19 สิงหาคม 2548 14:10 น.
ณพ วิฤทธิ์ชัย
หนีทำใจ
ลมพัดทิวยอดสนบนหาดขาว
ฟ้าสีเทายิ้มรับกับน้ำใส
คลื่นกระทบซบฝั่งกังวาลไกล
แอบคิดไปในจิตอิจฉาปลา
เก็บเปลือกหอยเล่นบ้างในบางครั้ง
เหนื่อยอิงนั่งพักใจใต้พฤกษา
วิหกผินบินวนบนนภา
เที่ยวร้องหายอดชู้ดูเหมือนเรา
เป็นวิหกนกนี้ดีหลายอย่าง
ถึงอ้างว้างไม่นานคงผ่านเหงา
แล้วไฉนใจนุชสุดคาดเดา
ลืมรักเก่าชิงชังชั่งร้ายจริง
กลับที่พักฟ้าหม่นฝนร่วงสาด
ธรรมชาติเปลี่ยนไปเหมือนใจหญิง
หวนคำนึงถึงรักเคยพักพิง
ถูกทอดทิ้งหนีหน้ามาทำใจ
19 สิงหาคม 2548 11:01 น.
ณพ วิฤทธิ์ชัย
เพียงแค่หนึ่ง
เพียงแค่หนึ่งใบไม้ร่วงในป่า
อาจส่งค่าให้โลกต้องโศกศัลย์
เพียงแค่หนึ่งปัญหาสารพัน
อาจทำวันก้าวย่างอย่างลำเค็ญ
เพียงแค่หนึ่งน้ำหมึกจารึกเขียน
อาจแปรเปลี่ยนโลกใหม่ให้ได้เห็น
เพียงแค่หนึ่งหยดน้ำที่ฉ่ำเย็น
อาจเปลี่ยนเป็นวารีที่กว้างไกล
เพียงแค่หนึ่งปลายมีดที่กรีดเนื้อ
อาจเป็นเชื้อสงครามลุกลามใหญ่
เพียงแค่หนึ่งคำหวานที่ผ่านใจ
อาจทำให้คนโหยหายโรยรา
เพียงแค่หนึ่งก้าวย่างตามทางฝัน
อาจถึงวันสมใจที่ใฝ่หา
เพียงแค่หนึ่งปราชญ์เอ่ยเผยวาจา
อาจมีค่ากว่าคำใดเคยได้ยินฯ
19 สิงหาคม 2548 10:59 น.
ณพ วิฤทธิ์ชัย
ขอพบเธออีกครั้ง...ได้ไหม ?
นั่งขีดเขียนเรื่อยไปไร้คนอ่าน
กับสำนวนด้านด้านผ่านปลายหมึก
ฉันไม่ใช่กวีที่ล้ำลึก
ความรู้สึกคิดถึงจึงเขียนไป
รักแล้วห่างร้างลาพาใจเหงา
เจ็บปวดร้าวเพ้อบ่นทนไม่ไหว
อยากให้รู้สักนิดสิทธิ์ของใจ
ฉันทำได้เพียงรำพึงคิดถึงเธอ
คืนเดือนดับสับสนคล้ายคนบ้า
ยอมรับว่ารักมากปากพร่ำเพ้อ
สิ่งที่หวังของใจขอได้เจอ
เพียงพบเธออีกครั้งดังรอคอย
จะบอกรักแม้ใจเธอไม่ชอบ
จะเฝ้ามอบรักให้ไม่ท้อถอย
รู้ความหวังดังเดือนที่เลื่อนลอย
ยากจะสอยโน่มลู่ลงสู่ดินฯ
19 สิงหาคม 2548 10:57 น.
ณพ วิฤทธิ์ชัย
ห่างไกล
เพียงแรกพบสบพักตร์หลงรักแล้ว
ยิ้มพรายแพรวสดใสใบหน้าหวาน
แม้นองค์เทพธิดาฟ้าวิมาน
ก็มิปานหนึ่งน้องที่มองมา
ฤาจำแลงแกล้งชายภายในโลก
ให้วิโยคโศกตรมเพียงชมหน้า
หากรู้ซึ้งถึงทรงองค์รามา
คงทอดทิ้งสีดามาหานาง
เทพารักษ์ผ่ายผอมพบจอมขวัญ
สุริยันแย้มงามยามฟ้าสาง
ยอมพ่ายแพ้แก่น้องด้วยสองปราง
แสงเลือนลางหลบเจ้าเข้าเมฆา
นางอัปสรพริ้มเพราแกล้งเย้าหยอก
ไม่มีหรอกหลงรักกับยักษา
ยามคืนค่ำช้ำหมองนองน้ำตา
อสุราอย่างฉันนั้นห่างไกลฯ
17 สิงหาคม 2548 16:56 น.
ณพ วิฤทธิ์ชัย
เก็บตำรา
ข่าวจากนาว่าพ่อทอสังขาร
สู้ทำงานตรากตรำกลำแดดฝน
ลำบากกายผ่ายผอมเหนื่อยยอมทน
หวังให้คนอยู่ไกลได้เล่าเรียน
เหมือนถ้อยคำซ้ำเติมเริ่มหวั่นไหว
ตัดสินใจหยุดธารการอ่านเขียน
ไม่หลบลี้หนีห่างรอยทางเกวียน
เมื่อเปลวเทียนแห่งใจใกล้มอดลง
ลมหนาวเหน็บเก็บตำราน้ำตาตก
ภาพลูกนกจากไพรไกลจนหลง
ขอกลับคืนฟื้นใจให้มั่นคง
สู่บ้านดงซึมซับรับราตรี
กลับถิ่นฐานบ้านดอนผ่อนแรงพ่อ
คอยสานต่อแนวทางเคยห่างหนี
ช่วยหว่านดำทำนาพลิกธานี
แม้ไม่มีปริญญามาบ้านเรา