29 มกราคม 2553 07:24 น.
ดอกบัว
รื่นรักแรกรุ่งรุ้ง.....รังรอง
รักเริ่มรับเรืองรอง....รุ่มเร้า
รามโรจน์เรื่อรงรอง....รังเรข
รุจเรื่อยรักรุกเร้า....รุ่งรุ้งเรืองรอง
รักแรกเริ่มเริ่มรักรักเริ่มแรก
รุ่มเร้าแรกร้อนรุ่มเร็งรุ่มเร้า
เรียกร้องรักรวงรุ้งรุ่งโรมเรา
เรืองรองเร่าเร้าร้อนรักร้อนรน
เกิดกอกิ่งเกาะกุมกุมก้อยเกี่ยว
กงการเกี้ยวกอดเกยเกยกล่อมกรณฑ์
เกี่ยวกิ่งก้านเกาะเกี้ยวเกี่ยวกิ่งกล
กริ่มกรกลเกยกอดเกยกอดกร
เกาะกุมกรกิ่งเก้า.....กัปกานท์
กชเกี่ยวก้าวกวินกาล....เกี่ยวก้อย
กัปกัลป์ก่องแก่นการย์....แกมเกริก
กลั่นกรุ่นกานท์ไกวก้อย...แกว่นแกล้วกรีดกราย
29/ม.ค/2553
ดอกบัว
23 มกราคม 2553 12:49 น.
ดอกบัว
ดาวเดือนก็เลือนลับ
กลสลับไปจากแดน
ห่มโศกหทัยแสน
ชีพขาดแคลนในกันดาร
ชีวิตฤาแตกต่าง
ในระหว่างโลกร้าวราน
บ่วงกรรมพิศดาร
เข้าร้างผลาญชีพวายชน
บ่วงกรรมหนุนนำเนา
กิเลสเร้าเข้าชิดตน
มองเหตุหันมองผล
ในเล่ห์กลกลบ่วงมาร
วันคืนไม่หยุดนิ่ง
สรรพสิ่งเกิดไขขาน
ปรับใจในเหตุการณ์
อย่างเชี่ยวชาญด้านปัญญา
ที่สุดของชีวิต
คือดวงจิตพิจารณา
ประกอบธรรมเลอค่า
การศึกษากายภายใน
สงัดซ่อนพลัง
อะระหังอันยิ่งใหญ่
รู้โลกรู้เป็นไป
ปรับเปลี่ยนได้ในเหตุการณ์
รู้ตัวให้ทั่วพร้อม
กายนอบน้อมก้มกราบกราน
สติครองหาวหาญ
แล้วจะผ่านความทุกข์ตรม
สว่างกลางดวงใจ
ข่มมารไว้ยั่งอารมณ์
สั่งสมศีลเพาะบ่ม
คติพรมตั้งสมดุลย์
ธาตุแท้ของชีวิต
ชีวาพิศช่วยเกื้อกูล
มนุษย์โศกอาดูร
เข้าเจือจุนคุณธรรม
ทำผิดอย่าซ้ำซาก
มารจะลากให้ถลำ
หลงผิดหลงกระทำ
ชีพเพี้ยงพล้ำตลอดกาล
ทำมาและธัมมา
ต่างคุณค่าต่างเหตุการณ์
ดุจโพธิ์อภิบาล
บูชาชาญญาณมุณี
23/,.8 / 2553
ดอกบัว
ทุกวิถีมีฝันวันฟ้าหม่น
คนทุกคนสิ้นฝันนั้นอย่าหมาย
ตราบชีวายังดิ้นไม่สิ้นลาย
ฝันเฉิดฉายยังอยู่ทุกผู้ชน
อาจมีบ้างฝันนั้นพลันสะดุด
ความฝันหยุดเดินทางระหว่างฝน
ความเปียกปอนฉ่ำชื้นขื่นกมล
สายฝนปนน้ำตามาล้างใจ
ยามค่ำคืนยืนส่องมองดาวพราย
ดาวประกายได้รื่นคืนสดใส
วันพรุ่งนี้แสงทองส่องอำไพ
ความฝันใหม่บรรเจิดเพริศนภา
นิมิตแรงฤทธิ์เข้ามาเย้าหยอก
ดั่งมาบอกก้องกู่สู้เถิดหนา
มาพรมพร่างตอกย้ำจำนรรจา
ทุกชีวาไม่สิ้นจงดิ้นไป
ยามรุ่งสางน้ำค้างพร่างพรั่งพรู
โปรยชุบชูยอดหญ้าพาปลิวไหว
สรรพสิ่งชุ่มชื่นฟื้นแกว่งไกว
แสงวันใหม่ทอรุ้งรุ่งแสงทอง
19 มกราคม 2553 19:53 น.
ดอกบัว
ชั่วโมงนี้มีสีมีน้ำค้าง
ไม่แตกต่างท้องฟ้าทุ่งหญ้าเขียว
มีขอนใหญ่กรวดก้อนเกลื่อนกลมเกลียว
นกฟ้าเที่ยวทั่วไปในพงพี
มวลมาลีไหวลู่ผู้อ่อนหวาน
ทุกห้วงกาลเติบช่อกอสวนศร๊
เจริญพันธ์มือครูผู้อารี
เริงรวีรินร่ำร่ายรำบาย
ครูผู้เอื้ออารีพลีความรู้
แด่ศิษย์ครูมุ่งหวังฝั่งที่หมาย
สร้างศิษย์รักเจ้าจักพักสบาย
ถึงที่หมายเติบใหญ่จะได้ดี
ครูจะเป็นแสงเทียนให้เขียนอ่าน
เป็นนิทานเล่าเรื่องเมืองแสงสี
เป็นผีเสื้อดอมดมชมมาลี
เป็นแท่งสีรังสรรค์รันวิชา
เจ้าจงเป็นดอกไม้ในอ้อมเมฆ
นางฟ้าเสกทุ่งเขียวเรียวพฤกษา
ผลิบานเป็นดวงดอกหยอกนภา
นางฟ้าอย่าเด็ดไปใส่แจกัน
ยามครูเป็นผีเสื้อเหนือทุ่งหญ้า
ก็อย่ามาเด็ดปีกฉีกเสียขวัญ
ยามครูเป็นน้ำค้างกลางแสงจันทร์
จงดื่มมันเข้าไปให้ใจเย็น
นักวาดต้องลึกซึ้งถึงดวงจิต
ในห้องสิทธิ์ทางศิลป์ถิ่นมองเห็น
เสร็จแล้วอย่ารีบส่งจงใจเย็น
งานวาดเพ้นท์หมุนเวียนเปลี่ยนดอกไม้
แล้วจะเห็นน้ำค้างกลางตาวัน
ท่ามสีสรรพ์หลากศิลป์ระรินใส
ได้น้ำทิพย์จิบร่ำฉ่ำหทัย
วาดครั้งใหม่วิชาดาวดึงส์
19/1/2553
ดอกบัว
6 มกราคม 2553 15:41 น.
ดอกบัว
พู่กันสีแต้มสรรค์ฝันประกาย
บรรจงป้ายเส้นแสงแห่งสายรุ้ง
ความบางเบาเงาแสงแจรงจุง
โค้งขอบรุ้งระบายปลายพู่กัน
บางช่วงท้าทายแสงแปลงทุ่งสวย
ดอกไม้ช่วยเสริมมีหลากสีสัน
มีกรวดก้อนเกลื่อนกลาดลดลาดชัน
แล้วแต่สรรค์เสกสร้างทางศิลป์สี
นักวาดซึ้งซึมซับกับแสงส่อง
รวงรุ้งทองทอทาบฉาบรัศมี
มีก่อหญ้าวับแววแพรวพงพี
บรรจงสีแต้มฝันปันมวลชน
โน้นรวงข้าวนาวโน้มโลมคมเคียว
รอก่องเกี่ยวเก็บรวงพวงพืชผล
ธรรมชาติสร้างสรรค์กำนัลพล
ให้พืชผลภักษามาเจือจาน
มณีแห่งปรารถนาพาวาดฝัน
ช่วยให้ฉันเขียนบทกำหนดสาสน์
ร้อยลำนำจำจรดบ่าบทกานท์
สร้างสืบสารแต้มฉันท์สีสรรไพร
นักแต้มสีแบ่งฝันปันความสุข
ร่วมสนุกชั่วโมงความโปร่งใส
วาดดอกไม้ผลิช่อลออไกว
พู่กันในดวงจิตพิศรุจี
แต้มฝันปลายพู่กันฉันท์ดวงจิต
ด้วยนิมิตเส้นสายลายสวนศรี
หอมเอยหอมสีสันพันธ์วลี
บรรจงสีแววหวานจารจรดใจ
ยามพิศภาพแหล่งหล้า.....ใจฝัน
ภาพแห่งแสงตะวัน.....แจ่มฟ้า
ชวนชมชื่นภาพพลัน......หอมสุข
เพลินแต่งฝันระย้า....เกี่ยวก้านพู่กัน
6/ ม.ค /2553
ดอกบัว