21 พฤษภาคม 2551 10:57 น.
ดาวระดา
ฉันเคยหวังไว้สูงมุ่งไม่ถึง
เหตุนี้จึงสงสารเขาเจ้าความหวัง
ฉันเจ็บใจเราทำเขาให้พลาดพัง
จึงมานั่งขอขมาอย่าโกรธเคือง
อย่าได้ถือเอาโทษโกรธกันนะ
ให้นึกซะกรรมเราเท่าเขาเขื่อง
รอชาติหน้าเถิดถังความหวังเรือง
ค่อยปราดเปรื่องทุกเรื่องราวที่ก้าวเดิน
ฉันเข้าใจในรู้สึกเมื่อหวังหมด
เศร้ากำสรดอดสูดูห่างเหิน
สุดเดียวดายไร้ทิศทางย่างเผชิญ
ความหวังเยินยับไปไม่หวนคืน
ฉันสัญญาจะรักษาความหวังไว้
หากหวังใหม่เข้าจะฝ่าฝืน
จะไม่ยอมตรอมใจใคร่ยันยืน
ฉันจะกลืนเจ้าไว้ไม่ให้จร
20 พฤษภาคม 2551 11:49 น.
ดาวระดา
เห็นอนงค์นางหนึ่งซึ่งร้องไห้
ด้วยเห็นใจจึงทักทายเพื่อไถ่ถาม
จึงได้รู้ต้นสายปลายเหตุความ
บอกว่ายามนี้หนอส่อช้ำระกำกอง
ด้วยพายุพัดพาดถึงฆาตแล้ว
ครอบครัวแก้วตายหมดสลดหมอง
เอื้อนเอ่ยเล่าพร้อมเคล้าน้ำตานอง
ก้มหน้าร้องหลั่งน้ำตาความอาดูร
นึกถึงหวังที่เคยหวังมาพังสิ้น
แม้แต่กลิ่นกายศพยังจบสูญ
ยิ่งทวีความเศร้าเป็นเท่าคูณ
หวังเกื้อกูลหมดสิ้นแผ่นดินนาง
ใบหน้าที่เคยหมองต้องหมองซ้ำ
เหมือนมาย้ำตำต่อยคอยขัดขวาง
เคยนั่งรอวันกลับนับวันวาง
แล้วทุกอย่างมันพลัดพรายมลายรุม
อยากจะก่อกองไฟสุมกายศพ
ได้แต่นบจบนิ้วให้แทนไฟสุม
ร้าวในอกตกต่ำระกำกุม
มันร้อนรุ่มกลุ้มใจหาใดปาน
19 พฤษภาคม 2551 08:19 น.
ดาวระดา
ฝนลาไกลเมื่อปีกลายหลายเวลา
ยังย้อนมาคืนสู่ทุ่งเมื่อปีหลัง
หอบเอาความชุ่มฉ่ำนำปิดบัง
ซากผุพังหน้าร้อนกร่อนทำลาย
สายฝนโปรยโรยความชื้นตื่นทุกครา
แม้ต้นหญ้ายังแตกใบให้ความหมาย
สื่อให้รู้ว่าฉันยังไม่ตาย
ยังรอสายแห่งฝนที่หล่นริน
แม้กบเขียดในนายังตาตื่น
เห็นความชื้นรีบรุดขุดซอกหิน
ออกกู่ก้องส่องเสียงให้ได้ยิน
ประหนึ่งพิณเพลงไพรให้สำเนียง
แต่ความรักจากไปเมื่อฝนหมด
สุดรันทดท้อใจไม่ส่งเสียง
จากไปลับไม่กลับมานอนเคียง
หรือบ่ายเบี่ยงเอียงใจให้ใครกัน
เฝ้าแต่รอคอยท่าน้ำตาตก
น้ำฝนหกชายคาข้าโศกศัลย์
โถคนรักชักใจร้ายได้เหมือนกัน
นั่งรำพันจนฝนซาน้ำตาซึม
18 พฤษภาคม 2551 07:20 น.
ดาวระดา
วัดความสุขของตัวด้วยตนเอง
อย่ามัวเกรงใจใครในใต้หล้า
เราจะสุขทุกเขาเศร้าอุรา
เกณฑ์สายตาตัวนั้นนั่นแหละดี
ถึงจะกินน้ำพริกปลาทูดูมีสุข
ต่างอิ่มจุกจับใจให้สุขี
ไม่เดือดร้อนสรรหาราคาตี
อยู่อย่างนี้อย่างเราเข้าเกณฑ์ตน
เสื้อผ้าผืนแพรพรรณเขาสรรค์สร้าง
ราคาต่างงามตาอย่างสับสน
ของแพงแพงใช่เสริมค่าราคาคน
หากดิ้นรนหาใส่ไม่สมควร
ขอให้ตัววัดตนไม่หม่นหมอง
ความถูกต้องภายในไม่ปั่นป่วน
อยู่ในกรอบพึงพอใจไม่เรรวน
สิ่งทั้งมวลมากหรือน้อยร้อยกฏเกณฑ์
16 พฤษภาคม 2551 13:17 น.
ดาวระดา
หอบความหวังวิ่งผ่านด่านแดนเขต
ผืนประเทศธงไทยไถ่หนี้สิน
พลัดเมืองมาห่วงหาน้ำตาริน
ข้ามแผ่นดินกลิ่นพม่าข้ายังจำ
หอบความทุกข์ทิ้งไว้ชายเขตข้าม
ฝ่าขวากหนามไร้คนชุบอุปถัมภ์
แสวงหาค้าแรงแหล่งที่ทำ
ดูต้อยต่ำย้ำหัวใจไถ่ที่คืน
กลายเป็นชนคนขายแรงแห่งชาติ
ทุกหยดหยาดเหงื่อไหลไม่อาจฝืน
คนพลัดถิ่นชอกช้ำต้องกล้ำกลืน
สักวันยืนอยู่ได้ไม่ขายแรง
โอ้เวรกรรมเมื่อใดจะได้หวน
คิดทบทวนหวนถึงจันทร์วันสาดแสง
กระทบเงาเข้าถึงใจให้แสดง
น้ำตาแต่งแทนแป้งทานาคา