17 สิงหาคม 2551 14:28 น.
ดอกบัว
มองท้องฟ้างามงดสีสดใส
เพราะคุณค่าอยู่ที่ใจได้ค้นหา
แม้นรายรอบทั้งมวลล้วนมายา
ปรารถนาสิ่งใดใจเลือกเอง
ยามเมฆหมองเหมือนใจมิใสสด
ภายหทัยสลดงำคร่ำเคร่ง
ปลุกพลังยืนหยัดอย่าขวัญเคว้ง
เสียงบทเพลงบรรเลงหวังยังมี
ก็เถอะนะวังวนแห่งชีวิต
พรหมลิขิตหมุนเวียนเปลี่ยนวิถี
ดั่งชลนาหลั่งล้นท่วมธานี
อันทุกข์ใดที่มีย่อมลิดลง
หากยามนี้สะอื้นขื่นในอก
สะท้านทกหวั่นไหวนัยโกรธหลง
ความจริงนี้พิสูจน์มิยืนยง
จะปลิดปลงเจือจางร้างจากใจ
สู้สะกดเหือดหายเหมือนทรายกอง
ตามครรลองชีวิตยังไสว
ประเดี๋ยวพ้นคืนวันผ่านค่อนไป
สิ่งเลวร้ายเรืองรองลบเลือนไกล
มองท้องฟ้าสวยสดงดงามยิ่ง
ธรรมชาติจริงประกายวาวสุกใส
คราหลงทางหงอยเหงาเปลี่ยวเปล่าใจ
ฟ้ายื้นให้ไมตรีพลีแอบอิง
องค์สัมมาวายาโมอันโสภาค
คือเพียรมากเพิ่มผลกุศลขันธ์
เร่งละบาปบำเพ็ญบุญให้หนุนกัน
ตัวบาปนั้นคือเสนีสิบสี่นาย
คือโมหะคอยรุมให้ลุ่มหลง
ยุให้งงไม่รู้จริงสิ่งทั้งหลาย
และโทโสกริ้วโกรธพิโรธร้าย
ทั้งตัวนายตระหนี่มัจฉริยัง
มันยุยงให้พระองค์หลงห่วงทรัพย์
มิให้จับจ่ายได้เหมือนใจหวัง
ทั้งสองนายถีนัจและมิทธัง
มักให้นั่งเคลิ้มเขลาง่วงหาวนอน
อหิริกังตัวร้ายไม่อายบาป
ยุให้หยาบวายวุ่นขุ่นกระฉ่อน
ทั้งอโนตตัปปะเล่าคอยเฝ้าวอน
ให้ยอกย้อนทำบาปที่หยาบคาย
อุทธัจจังกุกกุจจังสิ้นทั้งสอง
มันคอยมองอกุศลวนใจหาย
ให้ฟุ้งซ่านรำคาญใจไม่สบาย
อีกตัวนายอิจฉานี้อาธรรม์
เจ้าโลภะคือโลภละโมบมาก
ทะยานอยากได้จริงทุกสิ่งสรรพ์
ทิฏฐิชักให้เห็นผิดคิดดึงดัน
มาโนนั้นมิใช่ชั่วถือตัวตน
เจ้าวิจิกิจฉาพาสงสัย
ให้หลงใหลวุ่นวายฝ่ายอกุศล
บาปธรรมสิบสี่นี่ทรชน
อย่าปะปนคบค้าสมาคม
ส่วนมิตรแท้อย่าหลบควรคบหา
คือเสนาฝ่ายผลกุศลสม
ยี่สิบห้ามีคุณาวโรดม
สิ่งประถมยึดศรัธาให้กล้าใจ
14 สิงหาคม 2551 08:49 น.
ดอกบัว
ถือเมตตาปรานีขันตีมั่น
รบประจัญข้าศึกอกุศล
ไล่ตัณหาอวิชชาทุรชน
อย่าให้วนเวียนอยู่ด้วยภูธร
อนึ่งพระสรณะคมน์บรมรัตน์
รูปจะจัดชี้แจงแสดงสอน
ให้สว่างเป็นทางโลกอุดร
ละนิวรณะธรรมสำรวมกาย
ตามพระพุทธฎีกาโอฬารล้ำ
รักษาธรรมมั่นไว้มิให้สลาย
ถือพระสรณะเลิศอันเพริศพราย
รีบขวนขวายเป็นธุระอย่าระอา
คุณพระรัตน์ไตรเป็นใหญ่ยอด
โปรดตลอดเขตแขวงทั่วแหล่งหล้า
ถึงชีวาตม์จะขาดจากกายา
จงยึดพระสรณะให้มั่นคง
อนึ่งควรครองใจไว้ในวิถี
ตามวิธีอาจารย์ท่านประสงค์
อย่าให้เกิดฟุ้งซ่านการพะวง
มะโนปลงบากบั่นหมั่นพากเพียร
ในทานศีลภาวนาสามประเภท
ซึ่งเป็นเหตุให้จิตสถิตเสถียร
อยู่ในหนทางตรงไม่วงเวียน
พ้นเบียดเบียนภัยทั้งมวลซึ่งควรกลัว
ด้วยใครมีคุณธรรมประจำจิต
ย่อมศักดิ์สิทธิ์เหมือนมงคลอยู่บนหัว
แม้อันตรายความตายมาถึงตัว
ก็ไม่กลัวแพ้แก่มรณา
ด้วยตั้งมั่นถึงชีวิตจะปลดปลิด
ก็ได้ปิดอบายไว้แน่นหนา
ขอพระองค์ทรงเดชเกศประชา
จงรีบมาสิ่งขจัดบำบัดภัย
8 สิงหาคม 2551 06:25 น.
ดอกบัว
ครบรอบ 5 ปี Praxis
จากก้อนดินสู่ดาวที่พราวฟ้า
จากสมองสองตาสู้กล้าแข็ง
อดทนหยัดฟันฝ่ามิล้าแรง
ทุกคนแกร่งทะนงทัดเทียมชน
เริ่มจากศูนย์หมายจูนให้เป็นปึก
ร่วมผนึกผลงานอย่างท่วมท้น
ค่อยค่อยปั้นสานก่อรวมพ้องพล
จนเป็นผลสำเร็จเจตจำนง
ขนาดกลางเพาะบ่มคนชมชอบ
หลายหน่วยงานยื้นมอบความประสงค์
เชื่อในภักดิ์พร้อมศักดิ์หลักมั่นคง
ยื้นจำนงงานสร้างสรรค์รำไพ
แปดสิงหาเวียนครบบรรจบรอบ
กิจการงามงอกพราวไสว
ผลบรรลุเปาหมายอันยาวไกล
ผ่องอำไพทุกที่ทั่วถิ่นทอง
รวมพวกพ้องร่วมงานสมัครสมาน
สืบผสานแนวทางสร้างสนอง
รักกลมเกี่ยวเกี้ยวก้อยดั่งรวงทอง
ท่ามครรลองชีวิตลิขิตพลี
ถึงวันนี้ดีเลิศประเสริฐล้ำ
แพรกซิลจงก้าวนำสมศักดิ์ศรี
เจริญรุ่งเกรียงไกรในปฐพี
ก้องกังวาลสุขขีตลอดกาล
4 สิงหาคม 2551 14:24 น.
ดอกบัว
ใครหนอ รักเรา เท่าชีวี ใครหนอ ปรานี ไม่มีเสื่อมคลาย
ใครหนอ รักเรา ใช่เพียงรูปกาย
รักเขา ไม่หน่าย มิคิดทำลาย ใครหนอ
ใครหนอ เห็นเรา เศร้าทรวงใน ...
เพลงได้ฟังกี่ครั้งน้ำตาหยาดหยดทุกครั้งที่ได้ยิน
แม่คอยเฝ้าถนอมกล่อมจอมขวัญ
แม่บากบั่นเลี้ยงดูสู้ทนหา
แม่อดมื้ออิ่มมื้อเพื่อลูกยา
ป้อนแก้วตาอิ่มเต็มมิเว้นวาย
เฝ้าถนอมกล่อมเจ้าเข้าศึกษา
ปลูกปัญญาปรนเปรอถึงที่หมาย
ชี้เฉพาะเพาะบ่มมิเสื่อมคลาย
สิ่งที่หมายแม่กอบมอบลูกดี
พระคุณล้นเหนือเกล้ามิกล่าวได้
แม่จากไกลลูกเล็กเด็กเหลือที่
มิได้แทนพระคุณแม่สักที
กรรมลูกนี้หนักหนาแม่ลาไกล
น้ำนมแม่ทุกหยดที่หลั่งริน
ลูกได้ลิ้มอิ่มเอมเกษมใส่
ร่างกายาเติบโตกล้าไฉไล
เพราะเลือดแม่กลั่นหยดให้ดื่มกิน
มองท้องฟ้าอาดูรสูญสลาย
อยากให้แม่อยู่ใกล้ได้รู้สิ้น
ลูกรักแม่ที่สุดเหนือฟ้าดิน
ภพไม่สิ้นกำเนิดขอเกิดมา
เป็นลูกแม่อีกครั้งดั่งใจหมาย
จะแทนคุณแม่ได้สบายหนักหนา
ให้อยู่ดีมีสุขทุกเวลา
แทนน้ำนมแม่จ๋าลูกเติบโต
*........แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง
ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล
แม่..เราเฝ้าโอ้ละเห่
กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห ไปจนไกล
..แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม
แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ
เติบ โตโอ้เล็กจนใหญ่
นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม
..ควร คิดพินิจให้ดี
ค่าน้ำนมแม่นี้
จะมีอะไรเหมาะสม
โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม
เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน
..ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง
แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน
บวช เรียนพากเพียรจนสิ้น
หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย ..
พระคุณแม่ยิ่งใหญ่เหนือใดหล้า
อุ้มอุทรลูกน้อยในกายา
จะเหนื่อยล้าแค่ไหนไม่เคยหวั่น
ถนอมอนันต์หลอมเจ้าเฝ้าชิดใกล้
สละสวยสละสาวคราวอุ้มท้อง
แม่ไม่ร้องไม่บ่นแม่ทนได้
ถนอมจนครรภ์แก่แม่เต็มใจ
จะหาใครเหมือนแม่แพ้ทุกคน
ครบสิบเดือนเคลื่อนคลอดรอดชีวิต
แม่ใกล้ชิดลูกน้อยคอยฝึกฝน
ถึงลำบากอย่างไรใจแม่ทน
สายเลือดข้นแม่กลั่นปันลูกกิน
แม่ป้องริ้นป้องไรมิให้ผ่าน
แม่สงสารห่วงลูกกว่าทรัพย์สิน
แม่ถนอมกล่อมลูกเป็นอาจิณ
แม่ได้ยินเสียงลูกแม่ลุกมา
ยามลูกขื่นแม่ขมระทมให้
ยามลูกไข้แม่ร้อนนอนผวา
ยามลูกทุกข์แม่รอนร้อนอุรา
ยามลูกยาสิ้นสร่างแม่สุขใจ
คราวลูกหิวแม่ผวาน้ำตาร่วง
แม่เป็นห่วงดิ้นรนเอามาให้
แม้แม่อดหมดข้าวมิเป็นไร
สละได้ลูกอิ่มแม่ทนเอา
ใครไหนเฝ้าอบรมบ่มนิสัย
แม้เติมใหญ่ไม่ถอยคอยนั่งเฝ้า
พระคุณเลิศประเสริฐให้เกิดเรา
ใครไหนเล่ามีคุณแท้เท่าแม่เอยฯ
แม่จากลูกลาลับไม่กลับแล้ว
ดุจดวงแก้วจางหายไปจากขวัญ
เหมือนสิ้นแววพราวพร่างกลางนวลจันทร์
เหมือนสวรรค์สั่งพรากจำจากจร
ลูกอธิษฐานดวงจิตชิดถึงแม่
ชาติหน้าแท้มีจริงขอกราบวอน
ให้ลูกเกิดอกอุ่นอ้อมอุทร
ขอได้ตักแม่อ้อนนอนนิทรา
เอาดวงใจใสสว่างต่างกระเช้า
ความรักเข้าสรุปต่างบุปผา
กตัญญูคู่ธูปสุคนธา
ดวงปัญญาต่างเทียนเพียรประพันธ์
อุทิศให้วิญญาณของแม่ไป
สุราลัยทิพยสถานพิมานสวรรค์
จงประสบพบสุขอย่าวานวัน
ตั้งจิตมั่นอธิษฐานให้ถึงซึ่งแม่เทอญฯ
2 สิงหาคม 2551 12:54 น.
ดอกบัว
(บางเวลา)
รอยเศร้าเมื่อคราวก่อน
ราวรอนอกหวั่นไหว
เรื่องราวเร้าภายใน
บ้างหวั่นไหวตามอารมณ์
(ก็ใจ)
หัวใจจักแหนหวง
ห่วงหาเฝ้าเพาะบ่ม
ใจรักยังสุขสม
ชื่นชมซึ้งชีวี
(ความคิด)
ห้ามได้หรือความคิด
ผูกสนิทชิดชวนชี้
ซับทรวงห้วงฤดี
ความคิดนี้มิเสื่อมคลาย
อารมณ์ของความรัก
ฝั่งจมปักไม่สลาย
ลึกซึ้งตรึงมิกลาย
ไม่แหน่งหน่ายไปจากเธอ