16 กรกฎาคม 2554 21:14 น.
ดวงจันทร์
โอ้อาลัยให้หวงดวงสมร
นิราศร้างห่างไกลไปจากจร
ทิ้งภมรร่อนร้างกลางนภา
เจ้าจากรามคำแหงเหมือนแกล้งพี่
หรือไม่มีใจจิตขนิษฐา
สู้อุตส่าห์สร้างสัมพันธ์เกลียวกันมา
ทิ้งอุราพี่ตรอมริมคลองตรม
ไม่มีแล้วดาวเดือนเคยเกลื่อนฟ้า
ไม่มีแว่ววาจาสง่าสม
ไม่มีแล้วแววตาน่าภิรมย์
มีแต่ขมขื่นกลับจับหัวใจ
ไม่มีเสียงขานต่อล้อระริก
ไม่มีมือหยิกจับเคยรับได้
ไม่มีสัมผัสอุ่นละมุนละไม
ไม่มีเยื่อเหลือใยหรือไงนาง
จึงตั้งต้นด้นนิราศเพื่อวาดฝัน
สิ่งสำคัญคือน้องอย่าหมองหมาง
นิราศสู่หัวใจแม้ไกลทาง
จะค่อยย่างจนถึงกลางหว่างใจเธอ
3 กรกฎาคม 2554 15:45 น.
ดวงจันทร์
ครืน ครืน.............ครืน
ฟังเสียงเรือดังครืนลื่นไถล
บนลำคลองแห่งช้ำระกำใจ
แสนแสบใยสมชื่อเขาลือกัน
แสนแสบช้ำเพราะรักทำขวัญช้ำจิต
เรียมก็โดนพิษรักเข้าห้ำหั่น
เมื่อสองรักต่อปลูกผูกสัมพันธ์
ต่างมาถูกปิดกั้นสั่นสะท้าน
ฉันก็แสบแสนแสบช้ำลำนำรัก
เฝ้าทอถักอักษราภาษาหวาน
เพื่อต่อปลูกรักปลอบตอบสำราญ
แต่ขอทีผิดกาลไม่ผ่านใจ
ยุคสมัยไฮโซเทคโนโลยี
หรือจะรีรอลำนำถ้อยคำได้
ใช้วาจาสั้นกระชับจับหัวใจ
ก็เข้าถึงความในต้องใจกัน
แต่เราเป็นนักกลอนออดชะอ้อน
จะให้ทิ้งคำกลอนครูสอนสรร
คงยากเพราะเหมือนกระชากพรากชีวัน
ขอนับวันพบคนรักเป็นนักกลอน
หากไม่พบมิขอพานร้าวรานสู้
ยืนหยัดอยู่สร้างงานครูสานสอน
แม้พ่ายรักแพ้ใจไร้อมร
ขอต่อกลอนสอนชีวิตจนนิทรา
3 กรกฎาคม 2554 12:14 น.
ดวงจันทร์
สักหนึ่งบทก่อนนอนย้อนรำลึก
กว่ารู้สึกก็สายมลายฝัน
สายน้ำไม่ไหลกลับนับนิรันดร์
เวลานั้นผันไปไม่ไหลคืน
คิดสิ่งใดให้ทำก่อนอย่านอนนิ่ง
เวลาวิ่งลับลาใดหาฝืน
กระแสธารกระแสใจใช่ไกปืน
ไม่ไหลคืนมาใหม่เหมือนใจเธอ
อีกหนึ่งบทก่อนนอนสอนสำนึก
ที่ร้าวลึกรักช้ำนำเสนอ
เกินประมาณเกิดดับที่นับเจอ
ก็ยังเผลอเศร้าสลดกำสรดใจ
ว่าชินแล้วแก้วเอ๋ยเคยหวังผิด
ทุกครั้งจิตก็ร้าวรานพานหวั่นไหว
เกินจะตั้งสติตอบปลอบฤทัย
อีกครั้งใจไหวหวาดแทบขาดรอน