13 กุมภาพันธ์ 2551 16:02 น.
ช่ออักษราลี
๏ ดุริยางค์เรไรใบไผ่พลิ้ว
สายลมลิ่วบรรเลงขับเพลงหวาน
จักจั่นร่ายเห่เสภากาล
กล่อมพิมานภพสมัยแห่งไมตรี
ผิวเพลงแผ่วแว่วหวานสะท้านแว่ว
กลางป่าแก้วซอไผ่อ้อไล้สี
ลำนำนกร่ายร้องก้องวนาลี
การะเวกเสกฤดีโอ้ปี่ไพร
มโหรีแห่งป่ากล่อมห้อมลมหนาว
รินแสงดาวพรายพริบระยิบไหว
ผสานโคมโสมฟ้าอ่าอำไพ
มาส่องใจสว่างงามท่ามไพรวัลย์
ยามลมหนาวพัดหายจากปลายฟ้า
ปวงดอกหญ้าทิ้งกายให้ไหวหวั่น
เมื่อลมหวนทวนคำมารำพัน
พิณดอกหญ้าเริ่มลั่นสนั่นเพลง
หอมเอยหอมบุหงาระดากลิ่น
หอมถวิลจนหอบใจไปคว้างเคว้ง
หอมโมกแก้วทิพย์มณฑามาวังเวง
จึ่งเชลงร้อยร่ำเป็นคำกรอง๚ะ๛
6 กุมภาพันธ์ 2551 18:29 น.
ช่ออักษราลี
๏ พักตร์นุชดุจรัมภาอุษาสวรรค์
ขนงดั่งเกาทัณฑ์แรมจันทร์เสี้ยว
พริบเนตรเฉกพลอยมาร้อยเรียว
โอษฐ์กระจับรับเกลียวกับเรียวทนต์
ลีลากรีดกรายละม้ายหงส์
โฉมยงแย้มสรวลฉ่ำอวลฝน
บทมาลย์ปานกลีบจีบอุบล
เยื้องยุคลยาตรายามคลาไคล
พิศนลาฏมาสแม้นดั่งวงแข
ศกแลระยับจับนิลถวิลให้
พจน์เสนาะดุจเสกการะเวกไพร
ในม่านใจหทัยพิศสฤทธิ์งาม
โฉมประจักษ์ลักขณาสง่าศรี
กัลยาณีตรีภพจบโลกสาม
สถิตอยู่ดาวดึงส์คะนึงนาม
ทิวาหวามวามจันทราสุขาวดี
หอมเอยหอมกว่าผกาไหน
ใสเอยใสกว่าหยาดอมฤตใดในสรวงนี้
เรียงร้อยสร้อยรัตนะอัญมณี
สวมศอเทวีมณีใจ
สถิตแดนดาวใดในสรวงสวรรค์
ฤาสถิตกลางไพรสัณฑ์หิมพานต์ไหน
วอนนุชแม่สถิตสู่ฤชุใจ
ห้วงหทัยของกระต่ายที่หมายจันทร์ ๚ะ๛
4 กุมภาพันธ์ 2551 12:53 น.
ช่ออักษราลี
๏ พิศสไบผืนทองต้องประจักษ์
นิราศรักแรมไกลให้ถวิล
แก้วกำสรดสลดทรวงดวงชีวิน
ยามประทิ่นโชยกลิ่นซาบอาบสไบ
ของกำนัลจากจอมขวัญนั้นให้น้อง
แพรผืนทองลายพิกุลละมุนใส
หอมกลิ่นร่ำกำซ่านขจายไป
ถนอมใยสายรักที่ถักทอ
ยามพิกุลโรยร่างพร่างจากต้น
ชำแรกตนสู่ดานดินสิ้นซากหนอ
เมื่อพี่ร้างห่างรักจักชะลอ
ดอกก็ท้อแตะพื้นทุกหมื่นไป
ฤารักเรียมหอมกรุ่นปานพิกุลโศก
โชยกลิ่นโชกทรวงซ่านแต่ลาญไหว
รวยรินมาดั่งพร่ำคำอาลัย
สะท้านใจสไบนางหมางราคิน ๚ะ
2 กุมภาพันธ์ 2551 03:35 น.
ช่ออักษราลี
๏ ด้วยแรงแห่งรักจากปีกนก
จะผกผินบินทะยานม่านเวหา
คลอเคล้าแสงวาวดาวดารา
เคียงคู่ฟ้าคู่ขวัญนิรันดร์ไป
ปีกรักจะถักทอเป็นสายฝัน
นำวสันต์ร่วงพรูสู่ใบไม้
ให้ผลิช่อหอมหวานกล่อมก้านใบ
งามวิไลดั่งใจสองครองคู่กาล
สายสวาทขาดสายมิวายสิ้น
รักโบยบินสู่ฟ้าไกลกว้างไพศาล
ฝ่าปุยหมอกแมกไม้พันสายธาร
ลำนำรักหวานซ่านทรวงร้อยห่วงใจ
จักสวมสร้อยสังวาลม่านจันทร์ฉาย
แซมดาวรายพรายพริบระยิบไหว
รักเราสองต้องสุขสมภิรมย์ฤทัย
ด้วยบ่วงใยปีกรักภักดิ์นิรันดร์
กรีดกรายฟ้อนนาฏย ณ เพ็ญโฉม
ขิมประโคมบรรเลงเพลงสวรรค์
เบิกม่านฟ้าพราวพร้อยสร้อยแสงจันทร์
จักกล่อมขวัญรักผ่านวิมานดาว๚ะ๛
ตะวันเอยทอแสงมาแรงลุ่ม
สายหมอกคลุมร้อนควันด้วยม่านหลง
โหมพิษรักกระหวัดย้อนผ่อนบรรจง
จิตพะวงพร่ำหาห่วงอาทร
ปีกแห่งรักสลักถ้อยในรอยภักดิ์
ซึ้งประจักษ์จึ่งจารจดบทอักษร
ร้อยหทัยไขขานเป็นกานท์กลอน
อันสุนทรอ่อนหวานเพื่ออ่านกัน