ที่จะหักหาญกันในขั้นอาวุธ

ครั้งนี้ ถ้าเราจะพูดโดยใช้คำว่า "ต่อสู้" ก็ต้องบอกว่า การต่อสู้กันของประชาชนปีนี้ มันต่างกับการต่อสู้กันของประชาชนเมื่อปีที่แล้ว หรือพูดให้ชัด-กระชับยิ่งขึ้น ก็ต้องพูดว่า ครั้งนี้ เป็นการต่อสู้กันระหว่าง.....

ประชาชนที่ "ใจเป็นธรรม" อาจไม่ปฏิเสธตัวทักษิณ แต่ยอมรับไม่ได้ในสิ่งที่ทักษิณทำกับชาติและบ้านเมือง

กับประชาชนส่วนหนึ่งที่ "ใจมืดดำ" ตกเป็นเหยื่อของการคว่ำชาติ ทั้งไม่ปฏิเสธตัวทักษิณ และทั้งยอมยกชาติและสังคมชาติให้ทักษิณปู้ยี่ปู้ยำได้ตามปรารถนาทุกสิ่ง!?

เมื่อปีที่แล้ว ประชาชนที่มี "ใจเป็นธรรม" อาจยังไม่ได้ตัดสินใจในตัวทักษิณไปทางใด-ทางหนึ่ง เพราะด้วยใจที่เป็นธรรมนั้น จึงอยู่ระหว่างแสวงหา "ข้อมูล" ประกอบการตัดสินใจ ฉะนั้น จึงเห็นได้ว่า

ครั้งนั้นสังคม...จึงเป็นสังคม "ประชาชนอุเบกขา" ถือว่า "ธุระไม่ใช่" ปล่อยให้ทักษิณยุยง-หลอกล่อคนเสื้อแดงก่อจลาจลปล้นบ้าน-เผาเมืองได้เมามัน

แต่ปีนี้ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๓ วัน-สองวันนี้แหละ จากที่องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองเวียนกันอ่านคำตัดสิน คดียึดทรัพย์ทักษิณ ๗๖,๐๐๐ ล้านเมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ให้ประชาชนฟังอย่างละเอียดทุกคำ-ทุกบรรทัดคำตัดสิน ใครฟังแล้วต่างสิ้นสงสัย

กระจ่างชัดในหัวใจ ทักษิณมันคน...จัญไรของแท้!

โดยเฉพาะประชาชนในส่วนที่ "ใจเป็นธรรม" นั้น เมื่อรับทราบข้อมูลแจ่มชัดเช่นนี้ ต่างปลดอุเบกขาเป็น "เตรียมยกขา" ตั้งท่ารอทั้งนั้นว่า ไอ้กาลีมันยุยงคนมาทำอัปรีย์เมืองเมื่อไหร่ ในนามสุจริตชนคนไทย...จะให้บทเรียน!

วาระสุดท้ายของพระเทวทัต ขณะแผ่นดินสูบยังสำนึกได้ในสิ่งที่กระทำลงไปว่าผิด อาศัย "สำนึกดี" สุดท้าย กล่าวคำอุทิศถวายคางเป็นพุทธบูชา ขมาโทษต่อพระพุทธองค์ ก่อนที่แผ่นดินจะสูบร่าง จมถึงคาง และจากคาง จะจมหายมิดไปทั้งร่าง-ทั้งศีรษะสู่ใต้พื้นธรณี

แค่ "สำนึกสุดท้าย" แท้ๆ หลังจากตกลงไปในนรกอเวจีแล้ว ด้วยอานิสงส์สำนึกนั้น ในอีกแสนกัลป์นับจากวันถูกแผ่นดินสูบ พระเทวทัตยังจะได้มาเกิดเป็นปัจเจกพุทธเจ้านามว่า "อัฏฐิสสระ"

แต่ทักษิณล่ะ จะสำนึกในความผิดต่อชาติ-ต่อประชาชน ซักเท่าปลายเมล็ดงาก็ยังไม่มี หักหนาสาหัสกว่านั้น คำโบราณมีว่า "อันว่าบุญคุณนั้น แค่ไม่เนรคุณ ก็ถือว่าได้ตอบแทนบุญคุณแล้ว"

ทักษิณตอบซิว่า พี่น้องคนไทยทุกคน มีบุญคุณกับท่านขนาดไหน แล้ววันนี้ ท่านตอบแทนคุณประเทศชาติ-ประชาชนด้วยการส่ง SMS เข้ามือถือประชาชนคนไทยในเครือข่ายของท่านด้วยข้อความว่า

"๑๔ นี้ ร่วมทวงคืนประชาธิปไตย และความเป็นธรรมที่หายไป เพื่ออนาคตลูกหลานไทย"

แบบนี้ ตอบแทนบุญคุณ หรือเนรคุณ ลองตอบด้วยความเป็นคนที่หลงเหลืออยู่ในร่างซิ คุณปลุกปั่น หลอกลวงประชาชนให้มาตายเพื่อคุณ กับลูกเมียคุณชัดๆ ใช่หรือไม่?

ก็เที่ยวหลอกให้คนเสื้อแดงมาทวงประชาธิปไตย และความเป็นธรรม ซึ่งมันไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่อะไรที่คนระยำอย่างทักษิณมันไม่ได้อย่างใจ ก็บิดเบือนพูดไปหมดว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เป็นธรรม แล้วที่ตัวมันโกงชาติ-โกงประชาชน และหนีคดี หนีคุกไปน่ะ มันเป็นประชาธิปไตย มันเป็นธรรมตรงไหน ตอบให้ประชาชนฟังหน่อยซิ?

แล้วนี่...ทั้งโฟนอิน ทั้งวิดีโอลิงค์ ทั้ง SMS ปลุกระดมให้ประชาชนเสื้อแดงมาล้มรัฐบาล มาป่วนบ้าน-ยึดเมือง ให้ออกกันมามากๆ แต่ในขณะเดียวกัน เห็นมั้ย...มันให้ ลูก-เมีย มันทั้งโขยง

บินหนีเอาตัวรอดไปแล้ว!

เอาเงินที่พ่อมันโกงไปช็อปปิ้งสวิส ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮ่องกง กันสบายใจเฉิบ เรียกว่ามีอะไรเกิดขึ้น ครอบครัวมันสบาย อยู่ทางเมืองไทย เสื้อแดงที่หลอกมา ใครจะเป็น-จะตาย-จะถูกจับเข้าคุก เข้าตะราง กูไม่เกี่ยว

อย่างเก่งก็แค่โยนเศษเงินไปประกัน ไปทำขวัญ เหมือนโยนเศษทาน เศษกระดูกให้หมาข้างถนนแทะ!

แล้วดูซี...ดูไอ้มนุษย์ทรามมันด้านพูด มันโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ตอบคนที่ถามว่า "ถ้ามีความรุนแรงเกิดขึ้นจะรับผิดชอบอย่างไร" มันตอบว่าอย่างไรท่านทราบมั้ย มันตอบว่า

"....ต้องยึดแนวของมหาตมะ คานธี คือต่อสู้ด้วยสันติ และตีแผ่ความจริง........."

ไม่ใช่ว่าดูหมิ่น-ดูแคลน เราต้องยอมรับว่า คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งได้ยินแต่ชื่อ "มหาตมะ คานธี" แต่รู้แบบไม่ลงรายละเอียดว่า แนวทางต่อสู้ของมหาตะ คานธี อย่างที่ทักษิณอ้างนั้น มันคือแบบไหน อย่างไร ก็อาจหลงเข้าใจว่า สิ่งที่ทักษิณทำอยู่ขณะนี้ คงเหมือนที่มหาตมะ คานธี เคยทำนั่นแหละ

เรียกว่า "เลวบริสุทธิ์" จริงๆ มหาตมะ คานธี ท่านไม่เคยหนีคดี ไม่เคยโกงเหมือนทักษิณ ท่านจบกฎหมายจากอังกฤษ แต่ต่อสู้เพื่ออิสระ-เสรีภาพ ในสังคมเป็นธรรม ท่านสละสุขส่วนตัวหมด จากเสื้อนอกมาเป็นผ้าเตี่ยว ๒ ผืน พันล่าง-พันบน และไม้เท้า

แล้วท่านใช้แนวทางสันติ-อหิงสาสู้กับรัฐบาลอังกฤษ โดยท่านไม่เคยชักชวน ยุยง-ปลุกปั่นประชาชน ให้มาทำเพื่อท่าน หรือทำตามท่าน หากแต่ท่านเดินไป..เดินไป..ประชาชนที่ศรัทธาพากันเดินตาม จากเมืองสู่เมือง จากคน-สองคน ก็กลายเป็นกองทัพมหาประชาชน "สันติ-อหิงสา"

ไม่ไประราน ราวีใคร ไม่ไปล้อมบ้า-ล้อมบอที่ไหน ไม่ใช่เช้า-สั่งสมุนสวมเสื้อนอกเข้าสภาฯ ตกบ่ายสวมเสื้อกั๊กเป็นไอ้มหาโจรนอกสภาฯ อันไม่ใช่แนวทางสันติ และตีแผ่ความจริงอย่างว่าด้วยประการทั้งปวง

และจำใส่กะโหลกไว้ด้วย มหาตมะ คานธี ท่านไม่เคยหนีเอาตัวรอด แล้วหลอกให้ชาวบ้านไปตายแทน ในทุกการต่อสู้ ตัวท่าน "เดินนำหน้า" ไม่ใช่นอนชักใยอยู่นอกประเทศ รัฐบาลอังกฤษยกกำลังมาปราบ จับชาวบ้านเข้าตะราง

ตัวท่านก็ "เข้าตะราง" ด้วย!

มหาตมะ คานธี ไม่เคยปลุกปั่น แบ่งแยกประชาชนให้ฆ่ากับประชาชนกันเองเหมือนทักษิณ ตรงกันข้าม ทุกคนคงทราบ อินเดียนั้นเป็นชาติเคร่งศาสนา และแบ่งเป็น ๒ ส่วนใหญ่คือ อินเดียมุสลิม และอินเดียฮินดู ทั้ง ๒ ฝ่ายนี้ปะทะฆ่าฟันกันไม่เลิกรา มหาตมะ คานธี ท่านมีแต่ไปพูดจาให้สมัครสมานสามัคคี

แล้วนี่...ทักษิณกำลังปลุกปั่น-ยุยงให้คนไทยกับคนไทยฆ่ากัน แล้วตัวมัน-ลูก-เมียมัน ขนสมบัติหนีไปอยู่เมืองนอกสบาย มันเป็น "แนวทางมหาตมะ คานธี" ตรงไหน ผมจะบอกอะไรให้อย่าง ประเทศไทยนั้น เขาพูดกันไว้นานแล้วว่า "คนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาล คนกรุงเทพฯ ล้มรัฐบาล"

แต่วันนี้....คนกรุงเทพฯ กำลังรอ "ล้มมาร"!				
ไม่มีข้อความส่งถึงดาวศรัทธา