23 มกราคม 2549 22:21 น.
ซาแกร๋ม
กว่าจะรุ้ว่ารัก..ก็สายไป
ฉันมีแฟนอยู่หนึ่งคน เราเติบโตมาด้วยกัน ชื่อว่า จิน
ฉันคิดกับเขาแค่เพื่อนมาโดยตลอด
จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วตอนที่เราไป Club trip ด้วยกัน
ฉันพบว่า ฉันตกหลุมรักเขา เสียแล้ว
ก่อนที่เราจะกลับจากที่ไปเที่ยว ฉันได้สารภาพรักกับเขา
ในไม่ช้า เราก็กลายมาเป็นคู่รักกัน แต่เราสองคนรักกันในทางที่ต่างกัน
ฉันสนใจแต่เขาเพียงคนเดียวเสมอ แต่ว่า ข้างกายเขากลับมีผู้หญิงหลายคนเข้ามา
สำหรับฉันแล้ว เขาเป็นผู้ชายคนเดียว
แต่สำหรับเขาฉันอาจจะเป็นเพียง ผู้หญิงคนนึงเท่านั้น.....
"จิน อยากไปดูหนังไหม" ฉันถามเขา
"เราไปไม่ได้"
"ทำไมเหรอ หรือว่าต้องอ่านหนังสือที่บ้าน?"
ฉันรู้สึกถึงความผิดหวังที่เข้ามาในใจฉัน
"เปล่าหรอก เรานัดกับเพื่อนไว้..."
เขาจะเป็นแบบนี้เสมอ
เขาพบเพื่อนผู้หญิงต่อหน้าฉัน เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สำหรับเขาแล้วฉันคือเพื่อนหญิงคนนึงเท่านั้น
คำว่ารัก ออกมาแค่จากปากของฉันเท่านั้น
ตั้งแต่ฉันรู้จักเขา ฉันไม่เคยได้ยินเขาพูดคำว่ารักมาก่อน
ไม่เคยมีฉลองวันครบรอบสำหรับพวกเรา
เขาไม่เคยพูดอะไรตั้งแต่วันแรก และมันก็เป็นแบบนั้นต่อไป
100 วัน ก็แล้ว.....200วันก็แล้ว
ทุกวันก่อนที่เขาจะพูดคำลา เขาจะแค่จะให้ตุ๊กตาตัวนึงกับฉันทุกวันไม่เคยขาด
ฉันไม่รู้ว่าทำไม...
จนกระทั่งวันหนึ่ง
ฉัน: เออ จิน เรา....
จิน: อะไรเหรอ...อย่าอ้ำอึ้งน่า แค่พูดมา..
ฉัน: เรารักนายนะ
จิน:....เออ เอาตุ๊กตาตัวนี้ไปแล้วก็กลับบ้านซะนะ
เขาไม่ใสใจคำ 3 คำของฉัน แล้วก็ส่งตุ๊กตาให้ฉัน
จากนั้นเขาก็หายไป เหมือนกับว่าเขากำลังวิ่งหนีฉัน
ห้องฉันเต็มไปด้วยตุ๊กตาที่เขาให้ฉันทุกวัน
ทีละตัวทีละตัว จนเต็มไปหมด
จนวันหนึ่งมาถึงวันเกิดของฉันตอนฉันอายุ 15
ตอนที่ฉันตื่นขึ้นมาตอนเช้า ฉันวาดฝันว่าจ่ะมีปาร์ตี้กับเขา
แล้วฉันก็ขังตัวเองไว้ในห้องนอน รอโทรศัพท์จากเขา
แต่ว่า......ข้าวเที่ยงก็แล้ว...ข้าวเย็นก็แล้ว.....ในไม่ช้าท้องฟ้าก็กลายเป็นสีดำ...เขาก็ยังไม่ได้โทรมา
ฉันก็ไม่อยากที่จะเฝ้าดูโทรศัพท์อีกต่อไป
จากนั้นประมาณตีสอง เขาก็โทรมาหาฉัน ปลุกฉัน...
เขาบอกให้ฉันออกไปหาเขาที่หน้าบ้าน
ฉันยังรู้สึกดี แล้ววึ่งออกไปหน้าบ้านอย่างมีความสุข
ฉัน: จิน....
จิน:นี่.....เอานี่ไป
อีกแล้ว เขาให้ตุ๊กตากับฉันอีกแล้ว
ฉัน: นี่อะไร
จิน: ไม่ได้ให้เมื่อวานนี้ ก็เลยต้องให้ตอนนี้ กลับบ้านก่อนนะ บาย
ฉัน: เดี๋ยว!เดี๋ยว! รู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร?
จิน: วันนี้เหรอ? อู?
ฉันรู้สึกเศร้า ฉันหลงคิดว่าเขาจำวันเกิดของฉันได้
เขาหันกลับไปแล้วก็เดินจากไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จากนั้นฉันตะโกน เดี๋ยว!
จิน: มีไรจะพูดเหรอ?
ฉัน: บอกเรามา บอกเรามาว่านายรักเรา....
จิน: อะไรนะ!
ฉัน: บอกเรามาสิ
ฉันทิ้งความอ่อนแอของฉันไว้ข้างหลัง และจับตามองเขา
แต่ว่าเขาแค่พูดง่าย ๆ อย่างเยือกเย็น แล้วก็ไป...
"เราไม่อยากพูด....ว่าเรารักใครง่าย ๆ ถ้าอยากได้ยินมากนักละก็
หาคนอื่นแทนเราซะ"
นั่นคือสิ่งที่เขาพูด แล้วเขาก็จากไป
ขาของฉันรู้สึกชา...แล้วฉันก็ทรุดลงไปบนพื้น
เขาไม่อยากพูดมันง่าย ๆ
เขาทำอย่างนั้นได้ไง?
ฉันรู้สึกว่า...
บางทีเขาอาจจะไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับฉันก็ได้...
จากวันนั้น ฉันขังตัวเองในบ้าน และร้องไห้ เอาแต่ร้องไห้
เขาไม่ได้โทรหาฉันถึงยังไง ฉันก็ยังรออยู่
เขายังวางตุ๊กตาไว้หน้าบ้านฉันทุก ๆ วัน
เดือนหนึ่งหลังจากนั้น ฉันรวบรวมตัวเอง แล้วก็ไปโรงเรียน
แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ความเจ็บปวดของฉันกลับมาอีกครั้งก็คือฉันเจอเขาบนถนนกับผู้หญิงคนอื่น...
เขามีรอยยิ้มบนใบหน้า
รอยยิ้มแบบที่ฉันไม่เคยเห็นตอนที่เขาถือตุ๊กตาที่เหล่านั้น
ฉันวิ่งตรงกลับบ้านและมองตุ๊กตาในห้อง แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา
เขาให้ตุ๊กตาฉันทำไม?
เขาอาจจะเอาตุ๊กตาพวกนี้มาจากผู้หญิงบางคน
ด้วยความโมโหของฉัน ฉันขว้างตุ๊กตาพวกนั้นไปรอบห้อง
ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดัง เขาโทรมา
เขาให้ฉันออกมาที่ป้ายรถบัสหน้าบ้าน
ฉันพยายามจะทำใจให้เย็นลง แล้วเดินออกไปที่ป้ายรถ
ฉันบอกกับตัวเองว่า ฉันกำลังจะลืมเขา เรื่องของเราจะจบลง
จากนั้นเขาเดินมาหาฉัน ในมือถือตุ๊กตาตัวใหญ่เอาไว้
จิน: ฉันคิดว่าเธอจะโกรธมาก แต่ว่าเธอออกมาจริง ๆ เหรอ?
ฉันยังรู้สึกเกลียดเขาอยู่
แต่ได้แต่ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วพูดจาหยอกเย้าเขา
ในไม่ช้าเขาก็ให้ตุ๊กตากับฉันเหมือนอย่างเคย
ฉัน: ฉันไม่ต้องการมัน
จิน: อะไรกัน?..ทำไมล่ะ?
ฉันดึงตุ๊กตาจากเขาแล้วก็โยนมันทิ้งไปบนถนน
ฉัน: ฉันไม่ต้องการมัน ไม่ต้องการอีกต่อไปแล้ว!!
ฉันไม่อยากเจอคนอย่างนายอีกต่อไป! ฉันพูดทุกคำพูดในใจฉัน แต่ไม่เหมือนวันอื่นๆ
ดวงตาของเขาดูตกตะลึง
"เราขอโทษ" เขาพูดคำขอโทษเบาๆ
แล้วเขาก็เดินออกไปที่ถนนเพื่อจะเก็บตุ๊กตานั้น
ฉัน: โง่จริง! เก็บมันขึ้นมาทำไม ทิ้งมันไปนะ!!!
แต่ว่าเขาไม่ได้สนใจ ยังคงเดินต่อไปเพื่อจะเก็บมัน
ทันใด.....
บรืน~บรืน~ ด้วยเสียงอันดัง รถบรรทุกคันใหญ่ก็วิ่งมา
"จิน! หลบ! หลบไป!" ฉันตะโกน...
แต่ว่าเขาไม่ได้ยินเสียงฉัน เขาก้มลงไปเก็บตุ๊กตา
"จิน!หลบไป"
บรืน~!!
โครม!!!!!!เสียงนั้นช่างน่ากลัวมาก
นั่นคือวิธีที่เขาจากไปจากฉัน
จากไปโดยไม่สามารถลืมตาขึ้นมากล่าวคำใดกับฉันอีก
จากวันนั้น ฉันจะต้องผ่านความรู้สึกผิดและความเศร้าเพราะว่าสูญเสียเขา...
และหลังจากที่ฉันใช้เวลา 2 เดือนเหมือนคนบ้า ฉันหยิบตุ๊กตาขั้นมา
มันคือของขวัญอย่างเดียวที่เขาให้ตั้งแต่เราคบกัน
ฉันจำวันเหล่านั้นที่ฉันใช้เวลาอยู่กับเขาและเริ่มนับวันที่เราเคยรักกัน
1..........2......3
484...485....
แล้วก็หยุดที่ตุ๊กตา 485 ตัว
แล้วฉันก็เริ่มร้องไห้อีกครั้งพร้อมกับถือตุ๊กตาตัวนึงในแขนของฉัน
ฉันกอดมันอย่างแรง ทันใดนั้น...
"ฉันรักเธอ~ ฉันรักเธอ~"
ฉันปล่อยมันหล่นลงพื้น ตกตะลึง...
ฉัน.รั..ก..เธอ??
ฉันหยิบตุ๊กตาขึ้นมาแล้วก็กดลงไปที่ท้องของมัน
"ฉันรักเธอ~ ฉันรักเธอ~"
เป็นไปไม่ได้!
ฉันกดลงไปที่ท้องของตุ๊กตาทุกตัว แล้วข้างๆฉันก็เต็มไปด้วยเสียง
"ฉันรักเธอ~ "
"ฉันรักเธอ~ "
"ฉันรักเธอ~ "
คำพูดเหล่านั้นหลั่งไหลออกมาไม่หยุด
ฉัน...รัก....เธอ...
ทำไมฉันไม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้น?
ว่าหัวใจของเขาอยู่ข้าง ฉัน ปกป้องฉันไว้
ทำไมฉันไม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้น ว่าเขารักฉันขนาดนี้?
ฉันหยิบตุ๊กตาอีกตัวหนึ่งใต้เตียง แล้วก็ กดท้องของมัน
มันเป็นตุ๊กตาตัวสุดท้าย ตัวที่ตกบนถนน
ยังมีคราบเลือดของเขาติดอยู่
เสียงที่ออกมาเป็นเสียงที่ฉันคิดถึงมาก
"เจน...รู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร? เรารักกันมา 486 วันแล้วนะ เธอรู้ไหมว่า 486
คืออะไร?
เราบอกรักเธอไม่ได้....อืม...เพราะว่าเราขี้อายเกินไป....ถ้าเธอให้อภัยเราและเอาตุ๊กตาตัวนี้ไป
เราจะบอกว่า เรารักเธอ...ทุกวัน...จนวันตาย"
"เจน...เรารักเธอ...."
น้ำตาหยดลงมาบนแก้มของฉัน ทำไม? ทำไม? ฉันถามพระเจ้า
...ทำไมฉันถึงเพิ่งมารู้ตอนนี้
เขาไม่สามารถอยู่ข้างกายฉันได้
แต่ว่าเขารักฉันจนนาทีสุดท้ายของชีวิตเขา
เรื่องนั้น...สำหรับฉันแล้ว มันกลายมาเป็น
ความแข็งแกร่ง..ที่จะสร้างทางเดินชีวิตที่สวยงาม.............
20 มกราคม 2549 21:16 น.
ซาแกร๋ม
ท้องฟ้ามืดครึ้มหม่นหมอง สายลมพัดเอื่อย นานๆครั้งจะได้ยินเสียงหวีดของสายลมที่ลอยมาเป็นระยะ หากมองไกลๆก็คงจะไม่ได้เห็นสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่สีดำบินโฉบไปมาบนท้องฟ้า ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่าพวกมันไม่ได้บินไปไกลจากที่อื่นเลยนอกเหนือจากบนปราสาทสีเงินหลายหลังเรียงกันและมียอดโดมสูงใหญ่ ราวกับว่ามันกำลังลาดตระเวนดูแลปราสาทนั้นอยู่ ภายในปราสาทมีการเฉลิมฉลองกันอย่างคึกครื้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
ยินดีตอนรับสู่วิลล่าแลนด์ หลังจากที่นักศึกษาทั้งหลายได้พบกับวันหยุดอันยาวนานแล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆในปีนี้ ผู้ที่กล่าวคือชายวัยชราร่างเล็กแต่ดูแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม เขาสวมเสื้อคลุมสีเงินเงาที่ทาบทับตัวจนมิดมองไม่เห็นช่วงล่างเลย ไม่ต้องบอกก็จัสมินก็รู้ทันทีว่านั่นคือ ศาสตราจารย์เทมเจอร์มัส ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวิลล่าแลนด์
เอาละ เชิญทุกคนรับประทานอาหารกันตามสบาย ก่อนที่จะมีพิธิการคัดตัวเทมเจอร์มัสกล่าวด้วยเสียงนุ่มนวล พร้อมกับผิวปาก ทำให้อาหารมากมายปรากฏบนโต๊ะไม้มันเงา จัสมินไม่ปล่อยให้ตัวเองตะลึงนานเกินกว่าสามวินาที เธอรีบจัดการกับไก่งวง สปาเก็ตตี้จานใหญ่ ตามด้วยสลัดแฮม แยลลี่ และตบท้ายด้วยน้ำฟักทองแก้วใหญ่ เธอเกือบจะเรอเอือกใหญ่ด้วยความอิ่ม จัสมินไม่เคยได้กินอาหารที่อร่อยและเยอะขนาดนี้มาก่อนเลยเพราะการที่อาศัยอยู่กับยายเฒ่าแคมาลูมป์ไม่ใช่เรื่องที่น่าพิสมัยนัก แม้ว่านางจะไม่ได้ทอดทิ้งจัสมินแต่ก็ไม่ได้เลี้ยงด้วยความเต็มใจเป็นแน่ จัสมินต้องทำงานช่วยนางทุกอย่างเพื่อให้ได้กินอาหาร นางจะคอยดุด่าและไล่ตีจัสมินทุกวัน นางบอกว่าจัสมินเป็นเด็กผู้หญิงที่ร้ายกาจที่สุด ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันนางเฝ้ารำพันถึงความโชคร้ายของตัวเองนางพูดว่านางไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือเป็นญาติของจัสมินเลย เพียงแต่นางเป็นเพื่อนข้างบ้านของแม่เธอ เมื่อแม่เธอตายนางจึงต้องรับเลี้ยงเธอด้วยความไม่เต็มใจซักนิด แต่นางไม่เคยพูดเลยว่าถูกบังคับจากใคร ครั้งหนึ่งจัสมินเคยถามนางว่าแม่ของเธอตายเพราะอะไร เหมือนว่านางกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง แต่พออ้าปากนางก็จะเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงทุกครั้งที่กำลังจะพูดถึงเรื่องนี้ แต่เมื่อนางบอกว่าแม่ของเธอตายด้วยโรคร้ายกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เธอสงสัยอยู่เหมือนกันและยังไม่เชื่อสนิทใจนัก
หลังจากที่ได้รับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วเราจะเข้าสู่การคัดตัวเพื่อเข้าไปอยู่ในสายต่างๆ ซึ่งจะมีทั้งหมดสี่สาย สายละ20ห้อง ห้องละสี่คนโดยจะมีนักเรียนทั้งหมดสายละ80คน แต่ละสายมี สาย 1,2,3และ4เทมเจอร์รัสเว้นระยะก่อนจะพูดต่อ
เราจะแบ่งท่านตามสายโดยการนำเอาสายเลือดมาเป็นเกณฑ์ เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องใช้เลือดท่านละหยดหลังจากที่คำพูดจบลงเกิดเสียงฮือฮาในหมู่นักเรียน มีหลายคนที่บอกว่าตนเองกลัวเลือด เสียงคุยเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จัสมินคิดว่าก็ไม่เลวเหมือนกันถ้าใช้วิธีนี้ และเธอเริ่มรู้สึกว่ามีคนกระทุ้งสีข้างของเธอ
เอ่อ- เธอ-เอ่อ คิดว่ายังไงถ้าฉันจะไม่ยอมให้เลือดแก่เขาจัสมินรู้สึกมึนงงเล็กน้อย คนที่ถามเธอคือเด็กหญิงตัวเล็ก ผมหยิกสีน้ำตาล นัยน์ตาของเธอเริ่มเอ่อล้นด้วยน้ำตา
ฉัน-เอ่อ- กลัวเลือดเธอเริ่มตัวสั่นขึ้น จัสมินรู้สึกสงสารเป็นอย่างมากจึงพูดปลอบใจ
ฉันคิดว่ามันจะไม่เจ็บอย่างแน่นอน อย่าลืมสิ ที่นี้โรงเรียนเวทย์นะ เขาคงไม่ใช้วิธีเจาะเลือดหรอก
เธอคิดอย่างนั้นหรอ
แน่นอนจัสมินตอบอย่างมั่นใจ
นั่นสินะ ฉันนี่ขี้ตื่นเอามากๆเลยละ
ว่าแต่..เธอชื่ออะไรละ
เรเวเนีย อองซา
ฉัน จัสมิน เฟลอร์
มิสอองซา!เสียงเรียกขานชื่อให้ไปตรวจเลือดดังขึ้น
ถึงฉันแล้ว โอ้-ไม่นะเรเวเนียเริ่มตัวสั่นอีกครั้ง
ใจเย็นๆนะ ไม่มีอะไรหรอก
เรเวเนียลุกขึ้นด้วยท่าทีไม่มั่นใจนัก ก่อนจะเดินตรงไปหาอาจารย์ที่ผมยาวสรวยใส่แว่นกลมซึ่งถือไม้กายาสิทธ์รออยู่ จัสมินมองไม่ชัดนักว่าศาสตราจารย์ทำอย่างไรกับการเอาเลือดออกมาตรวจได้
มิสเฮปซิบาร์!
มิเตอร์จูเลียน!
มิสเตอร์โอปอล!แล้วจัสมินก็ได้ยินเสียงเลื่อนเก้าอี้จากด้านหลังเธอ ก่อนจะมีเด็กหนุ่มตัวสูงเดินผ่านเธอไป และเตะเข้าที่ข้อเท้าเธออย่างแรง! จัสมินกัดริมฝีปากเพื่อไม่ให้ร้องออกมา มองตามเขาด้วยความเครียดแค้น
มิสเฟลอร์!จัสมินลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่กำลังก้าวเดินเมื่อเงยหน้าขึ้นเธอก็สบตากับดวงตาดำกริบและใบหน้าอันหล่อเหลางดงาม จนทำให้เธอตะลึงได้ในชั่ววินาที เด็กชายคนนั้นเดินผ่านไปทำให้จัสมินอดมองตามหลังไปไม่ได้ แต่เมื่อมองข้างหลังของเขาคิ้วของจัสมินขมวดเข้าหากันและความโกธรพุ่งขึ้นมาริ้วๆ เขาคือคนที่เตะเท้าเธอนั่นเอง จัสมินเก็บความแค้นที่พุ่งมาแล้วหันหน้ากลับเดินไปหาศาสตราจารย์ผมสวย
นั่งลง! แล้วยื่นมือมา คิดว่าฉันคงไม่ต้องปลอบเธอหรอกใช่ไหม
ไม่จำเป็นค่ะศาสตราจารย์ หนูคิดว่า เอ่อ-หนูพร้อมค่ะ
ได้ เอาละ อยู่นิ่งๆนะจัสมินไม่ได้หลับตาจึงมองเห็นป้ายที่ติดอยู่หน้าอกอาจารย์ได้ ศาสตราจารย์นาริเวลส์
ศาสตราจารย์นาริเวลส์ชี้ไม้กายาสิทธิ์ไปที่นิ้วของจัสมินพร้อมพึมพำบางอย่างแล้วชี้ไม้กายาสิทธิ์ไปที่แก้วเจียระไนอันเล็กๆ ทันใดนั้นมีหยดเลือดไหลออกมาจากไม้กายาสิทธิ์ของนาริเวลส์และเธอชี้นิ้วลงไปมีน้ำบางอย่างหยดลงไปในแก้ว จากนั้นเลือดที่อยู่ในแก้วก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินถ้าตาไม่ฝาดจัสมินคิดว่ามันมีแสงสีแหลืองอ่อนๆสะท้อนอยู่ แต่มันน้อยมากและค่อยๆหายไปเหลือเพียงสีน้ำเงิน
โอ้!นี่มันอะไรกัน เป็นไปได้อย่างไร นี่มันเป็นเลือดที่.......เธอหยุดพูดทันทีที่เงยหน้ามองจัสมิน
มะ-ไม่ ไม่มีอะไร เธอไปได้แล้วเหมือนว่านาริเวลส์ตกใจมาก เธอพยายามทำสีหน้าให้เรียบเฉย
แต่ศาสตราจารย์คะ...
ไม่ ไม่ กลับไปนั่งที่มิสเฟลอร์!
แต่..
เธออยู่สาย2 เอ่อ ไม่สิ สาย1จะดีกว่า ไปได้
แต่ว่า..
มิสเฟลอร์!ศาสตราจารย์นาริเวลส์สั่งเสียงเฉียบ
ค่ะ ศาสตราจารย์
คนต่อไป มิสเตอร์....ศาสตราจารย์นาริเวลส์เรียกชื่อคนต่อไป
จัสมินกลับมานั่งที่ด้วยอารมณ์งุนงงระคนแปลกใจ ทำไมศาสตราจารย์ต้องให้เธออยู่สาย2ก่อนสีจะบอกว่าสาย1 เลือดเธอมีอะไรผิดปกติ
เป็นยังไงบ้างจัสมิน
จัสมินสะดุ้งนิดหน่อยกับการทักทายของเรเวเนีย
ก็..ใช้ได้นะ
อืม..ใช่ ฉันโอเคมากๆเลยละ ไม่รู้สึกเจ็บเลย เลือดฉันเป็นสีฟ้า ฉันอยู่สาย1 แล้วเธอละ
เหมือนกัน สาย1
ฉันดีใจมากนะ ย่าบอกว่าสาย1เป็นสายที่ดีมากๆเลยละ คนที่ยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงส่วนมากจะอยู่สาย1
หรอจัสมินตอบผ่านๆเสียงคุยเงียบลงเมื่อเทมเจอร์มัสพูดขึ้นอีกครั้ง
เอาละทุกคนการคัดเลือกจบสิ้นลงแล้ว ฉันหวังว่ามันเป็นการเลือกที่ได้รับการพอใจจากท่านทั้งหลาย สาย1พบศาสตราจารย์ดูเลย์น่าทางซ้ายมือ สาย2พบศาสตราจารย์ฟิลส์ สาย3พบศาสตราจารย์แม๊คเก้น และสาย4 พบกับศาสตราจารย์โทมัส
อาจารย์ทุกท่านจะแนะนำนักเรียนเองว่าต้องทำอย่างไรต่อไป ขอให้โชคดี..พูดจบเทมเจอร์มัสก็หายวับไปกับตา
จัสมินเดินตามนักเรียนสาย1มาหาศาสตราจารย์ดูเลย์น่า เธอเกล้าผมขึ้นสูงใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัย ดูเคร่งขรึมและเจ้าระเบียบและเริ่มพูดเมื่อนักเรียนเข้าแถวเรียบร้อย
พวกเธอเป็นนักเรียนสาย ซึ่งเป็นสายที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง เพราะฉะนั้นฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะประพฤติตัวเป็นนักเรียนที่ดี เพื่อเพิ่มเหรียมทองให้แก่สายของตนเอง ฉันจะแบ่งพวกเธอเป็นห้องเพื่อสะดวกในการหลับนอน และที่สำคัญเมื่อเสร็จสิ้นการแบ่งห้องแล้ว เธอจะต้องไปที่ต้องสีฟ้าซึ่งเป็นตึกของสาย1เป็นขึ้นห้องของเธอจะมีเลขที่ห้องอยู่หน้าประตู และให้พวกเธอเข้านอนทันทีที่เสียงระฆังดังขึ้น พวกเธอจะอยู่อย่างปลอดภัยแน่หากว่าทำตามระเบียบบังคับ อย่าให้ฉันจับได้เป็นอันขาดว่ามีนักเรียนที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เอาละคนที่ได้ยินชื่อตนเองออกมาข้างหน้า
1/1 ครีเชอร์,ดีน,ลาวาร์บราว,จอร์จ
1/2 โอปอล,เรวาเนีย,จูเนียน,จัสมิน
1/3............1/4....
หลังจากที่ประกาศห้องจบจัสมินรีบเดินไปยังตึกสีฟ้าที่อยู่ทางซ้าย เธอดีใจที่อย่างน้อยยังมีเพื่อนตัวจิ๋วเรวาเนียอยุ่ร่วมห้อง เมื่อเดินไปถึงทางเชื่อมระหว่างห้องโถงใหญ่กับอาคารของสายต่างๆ จัสมินรู้สึกถึงความหอมฟุ้งของกลิ่นดอกไม้นานาชนิดจึงหันหลังกลับและเดินลงบันไดไปตามกลิ่นหอมนั้น
หยุดเดี๋ยวนี้นะ!
จัสมินหันหน้ากลับอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ
ฉันคิดว่าศาสตราจารย์ดูเลย์น่าให้กลับขึ้นห้องทันทีไม่ใช่ให้มาเดินชมวิวแถวนี้นะปีเตอร์ โอปอล พูดด้วยเสียงเรียบ
จัสมินคลายอาการตกใจเมื่อคนที่พบเธอไม่ใช่อาจารย์คนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นเด็กชายรูปหล่อเสียงดุแทน
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของนายซะหน่อยจัสมินตอบอย่างท้าทาย
แน่นอน ถ้าเธอไม่ได้อยู่สายและห้องเดียวกับฉัน
อะไรนะ!ฉันเนี่ยนะอยู่ห้องเดียวกับนาย
ถูกต้อง
งี่เง่าสิ้นดี!
ฉันว่าเธอควรกลับห้องนะ
ก็ได้ๆ
จัสมินหันหลังกลับอย่างว่าง่ายเดินนำปีเตอร์ไป ตึกสาย1
ว่าแต่นายชื่ออะไรละ
ปีเตอร์ โอปอล
เอ๊ะ!เดี๋ยว....จัสมินหันควับอย่างรวดเร็วจนชนกันปีเตอร์ที่เดินตามมาอย่างแรง
โอ้ย!เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกเนี่ยปีเตอร์สบถอย่างหัวเสีย
นาย-นายเป็นคนที่เตะเท้าฉันนี่!
ว่าไงนะ
พลั้ก!ไม่ทันได้อธิบายอะไรหมัดน้อยๆจากมือของจัสมินก็ตรงเข้ากระแทกกับหน้าของปีเตอร์อย่างรวดเร็ว
ทำอะไรของเธอเนี่ย!ยัยงี่เง่าปีเตอร์ยกมือลูบหน้าอย่างมึนงง
ผลตอบแทนของความมักง่ายของนาย!พูดจบจัสมินก็เดินลิ่วๆไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจปีเตอร์อีกเลย
ไม่ว่าเช้านี้จะมีสิ่งดีๆแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้จัสมินอารมณ์ดีขึ้นเลย ซึ่งก็เป็นผลมาจากเมื่อคืนที่ต้องอยู่ร่วมห้องกับปีเตอร์ และความจู้จี้ของเขาที่บังคับให้เธอเก็บที่นอน ผ้าห่ม และสัมภาระให้เรียบร้อย ซึ่งเขาอ้างว่าอาจจะมีอาจารย์ประจำสายมาตรวจความสะอาดก็ได้ แม้ว่าเรวาเนียจะพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างเสียงหัวเราะให้แก่จัสมินแต่เธอก็ยังรู้สึกไม่ชอบปีเตอร์อยู่ดี
จัสมินมองออกไปนอกหน้าต่างอากาศภายนอกปราสาทท่าทางจะหนาวเย็นมาก จัสมินเห็นต้นสนหนาทึบรอบตึกสาย3ไหวโอนเป็นทิวพัดเอาหิมะขาวโพลนปลิวว่อน ตอนนี้ระฆังเรียกกินอาหารเช้ายังไม่ดัง และยังเหลือเวลาอีกนาน เพราะจัสมินตื่นเร็วมากอาจเป็นเพราะความเคยชินในตอนที่อยู่กับยายเฒ่าแคมาลูมป์ที่ต้องตื่นเช้ามากจนแทบไม่ได้นอนเกินวันละ3ชั่วโมงเลย แต่เธอก็ไม่ได้โกธรเกลียดนางมากมายเท่าไรนัก เพราะนางเองก็เป็นคนที่เลี้ยงเธอมาจนโตขนาดนี้ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ของนางเลย บางครั้งจัสมินก็อดคิดถึงพ่อของเธอไม่ได้ เขายังมีชีวิตอยู่รึเปล่า กำลังทำอะไรอยู่ และเคยรู้บ้างไหมนะว่าจัสมินมีตัวตนอยู่ทำไมไม่เคยมาเยี่ยมเยียนเลย
ไม่ยักรู้นะว่าเธอเป็นพวกประเภทชอบฝันเพ้อเม่อลอยปีเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงขำขัน
ฉันก็ไม่ยักรู้นะว่านายเป็นพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจัสมินสวนกลับอย่างรวดเร็ว
ก็ได้ๆยอมแพ้ ที่มานี่ก็เพราะมาตามเธอไปกินอาหาร อีก30นาทีจะเข้าเรียน
ว่าไงนะ!นายจะบ้ารึไงห๊า!อาจารย์ดูเลย์น่าบอกเองว่าจะเข้าเรียนอีก2ชั่วโมงจัสมินเถียงไม่ค่อยพอใจกับการเข้าเรียนเร็วจนไม่ทันตั้งตัว
ตามใจ...แล้วอย่ามาหาว่าไม่บอกละกันปีเตอร์พูดเสียงเบื่อหน่าย ก่อนจะเดินไปยังห้องโถง หยิบกระเป๋า เหวี่ยงเสื้อคลุมพาดไหล่ และเปิดประตูออกจากห้องไป ห้องที่จัสมินอยู่เป็นห้องค่อนข้างใหญ่โล่ง มีรหัสผ่านเปิดประตู ซึ่งคนที่ไม่ใช่นักเรียนในห้องจะไม่สามารถเข้ามาได้ ภายในเป็นห้องกว้างมาเก้าอี้พรมหนาสี่ตัวพร้อมกับโต๊ะไม้โอ๊กตัวยาว คงเอาไว้สำหรับให้นักเรียนนั่งทำการบ้านและกิจกรรมอื่นๆ
เดี๋ยวสิ!รอด้วยจัสมินวิ่งกระหืบกระหอบมาเดินเคียงปีเตอร์
ทำไมฉันไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนเวลา แล้วเรวาเนียละ?จัสมินถาม
เรวาเนียรอเธอที่โต๊ะอาหารเป็นชาติแล้ว!แล้วฉันก็คิดว่ามันเป็นการเสียเวลากินอาหารของฉันมากที่ต้องมาตามเธอ...และที่สำคัญเธอเป็นคนแรกที่กล้าชกหน้าฉัน แต่เอาเถอะ..ฉันไม่ชอบรังแกผู้หญิงปีเตอร์พูดขณะที่เดินเรื่อยๆ จนถึงโต๊ะอาหาร ซึ่งเป็นที่รับประทานอาหารรวมทั้งระดับ เสียงคุยเจี้ยวจ้าวดังลั่นกับเสียงตะโกนและเสียงหัวเราะคิกคักดังไม่หยุด จนรู้สึกหูอื้อ แต่ปีเตอร์เดินนำมาโต๊ะสุดแถว เรวาเนียโบกมือให้ทั้งสองอย่างร่าเริงเธอนั่งอยู่กับ แจ็ค โทดีน ซึ่งเด็กชายที่ค่อนข้างผอมใส่แวนหนาเตอะ กำลังส่งยิ้มกว้างมาให้จัสมินและปีเตอร์
หุบปากลงหน่อยก็ดีนะแจ็ค ฉันไม่อยากให้แมลงวันตัวที่ห้าบินเข้าปากนายปีเตอร์ทักทาย แจ็คหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
นี่จัสมิน ฉันรอตั้งนานน่ะ ตอนเช้าอาจารย์ดูเลย์น่ามาบอกเปลี่ยนเวลาแล้วแจกตารางสอน ฉันคิดว่าเธอรู้แล้วซะอีก เห็นตื่นก่อนฉันตั้งนาน ก็เลยไม่อยากรบกวนน่ะเรวาเนียพูดเสียงใส ดูร่าเริงขึ้นต่างจากเมื่อคืน
อืม ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่..ตารางสอนฉันอยู่ไหนละจัสมินถามพร้อมกับนั่งลงกินอาหาร
เอ่อ-ฉัน ขอโทษนะจัสมิน ฉันไม่ได้เก็บไว้ให้เธอเรวาเนียทำหน้าเศร้า
อยู่กับฉันนี่...ปีเตอร์เอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบมานาน พลางส่งแผ่นกระดาษให้จัสมิน
ขอบใจนะ
ฉันไม่ได้ตั้งใจเก็บมาให้เธอหรอก เห็นว่ามันเหลือเลยเก็บมาเผื่อได้ใช้เท่านั้นเองปีสเตอร์พูดหน้าเรียบเฉย ส่งผลให้ใบหน้าเขาคมเข้มขึ้นอีก จัสมินเผลอมองชั่ววินาทีก่อนจะกลับมาเป็นตัวเอง
ก็ได้ ฉันก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะว่าคนอย่างนายนะ....
อย่างฉันทำไม!
นี่!ปีเตอร์ จัสมิน พวกเธอเลิกทะเลาะกันได้แล้วเรวาเนียตวาดทั้งสองคน
จัสมิน ทำไมกินนิดเดียวเองละแจ็คถามอย่างเป็นห่วง
ไม่ค่อยหิวน่ะ
จะไดเอทอ่ะดิ แต่หุ่นอย่างเธอน่ะ ไม่ว่าจะผอมลงหรืออ้วนขึ้น ก็คงไม่ดีขึ้นมาหรอกปีสเตอร์ยิ้มเย้ยหยัน
คำพูดของปีเตอร์ทำให้จัสมินโกธรขึ้นมาทันที ดวงตากลมโตสีฟ้าครามแข็งก้าวขึ้นมาทันที ใบหน้านวลเนียนสีแดงจัด ลุกขึ้นพรวดกระชากกระเป๋าเดินก้าวฉับๆหายลับไปทางแยกของปราสาท ท่ามกลางความงงงันตกใจของเรวาเนียและแจ็ค ความเงียบเกิดขึ้นซักครู่ ก่อนที่เรวาเนียจะเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
ฉันว่า..เอ่อ- ไม่ควรทำให้จัสมินโกธรนะปีเตอร์
ใช่ เธอทำหน้ายังกะจะกินเลือดนายให้ได้อย่างนั้นละแจ็คเสริม
ช่างเธอสิปีเตอร์พูดอย่างไม่แคร์ แต่เขารู้สึกแปลกใจกับสายตาคู่นั้นมาก เหมือนมีอำนาจอะไรบางอย่างที่น่ากลัวแฝงอยู่ ซึ่งยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างที่เขาคิดหรือเปล่า เขายังต้องอ่านหนังสือ ความลี้ลับศาสตร์มืด ให้จบห้าเล่มเสียก่อน บางทีอาจจะพบอะไรบางอย่างที่เขาสงสัยอยุ่ก็ได้ ปีเตอร์เดินขึ้นชั้นเรียนไปพร้อมกับเรวาเนียและแจ็ค และพบว่าจัสมินอยู่ในห้องก่อนแล้ว เสียงนักเรียนคุยกันจ้อกแจ้ก จัสมินนั่งอ่านหนังสืออย่างสงบอารมณ์โกธรเมื่อครู่ลดลงจนจะหมดแล้ว จัสมินรู้สึกแปลกๆกับอารมณ์โกธรรุนแรงที่เกิดขึ้นมากกว่าปกติ ทั้งที่ไม่มีอะไรต้องโกธรมากนัก แต่จัสมินก็สรุปกับตัวเองว่าเป็นเพราะเธอไม่ชอบปีเตอร์อยู่แล้วทำให้โกธรมากกว่าปกติ
ปีเตอร์ขยับมานั่งข้างๆจัสมินตามด้วยเรวาเนียและแจ๊ค ในห้องเรียนดูมืดกว่าปกติเล็กน้อยมีตู้หนังสือหลายหลังภายในมีหนังสือเล่มเก่าหนาเขอะเรียงรายกันอยู่จำนวนมาก คาบแรกในตอนเช้านี้เรียนวิชาการต่อสู้ทางเวทย์มนต์กับอาจารย์อัมนาบริตร์ จัสมินยังไม่เคยเห็นหน้าเขาเลยตั้งแต่เข้าเรียนมา แต่ขณะนั้นมีร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากมุมห้องที่มีตู้หนังสือบังอยู่
สวัสดีๆนักเรียนทุกคน ขอต้อนรับเข้าสู่การเรียนวิชาการต่อสู้ทางเวทย์มนต์ในคาบแรกนี้ ฮ่ะ ฮ่ะอาจารย์อัมนาบริตร์เอ่ยเสียงดัง เขาเดินไปเดินมาและขยับตัวบ่อยๆ เขามองกวาดสายตาไปยังนักเรียนทุกคนแล้วเลียลิมฝากที่ดำคล้ำไปมา เขายิ้มอย่างอารมณ์ดีให้ นักเรียนนั่งมองอย่างงงๆ จัสมินหันไปมองปีเตอร์พบว่าเขาไม่ได้สนใจอาจารย์อัมนาบริตร์แม้แต่น้อย สิ่งที่เขาสนใจอยู่ตอนนี้คือตำราเล่มใหญ่ที่ดูเก่ามากและปีเตอร์ก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านอย่างจริงจัง ฉับพลันก็เงยหน้ามองอาจารย์และค่อยๆดึงไม้กายาสิทธิ์ออกจากเสื้อคลุมช้าๆ
นายจะทำอะไร?จัสมินถามอย่างไม่ไว้ใจแต่ดูเหมือนปีเตอร์จะไม่ได้ยินคำถามตาเขายังจ้องอยู่ที่อาจารย์
ก่อนที่จะชี้ไม้กายาสิทธิ์ไปที่อาจารย์อย่างรวดเร็ว
ฮ่ะ ฮ้า ว่าไง นักเรียนที่รัก ยกไม้กายาสิทธิ์อย่างนี้มันอันตรายนะ..อาจารย์อัมนาบริตร์ยิ้มช้าๆ
ผมรู้ว่าผมควรทำอะไรปีเตอร์พึมพัม มือยังชี้ไม้ไปยังอาจารย์เขม็ง ก่อนจะพึมพำคาถาสาปแช่งที่รุนแรงใส่ท่ามกลางความตกใจของทุกคนในห้อง
ไม่เอาน่าเด็กน้อย เธอต้องไม่ทำอย่างนี้..อาจารย์อัมนาบริตร์มีสีหน้าไม่ต่างจากคนในห้องเท่าไร่ แต่ปีเตอร์ยังคงท่องคาถาและทันใดนั้นลำแสงสว่างวาบจากปลายไม้กายาสิทธิ์ของปีเตอร์พุ่งเข้าใส่อาจารย์อัมนาบริตร์
อ๊ากกกกกกกก..ร่างของอาจารย์อัมนาบริตร์นอนลงไปดิ้นทุรนทุรายอย่างทรมาน
และทันใดนั้นจัสมินก็พุ่งตัวเข้ากระแทกปีเตอร์อย่างจังเมื่อเห็นขาท่องคาถาต่อ
โอ๊ย!เจ็บนะปีเตอร์ร้อง นักเรียนในห้องต่างตื่นตระหนกกัน บางคนก็กรีดร้องอย่างตกใจ
นายมันเลวที่สุด!นายทำร้ายอาจารย์จัสมินตะคอกเสียงใส่ เราวาเนียกับแจ๊คเข้ามาฉุดปีเตอร์กับจัสมินไว้ไม่ให้พุ่งใส่กัน
เขาไม่ใช่อาจารย์!เข้าใจมั้ย!ไม่เชื่อแหกตาดูสิปีเตอร์ตะโกนใส่หน้าจัสมิน สายตาทุกคู่หันมาจับจ้องที่อาจารย์อัมนาบริตร์ทันที ตอนนี้เขาไม่ดิ้นแล้วแต่ร่างค่อยๆจางลงและ..เกิดควันคุ้งทั่วห้อง พอจางลงกลับไม่มีเขาอยู่ตรงนั้นแล้ว!
โฮ่ะๆๆ เก่ง เก่งมากเสียงหัวเราะมาพร้อมกับเสียงปรบมือดังมาทางหลังห้อง และปรากฏร่างอาจารย์อัมนาบริตร์เดินออกมาอย่างช้าๆ ปีเตอร์หันไม้กายาสิทธิ์ไปทางเขาทันที
โอ้ มิสเตอร์โอปอลที่รัก คราวนี้ฉันสาบานได้ว่าฉันเป็นตัวจริงพูดจบก็หัวเราะอย่างสบายใจ
เอาละ ทุกคนอย่าตกใจไปเลย นี่เป็นการเปิดห้องต้อนรับนักเรียนปี1ที่ฉันทำมานานแล้ว แต่ยังไม่มีใครจับได้มาก่อนเลย นอกจาก..คนที่เคยเก่งที่สุดของที่นี่ทุกคนเริ่มนั่งที่ของตน อาจารย์อัมนาบริตร์เดินอ้อมไปยืนหน้าห้อง จัสมินกับปีเตอร์ต่างมองกันราวจะกินเลือดกินเนื้อ
มิสเตอร์โอปอลปีเตอร์สะดุ้งขึ้น ช่วยบอกมาหน่อยสิว่าเธอรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นตัวปลอม
เอ่อ..ตัวปลอมของอาจารย์คือตัวทอร์ ลักษณะเฉพาะตัวที่สังเกตง่ายๆคือ มันจะอยุ่ไม่เป็นสุขต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา มันจะพยายามทำให้เหมือนตัวจริงที่สุดจนกลายเป็นความเหมือนเกินไปและ..มันจะหิวกระหายเมื่ออยู่ต่อหน้าเด็กปีเตอร์พยายามทำเสียงให้มั่นคง เกิดเสียงพึมพำไปทั่วห้อง
ดูเหมือนว่าจัสมินจะทนอยู่เฉยๆไม่ได้แล้ว
อาจารย์ค่ะ ตัวทอร์คืออะไรค่ะจัสมินถามอย่างข้องใจ
โฮ่ะๆ เป็นคำถามที่ดีมากสำหรับวิชานี้อาจารย์พูดเรื่อยๆ ทอร์นะหรือ มันเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง จะว่าชั่วร้ายก็ไม่ใช่จะว่าดีก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าแล้วแต่คนจะควบคุม มันสามารถปลอมตัวได้ทุกอย่างยกเว้นสิ่งของมันจะลอกเลียนแบบเราได้อย่างแนบเนียน มันมักจะอยู่บริเวณชายป่า แต่จะพบไม่บ่อยนัก
ตัวตนที่แท้จริงของมันเป็นยังไงค่ะเรวาเนียเอ่ยถามเสียงดัง ทุกคนให้ความสนใจกับคำถามนี้มาก
ตัวตนที่แท้จริงนะหรือ ยังหรอก ยังไม่เคยมีใครเห็น แต่มันคงจะแปลงตัวเป็นอย่างอื่นตลอดเวลานั้นละ ถ้าไปในป่าละก็ ระวังให้ดีละกันอาจารย์อัมนาบริตร์ จ้องหน้าเรวาเนีย เอาละ ฉันขอชมนะว่าเก่งมากสำหรับปีเตอร์ และตั้งคำถามได้ดีสำหรับจัสมินและเรวาเนีย 1 เหรียญทอง สำหรับสาย1ในวันนี้ และ2 เหรียญทองแดงของสาย3ที่ตั้งใจฟังดีมากเสียงโห่ร้องอย่างดีใจของสาย1ดังขึ้น ก่อนจะทยอยกันออกจากห้องสาย1กับสาย3เรียนด้วยกันในวิชานี้เท่านั้น ส่วนวิชาอื่นก็เรียนกับสายอื่น แต่จัสมินไม่ได้ใส่ใจกับตารางสอนมากนัก
แจ๊คคาบต่อไปเรียนอะไรจัสมินหันมาถามแจ๊คด้วยเสียงเนือยๆ
อืม เรียนการออกกำลังน่ะ แล้วก็พักแจ๊คตอบกลับด้วยเสียงไม่ต่างกัน