17 มิถุนายน 2553 17:11 น.
ฐปนวุธ
หอมไอดินกลิ่นหญ้าประสาเถื่อน
ชะแลเดือนเดียวดายค่อยคลายเหงา
น้ำค้างพร่างหยดพรมใต้ร่มเงา
พระพายเคล้าระรินกลิ่นสุคนธ์
ข้ามทุ่งนาแดนนี้มีไม้ดอก
ที่ผลิออกช่อชูอยู่ทุกหน
ณ ทุ่งกว้างห่างไกลไร้เล่ห์กล
มีแต่มนต์บุปผชาติพิลาสไพร
ฉันเดินเล่นไปตามความรู้สึก
ยิ่งลำลึกยิ่งพร่าเลือน...ยิ่งเคลื่อนไหว
สัมผัสรักส่งทั่วห้องหัวใจ
ด้วยสายใยโยงขวัญพันธนา
ละเลียดไล้ปลายนิ้วที่ผิวน้ำ
คลื่นระบำแผ่วนพ้นฝั่งผา
ยินเสียงใบไม้ผลิยามทิวา
ยินเสียงสกุณาระเริงไพร...
ฉันไม่ได้กำเนิดเกิดที่นี่
เพียงแต่ไม่หลีกลี้ไปที่ไหน
หยุดเถิดความหมองเศร้างหลงเงาใคร
ทิ้งหัวใจหลบลี้อยู่นี่เอย...
16 มิถุนายน 2553 17:49 น.
ฐปนวุธ
หมอกน้ำฝนวนคว้างสู่กลางภพ
เงียบสงบกลางคืนอันชื่นฉ่ำ
พยุแห่งมวลไม้ร่ายระบำ
อยู่ค่อนค่ำคืนค้างจึงร้างรา...
ริ้วสีทองบริสุทธิ์มาผุดสาย
งามประกายสีอ่อนสะท้อนผา
เหมือนหยาดแย้มยั่วยุพสุธา
ปลุกนิทราชั่วคืนจงตื่นนอน
11 มิถุนายน 2553 17:23 น.
ฐปนวุธ
หรือเพียงแค่หมอกควันสันติภาพ
ให้อิ่มอาบใจอยู่เพียงครู่หนึ่ง
หรือเป็นเสี้ยวสุขฉายประกายซึ้ง
หวานคะนึงไหววับแล้วลับลา
กี่สายสร้อยรอยช้ำน้ำเนตรหลั่ง
เมื่อความหวังหัวใจมาไร้ค่า
กี่คำพูดที่อยากบอกมันออกมา
แต่ความกล้าอยู่ไหนฉันไม่มี
ต่อให้เท้าวิ่งรุดไปสุดหล้า
ตามค้นหาหัวใจใครเที่ยวหนี
เป็นคำถามแรกเริ่มจากเดิมที
ว่าจะอยู่เพื่อสิ่งนี้ไปนิรันดร์
เห็นเธออยู่แค่เอื้อม...ไม่เอื้อมอาจ
เพราะเธอวาดหวังใคร...ไม่ใช่ฉัน
เถอะ!! จะบอกอย่างไม่กลัว ช่างหัวมัน
เพราะรักอัน น้อยนิด...ไม่ผิดเลย......