29 กรกฎาคม 2552 13:05 น.
ฐปนวุธ
๑ กลีบกุหลาบพริ้วโรยโปรยเกลื่อนฟ้า
งามวิวาห์ด้วยรักสักครั้งหนึ่ง
สองบ่าวสาวพราวพริ้มยิ้มสุดซึ้ง
โลกเดิมซึ่งเปลี่ยนใหม่อุ่นใจนัก
๒ ดอกกุหลาบสีชมพูชูกลีบช่อ
วางไว้รออุ่นแอบตรงแนบตัก
กับสองตาที่สื่อทั่วหัวใจรัก
โลกนี้จักสดใสเท่าใดกัน
๓ สายลมโรยแดดอ่อนตอนเช้าตรู่
ใบไม้ลู่ลมบางอย่างสุขสันต์
นกน้อยร่อนปีกแคบอิงแอบกัน
งามดุจฝันสร้างเสกปัจเจกกาล
๔ มีสองคนหนึ่งหัวใจในวันนี้
เปลี่ยนบ้านที่ไม่เคยเห็นให้เป็นบ้าน...
วัยความรักสดใสดอกไม้บาน
ย่อมจดจารผ่านล่วงสู่ดวงใจ
๕ แค่หัวใจสีชมพูสักคู่หนึ่ง
เปลี่ยนโลกซึ่งมืดร้างสว่างใส
เพียงสองมือฉุดรั้งดึงกันไป
หนึ่งหัวใจและสองเท้าจะก้าวตาม
๖ กลีบกุหลายร่วงโรยโปรยปลิดขั้ว
โลกมืดมัวพลบค่ำเธอย้ำถาม
ว่าความรักฉันจะมีอีกกี่ยาม
ก็ตอบตามหัวใจ...ไม่มีลืม...
14 กรกฎาคม 2552 15:37 น.
ฐปนวุธ
๑ บุปผชาติผลิช่อล้อลมแผ่ว
ทั้งทิวแถวผุดผ่องก็ต้องไหว
คลื่นเกสรลอยคว้างกลางพงไพร
หอมดอกไม้ หมอกหนามากับลม...
๒ เป็นแรงใจเป็นกลิ่นหอมพร้อมความรัก
เป็นแรงผลักเป็นพลังที่สั่งสม
เป็นสายธารเย็นฉ่ำเป็นน้ำพรม
เป็นคำคมสื่อทั่วทุกหัวใจ...
๓ แม้เธออยู่แสนไกลในวันนี้
รู้ไว้เถิดว่ายังมีโลกสีใส
ณ ลานกว้างชายคาคำว่าไท
พร้อมจะให้ความสุขเธอทุกวัน
๔ ขอเพียงเธอหยิบยื่นผู้อื่นต่อ
ย่อมถักทอยิ่งใหญ่เต็มใจฝัน
มิตรภาพที่แท้มีแด่กัน
สร้างโลกอันหมดจดแลงดงาม
๕ ความลี้ลับแห่งราตรีที่แสงเผย
เปลี่ยนความเคยอุปโลกโลกต้องห้าม
กลางทุ่งดอกไม้บานวิกาลยาม
แท้ซ่อนความละมุนสุนทรีย์
๖. เพียงเทียนน้อยกระจ้อยร่อยกระจิริด
ต่อไปติดเทียนนับหมื่นคลื่นแสงสี
เปิดปมปริศนาแห่งราตรี
เถอะต้องมีวันหนึ่ง...ต้องถึงวัน...