14 เมษายน 2549 20:30 น.
ดากานดำ
ที่รัก...
วันคืนอันหน่วงหนักพรากเราไกลห่าง
รู้หรือเปล่า...เพียงม่านแห่งความเงียบเหงาจางจาง
สามารถทำให้ฉันครวญครางได้ทั้งคืนทุกคืน
คนดี...
ระยะทางที่ขวางกั้นเรานี้...ฉันไม่อาจทนฝืน
จนม่านน้ำตาพรั่งพรูอย่างมิอาจกล้ำกลืน
เสียงหัวใจไห้สะอื้น...พร้อมหลั่งน้ำตา
คิดถึง...
รู้ไหม...ห้วงคำนึงช่างพรั่นพรึงจนใจแทบอ่อนล้า
อยากมีเธอข้างกายคลายเหงากันและกันทุกเวลา
เธอคือคนสำคัญและมีค่ากว่าสิ่งอื่นใด
20 กุมภาพันธ์ 2549 18:21 น.
ดากานดำ
ตี ส อ ง ยั ง ค ง น อ น ม อ ง น า ฬิ ก า
น้ำ ต า ริ น ช้ า ช้ า เ กิ น ก ลั้ น ไ ห ว
เ จ็ บ เ ห ลื อ เ กิ น ที่ ยั ง คิ ด ห ล อ ก ใ จ
ว่ า อี ก ไ ม่ เ ท่ า ไ ร เ ข า จ ะ ก ลั บ ม า
ก อ ด ห ม อ น ข้ า ง ห วั ง ส ร่ า ง สิ้ น ค ว า ม โ ศ ก
ว อ น ส า ย ล ม โ บ ย โ บ ก เ ข า คื น ห า
ไ ม่ น า น ห ร อ ก. . . ป ล อ บ ใ จ ทุ ก เ ว ล า
ทั้ ง ที่ ใ จ รู้ ว่ า. . . ย า ก เ กิ น จ ริ ง
เ สี ย ง เ ห ล่ า น ก กู่ ร้ อ ง ดั ง ก้ อ ง ฟ้ า
ร อ ย น้ำ ต า ยั ง ชื้ น ข ม ขื่ น ยิ่ ง
เ ข า จ า ก ไ ป ไ ม่ ฟั ง คำ พ ร่ำ ป ร ะ วิ ง
นึ ก จ ะ ทิ้ ง ก็ ทิ้ ง ไ ป ไ ม่ แ ม้ ล า. . .
6 กุมภาพันธ์ 2549 08:01 น.
ดากานดำ
อีกหนึ่งคราแห่งการเริ่มต้น
อีกหนึ่งหนบทใหม่แห่งใจฉัน
แล้วจึงเริ่มเติมไฟแก่ใจพลัน
หวังรักนั้นเป็นสุดท้ายของปลายทาง
เดินออกจากเส้นทางอันว้างเวิ้ง
ด้วยเชื้อเพลิงเธอเจือเมื่อเคียงข้าง
จุดไฟรักส่องแสงแจ้งสว่าง
บนหนทางพร่างไสวด้วยใกล้เธอ
ฉันฝ่าฟันบั่นผลาญรานระทม
อันคอยฝังรั้งจมตรมเสมอ
เพื่อก้าวไปใกล้ฝั่งดังหวังเจอ
ไม่เพียงเพ้อเผลอไผลไปในอารมณ์
แม้ความหนาวร้าวลึกใจสึกหรอ
ผ่านกี่ฝนทนไม่ท้อต่อขื่นขม
หากแสงรักจักส่องทางพร่างลงพรม
ยังยืนหยัดไม่ล้มซมทรวงใน
เพื่อวันใหม่ชีวิตใหม่อันใสสด
ได้ชิมรสหวานหยดอันสดใส
แห่งความรักอบอุ่นกรุ่นดวงใจ
พร้อมก้าวไปเคียงคู่อยู่เคียงกัน
ฉันก้าว...เธอก้าว...เราก้าว
เธอร้าว...ฉันเฝ้าปลอบขวัญ
ฉันร้าว...เธอโอบกอดพลัน
รักฉัน...รักมั่น...รักเธอ
31 มกราคม 2549 02:25 น.
ดากานดำ
๑)คืนไร้...
นานมาแล้วหยุดใจไม่ค้นหา
มีบางคราแค่คนร่วมทนเหงา
แต่สุดท้ายเหลือเพียงเงาเคียงเรา
อาจมีบ้างบางคืนเศร้าเคล้าน้ำตา
ใช้ชีวิตปิดหทัยไร้สีสัน
คืนและวันผันไปช่างไร้ค่า
ถึงคราวเวียนเปลี่ยนไปเมื่อเธอมา
กลับแต้มฟ้าพร่างพราวแสงดาวพราย
๒) เหงาไหม...
เธอไถ่ถามความในใจดวงช้ำ
คล้ายเธอโอบหทัยไว้ด้วยถ้อยคำ
กมลช้ำกลับอุ่นละมุนละไม
๓) ไม่รู้...
สิ่งใดหรือเธอคิดอยู่บอกได้ไหม
ยากเหลือเกินจักหยั่งถึงทรวงใน
ความรู้สึกลึกลงไปในใจเธอ
๔) อยากบอก...
ขอเพียงอย่าลวงหลอกหยอกให้เพ้อ
รู้หรือเปล่ายามจิตคิดหลงละเมอ
ยากจะเจอยาถอนรากจากหทัย
หากจะเป็นเพียงเพื่อนผู้หวังดี
แต้มฤดีดวงนี้ให้สดใส
อยากขอบคุณจริงจริงด้วยใจ
แต่อย่าทำให้หวั่นไหวจนไกลเกิน
๕) ด้วย รัก...
อยากบอก รัก ออกไปแต่ใจเขิน
อีกทั้งกลัวเธอมีใคร...หรือมองเมิน
กลัวต้องช้ำอกสะเทิ้นเดินเดียวดาย
28 มกราคม 2549 17:57 น.
ดากานดำ
ยามสายตาคราพบสบประสาน
พลันดวงมานลอยหลุดฉุดไม่ไหว
โลกภายนอกกลอกกลับมืดดับไป
หรือเพราะรักพรางนัยน์มิให้มอง
คล้ายสติริเริ่มเพิ่มปัญหา
ครั้นกายาไร้ผิดชอบตอบสนอง
จิตต้องมนต์เกินทานแม้หาญลอง
สิ้นผยองเพียงลอบเมียงมองเธอ
คล้ายหทัยไร้อำนาจขาดพลัง
พิษเธอรั้งฝังชำแรกแทรกจิตเพ้อ
ยากจักหายาใดให้ค้นเจอ
มาถอนพิษจิตละเมอ...เพียงเผลอใจ
เขาเริ่มอ่อนรอนแรงใช่แสร้งป่วย
อยากจะร้องให้ช่วยกลับไม่ไหว
คล้ายกมลหลงกลลวงบ่วงหทัย
ยากเกินย้อนถอนใจไว้ได้ทัน
สาดกระซิบแว่วเสียงสำเนียงแผ่ว
ดวงมานแคล้วสั่นเทิ้มจิตเคลิ้มฝัน
เธอเปลื้องปลดด้วยเพียงเผยเปรยรำพัน
ก็โยกใจไหวหวั่นครั่นหฤทัย
เพียงเธอนั้นมั่นอยู่ในสายตา
ปรารถนาทุกเวลาอยากชิดใกล้
โปรดเถิดนะที่รักอยากพักใจ
โอ้...คนดีอย่าลี้ไกลเกินนัยนา
ด้วยหทัยไถลเพลินจนเกินกลับ
ดั่งทรายลับเกินหวนทวนคลื่นกล้า
คล้ายถูกอ้อมอกกอดไว้ในกายา
ด้วยอ้อมแขนและแววตาทุกคราไป
เธอเขยื้อนเคลื่อนใกล้ใจแนบชิด
อันดวงจิตคงบิดเขินเกินทนไหว
คงติดปีกหลีกถอยละลอยไกล
คงต้องซ่อนร่อนฤทัยไกลกายา
ฉันกำลังคลั่งรักหนักหรือนี่
ใจยามนี้ถวิลหวนจวนเจียนบ้า
กินไม่ได้นอนไม่หลับทุกเวลา
มีหรือไม่ใครรักษา...หรือยาใด
โอ้ยอดดวงใจ...ได้โปรดช่วยฉันที
ยอดชีวีฉันมิอาจขาดเธอได้
หลงภวังค์พร่ำเพ้อละเมอไป
ลึกสุดใจในฝันเกินกลั้นทน
ฉันขอยอมแพ้เธอแต่โดยดี
ด้วยรักนี้มอบให้ไม่ฉงน
โปรดช่วยให้หทัยนั้นไม่วกวน
หากขาดเธอสักคน...คงขาดใจ