30 กรกฎาคม 2549 20:22 น.
ดอกดาว
คืนฟ้าหม่นหมอง
น้ำตานอง ... ผวา
ราตรีที่ผ่านมา
ฝันเลือนพร่า ...
ไม่มีชื่นใจ
ตื่น ...
แดดแยงแสง ... แรงร้อน
ยังขาดความอบอุ่นอ่อนอ่อน ... อ่อนไหว
ไม่เคยได้พบสิ่งละมุนละไม
เพราะไม่เคยมีใครข้างเคียง
ยามสาย
ดอกไม้เบิกบานเริงราย ...
ยังเหมือนไร้สรรพเสียง
รวดร้าวสายแดดแผดเผาแสงเรียง
คล้ายเพียงผลาญใจแห้ง ...
โรยรา
เที่ยง ...
เปรี้ยงแดดร้อนอ่อนล้า
ยังเจ็บแสบแทบหลั่งน้ำตา
อ้างว้าง ...
ทางข้างหน้าเหมือนไม่มีใคร
เย็นย่ำ ...
คืนค่ำเยือนแล้ว ...
ยังหวั่นไหว
ผวาอีกคราวนะ ... หัวใจ
อยากมีเธออยู่ด้วยได้ไหม ...
ให้ชื่นใจในวันแล้งโรย
ก่อนหลับตาฝัน ...
หน้าเธอพลันลอยมา ...
ชะล้างแห้งโหย
ฝันดี ...
เพียงน้ำมนต์หล่นโปรย
อยากให้ฝันชื่นโชย ...
มีเธออยู่ในหัวใจ
เป็นนิรันดร์.
1 กรกฎาคม 2549 21:47 น.
ดอกดาว
คืนที่ฟ้าไร้ดาว
หนาว ... น้ำฝนหล่นปนเปื้อน
น้ำตา ... พร่าเบลอเลอะเลือน
มองเหมือนฝุ่นฝ้าม่านบัง
ฟ้าร้อง ก้องกู่ ดังสนั่น
หัวใจไหวหวั่นตามฟ้าสั่ง
ข้างกายเดียวดาย ... ห้วงภวังค์
ยังหวัง ... เธอจะมาเคียงกัน
หากมีเธอตรงนี้สักคน
ใจที่สับสนคงคลายร้าวที่หนาวสั่น
ใกล้ใกล้ ... กระแสใจสื่อถึงความผูกพัน
เหมือนอ้อมกอดความฝัน ...
เหงานั้นคงมลาย
แต่ไม่มีเธออยู่ตรงนี้ ...
ใจยังเจ็บเกินกว่าที่แผลคิดถึงจะจางหาย
ซ้ำซ้ำ สำนึก ตรึกย้ำ ความเดียวดาย
จมอยู่กับความหมาย ...
อะไรๆ เพียงลำพัง
คืนที่ฟ้าไร้ดาว
หนาว ... คิดถึง และปรารถนาหวัง
ม่านฝน ปนเปื้อนเหมือนบดบัง
ฟ้าสั่ง ... ไร้คนคอยเคียงข้าง - ช่างเดียวดาย
รอเพียงวันมีเธอเคียงกัน
สร้างฝันสรรค์สิ่งใหม่ด้วยความหมาย
ล้างช้ำบาดแผลให้เจ็บคลาย
แม้ฝนจะหล่นสักกี่สาย ...
แม้ดาวจะไม่มี.