4 กุมภาพันธ์ 2551 12:53 น.
ช่ออักษราลี
๏ พิศสไบผืนทองต้องประจักษ์
นิราศรักแรมไกลให้ถวิล
แก้วกำสรดสลดทรวงดวงชีวิน
ยามประทิ่นโชยกลิ่นซาบอาบสไบ
ของกำนัลจากจอมขวัญนั้นให้น้อง
แพรผืนทองลายพิกุลละมุนใส
หอมกลิ่นร่ำกำซ่านขจายไป
ถนอมใยสายรักที่ถักทอ
ยามพิกุลโรยร่างพร่างจากต้น
ชำแรกตนสู่ดานดินสิ้นซากหนอ
เมื่อพี่ร้างห่างรักจักชะลอ
ดอกก็ท้อแตะพื้นทุกหมื่นไป
ฤารักเรียมหอมกรุ่นปานพิกุลโศก
โชยกลิ่นโชกทรวงซ่านแต่ลาญไหว
รวยรินมาดั่งพร่ำคำอาลัย
สะท้านใจสไบนางหมางราคิน ๚ะ
2 กุมภาพันธ์ 2551 03:35 น.
ช่ออักษราลี
๏ ด้วยแรงแห่งรักจากปีกนก
จะผกผินบินทะยานม่านเวหา
คลอเคล้าแสงวาวดาวดารา
เคียงคู่ฟ้าคู่ขวัญนิรันดร์ไป
ปีกรักจะถักทอเป็นสายฝัน
นำวสันต์ร่วงพรูสู่ใบไม้
ให้ผลิช่อหอมหวานกล่อมก้านใบ
งามวิไลดั่งใจสองครองคู่กาล
สายสวาทขาดสายมิวายสิ้น
รักโบยบินสู่ฟ้าไกลกว้างไพศาล
ฝ่าปุยหมอกแมกไม้พันสายธาร
ลำนำรักหวานซ่านทรวงร้อยห่วงใจ
จักสวมสร้อยสังวาลม่านจันทร์ฉาย
แซมดาวรายพรายพริบระยิบไหว
รักเราสองต้องสุขสมภิรมย์ฤทัย
ด้วยบ่วงใยปีกรักภักดิ์นิรันดร์
กรีดกรายฟ้อนนาฏย ณ เพ็ญโฉม
ขิมประโคมบรรเลงเพลงสวรรค์
เบิกม่านฟ้าพราวพร้อยสร้อยแสงจันทร์
จักกล่อมขวัญรักผ่านวิมานดาว๚ะ๛
ตะวันเอยทอแสงมาแรงลุ่ม
สายหมอกคลุมร้อนควันด้วยม่านหลง
โหมพิษรักกระหวัดย้อนผ่อนบรรจง
จิตพะวงพร่ำหาห่วงอาทร
ปีกแห่งรักสลักถ้อยในรอยภักดิ์
ซึ้งประจักษ์จึ่งจารจดบทอักษร
ร้อยหทัยไขขานเป็นกานท์กลอน
อันสุนทรอ่อนหวานเพื่ออ่านกัน