1 มกราคม 2551 12:46 น.
ช่ออักษราลี
๏ ทอดปรายสายตาสุดฟ้ากว้าง
เวิ้งว้างเวหานภาหม่น
สัมผัสเทาเงาเมฆเฉกเวทย์มนต์
เสกรวงฝนหล่นฟ้ามากล่อมดิน
๏ เงาจันทร์ทาบขอบรอบภูผา
นภาขลิบทองหมองไม่สิ้น
ตราบฝนหลั่งโรยโหยระริน
ดวงชีวินแทบดิ้นดับลับไป
๏ ดั่งปักษาร่าเริงบนจนหลงถิ่น
โบกโบยบินเดียวดายภายฟ้าใส
ตามสายลมโชคชะตานำพาไป
พยุงใจในฟ้าหม่นปนเมฆเทา
๏ ตรึงสัมผัสอันละมุ่นอุ่นลมสาย
ฟ้าประกายตะวันแดดจักแผดเผา
ผ่านดาวเดือนเคลื่อนคล้อยคอยบรรเทา
ความเจ็บร้าวคราวหมองประคองใจ
๏ เสียงซิบแผ่วแว่วหวานจากม่านคลื่น
รินระรื่นชื่นรักมิผลักไส
ใจเหว่ว้าอาดูรสูญสิ้นไป
รอยแผลใจคลื่นซัดหายกับรอยทราย
๏ แลทอดปรายสายตาขอบฟ้ากว้าง
มิอ้างว้างดั่งจิตผิดสลาย
ยามม่านฟ้าทาทาบฉาบทองปลาย
หมู่นกสยายปีกเหลิงเริงกมล
๏ ขับเพลงขานกล่อมกาลม่านเวหา
ล้อธาราเกลียวคลื่นรื่นขยล
ยามวาโยยุร้ายกลายประจญ
สถิตสถลบนรังนอนจนอ่อนไป ๚ะ๛
mms://streaming.gmember.com/wma/01688001.WMA
IMG DYNSRC=http://mywebpage.netscape.com/gotta1dj/mam+-+Yattika.wma WIDTH=0 HEIGHT=0 LOOP=infinite
29 ธันวาคม 2550 14:44 น.
ช่ออักษราลี
๏ พักตร์นุชดุจรัมภาอุษาสวรรค์
ขนงดั่งเกาทัณฑ์แรมจันทร์เสี้ยว
พริบเนตรเฉกพลอยมาร้อยเรียว
โอษฐ์กระจับรับเกลียวกับเรียวทนต์
๏ ลีลาเยื้องกายละม้ายหงส์
โฉมยงแย้มสรวลดั่งมวลฝน
บทมาลย์ปานกลีบจีบอุบล
เยื้องยุคลยาตรายามคลาไคล
๏ พิศนลาฏมาสแม้นดั่งวงแข
ศกแลระยับจับนิลถวิลให้
พจน์เสนาะดุจเสกการะเวกไพร
ในม่านใจหทัยพิศสฤทธิ์งาม
๏ โฉมประจักษ์ลักขณาสง่าศรี
กัลยาณีตรีภพจบโลกสาม
สถิตอยู่ดาวดึงส์คะนึงนาม
ทิวาหวามวามจันทราสุขาวดี
๏ หอมเอยหอมกว่าผกาไหน
ใสเอยใสกว่าหยาดอมฤตใดในสรวงนี้
เรียงร้อยสร้อยรัตนะอัญมณี
สวมศอเทวีมณีใจ
๏ สถิตแดนดาวใดในสรวงสวรรค์
ฤาสถิตกลางไพรสัณฑ์หิมพานต์ไหน
วอนนุชแม่สถิตสู่ฤาชุใจ
ห้วงหทัยของกระต่ายที่หมายจันทร์ ๚ะ๛
เพลงแม่หญิง
http://www.music.oldsonghome.com/listen.php?song_id=3120
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
สวัสดีปีใหม่ค่ะ เพื่อนมิตรกลอนทุกท่าน
ขอให้มีความสุข สนุกกับการท่องเที่ยวนะคะ
กลอนนี้ยังคิดไม่ออกจะมอบให้ใครดีค่ะ
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
27 ธันวาคม 2550 16:39 น.
ช่ออักษราลี
๏ ราตรีหนึ่งตรึงใจในนิรมิต
ยาตรสถิตพิศิษฐ์แคว้น ณ แดนสรวง
ริ้วเมฆขาวพราวแสนแดนดาวดวง
เลยล่วงบุพกาลสู่แดนพิมานเมือง
๏ ย่ำนพเกล้าพราวเพชรเก็จแววแสง
มณีแดงบุษราคัมน้ำงามเหลือง
เขียวมรกตสดใสไข่มุกเรือง
วะวาวเฟื่องเพทายพรายอำไพ
๏ ท่องจักรวาลเขตสถานวิมานฟ้า
สู่นิมมานรดีนิรัติศัย
วอนสถิตนิรันดรอัมพรใน
นิราลัยไร้ทุกขะอนิวรณ์
๏ ขจรไปไตรภพจบวิถี
อมราวดีเทพสรวงปวงอัปสร
สยมภูกฤษดาสถาพร
อมรตระการฟ้าเหนือคงคาลัย
๏ เอนกายสุดขอบปลายฟ้า
ท่องในจินตนาละเมอสมัย
เหนื่อยล้าลาเรื่องการเมืองไทย
เที่ยวไปในดิถีรัชนีจร
๏ ล่องเภตราทองลอยฟ่องตระกองฝัน
แต่งเรียวจันทร์แย้มแต้มสิงขร
ม่านฟ้างามพิศุทธิ์รุจอัมพร
ศศิธรแย้มเยื้อนก่อนเลือนราง
๏ ยังหิมพานต์แดนภูสู่หิมาลัย
ลุในเขตกินนรก่อนฟ้าสาง
เจื้อยแจ้วแว่วเสภาทั่วสรรพางค์
จากนวลนางเทพินกินรี
๏ ยามอุษาบูรพารุจาใส
ผ่องอำไพทั่วหล้านภาศรี
ตื่นนิทราคลายตรมรื่นรมณีย์
สุขเสรีจากผองละอองดาว
เพลงลาวม่านแก้ว
24 ธันวาคม 2550 16:52 น.
ช่ออักษราลี
๏ ลมทะเลเหหวนรำจวนจิต
ลมลิขิตริ้วคลื่นเป็นรื่นสาย
เพียงคลื่นหนึ่งซัดปลิวพลิ้วหาดทราย
คลื่นอีกหลายถลาโถมประโลมดิน
๏ ดั่งคลื่นรักสลักถ้อยในรอยซัด
ยากจะขัดแข็งขืนฝืนใดสิ้น
ซัดทุกกาลหวานทุกคำพร่ำอาจิณ
ถ้วนถวิลย้ำถ้อยในรอยทราย
๏ ใจประดุจสุดแกร่งแข็งของเพชร
มิขามเข็ดในรักก่อนที่คลอนหาย
ยามรักก่ออีกรอบริมขอบปลาย
ในหว่างทรายและสายชลบนหว่างใจ
๏ วานรักอย่าผลักย้อนเหมือนรอนคลื่น
ซัดแล้วคืนย้อนยอกระลอกใหม่
ถั่งถาโถมโลมภิรมย์จนสมใจ
แล้วจากไปตามวิถีแห่งลีลา
๏ มิอาจสร้างปราสาททรายริมชายน้ำ
อันงดงามด้วยมากล้ำคำเสน่หา
หากวันใดได้ทลายชายคลื่นพา
สายธาราผสานสมกับลมลวง
๏ รักมลายเลือนลาอีกคราหนึ่ง
คงเกินซึ่งใจรับกับหนักหน่วง
ด้วยอ่อนไหวแห่งใจในห้วงทรวง
รักอย่าลวงอีกระลอกจักชอกช้ำ ๚ะ๛
เพลงเพียงสองเรา
20 ธันวาคม 2550 18:17 น.
ช่ออักษราลี
๏ รินหยาดฟ้าจากธาราทิพย์แดนสรวง
สู่ลำห้วงทิพย์พิมานสายธารฝัน
พจน์มาลามาร้อยคำเป็นกำนัล
แสงนวลจันทร์เป็นเงินยวงสู่ห้วงใจ
๏ วาดหยดหมึกบันทึกจารอันหวานกร่ำ
ฝากถ้อยคำล้ำพิศุทธิ์ผาดผุดใส
กลั่นน้ำค้างยอดพฤกษาหิมาลัย
เป็นน้ำใจหมายกอปรต่างตอบแทน
๏ พิณคีตากังสดาลบรรสานโลก
ลบรอยโศกร้างสร้อยถ้อยคำแสน
มาเคียงสู่เจตน์จิตมิตรทั่วแดน
ไทยทั่วแคว้นประสพสุขทุกข์จักคลาย
๏ นำรอยกาลมาจารจรดกำหนดใส่
ห้วงฤทัยไร้ขอบกฎกำหนดหมาย
ยังซึ้งคำน้ำใจรินไหลพราย
พรูเป็นสายหยาดฟ้ามาโลมใจ
๏ ยินมโหรีพิณปี่กรับสดับหู
เสียงซออู้แตรขับรับขานไหว
ตะวันล่วงช่วงบรรพกาลพ้นผ่านไป
รับปีใหม่ขลุ่ยบรรเลงบทเพรงกาล
สุขสันต์วันคริสต์มาส และสวัสดีวันปีใหม่ค่ะ
เพลงลาวคำหอม