29 ธันวาคม 2553 13:16 น.
ช่ออักษราลี
๏ ขอปีกรักถักใจให้หวานชื่น
แม้นแรมคืนกลับสกาวราวอุษา
โบยบินไปในแสงแห่งศรัทธา
หมายเก็บค่าสักดาวให้วาววรรณ
๏ เถิด,จงเก็บเหน็บหนาวซ่อนร้าวไว้
ล้วนอยู่ภายหัวใจมากใฝ่ฝัน
สยายปีกโบกไปในนิรันดร์
กล้าประจัญฝน,ลมพรมผิวกาย
๏ ท่ามสายกาลเร่งรุดหยุดสักครู่
มองเช้าตรู่รังรองขลิบทองฉาย
กลางฟ้านั่นเกิดมณีที่แพรวพราย
แผ่ประกายก่องเก็จ เพชรกวี
๏ รู้ถนอมมณีโรจน์ที่โชติช่วง
ปีกฝันร่วงใครสลักวรรควิถี
แล้วสักวันปีกนับร้อยถ้อยไมตรี
กางปีกนี้ยืดยาวขาวสะคราญ
๏ ขอปีกรักนำไปในดิถี
ณ ถิ่นที่ทางดาวพาดพราวผ่าน
ทางช้างเผือก หวังวาดอาจตระการ
ร่วมจรดจารผ่านฟ้าค่าวลี ๚ะ๛
24 สิงหาคม 2553 19:10 น.
ช่ออักษราลี
๏ ยามสุรีย์เคลื่อนคล้อยลอยดวงลับ
ดาววิบวับม่านราตรีก็คลี่เผย
ภายเวหาสแสงจันทร์ฝันชิดเชย
อกพี่เอยโอบอุ่นกรุ่นฤดี
๏ ลมรำเพยเชยหอมพะยอมเจ้า
คอยยั่วเย้าเคลียคลอพะนอศรี
เมื่อต้องมนตร์สิเนหาวราลี
รักระรี้ลอยล่วงผ่านห้วงกาล
๏ในอ้อมกอดแสงจันทร์ฝันอบอุ่น
จุมพิตอันละมุนละไมหวาน
อากาศแทนหอห้องผ่องพิมาน
รัตติกาลสิเนหาคืนอาลัย
๏ แสนเสียดายต้องกำจรก่อนอุษา
แล้วจักมาเติมขวัญในวันใหม่
ตราบจันทร์ฉายส่องหล้าฟ้าอำไพ
สองดวงใจผูกพันนิรันดร ๚ะ๛
21 สิงหาคม 2553 11:44 น.
ช่ออักษราลี
ฉันพบเธอวันโศกโลกแตกดับ
พระอาทิตย์หายลับจากขอบฟ้า
แล้ววันหนึ่งฉันฟื้นตื่นขึ้นมา
ก็พบเทพเทวายังปรานี
เธอเป็นแสงแรกอุ่นอรุณฉาย
ค่อยไล่หนาวเหน็บกายคลายหมองศรี
ใจละลายด้วยแสงแห่งความดี
หทัยที่โชนช่วงด้วยห่วงใย
ฉันหลุดพ้นอาดูรเคยสูญสิ้น
ไม่ถวิลไม่หวังยังสิ่งไหน
จับมือเธอร่วมเผชิญเดินก้าวไป
แม้นจะไกลก็พ้นอนธการ
คืออ้อมใจอ้อมขวัญอันอบอุ่น
คือฟากฝันละมุนละไมหวาน
คือสายใยเอื้อขวัญนิรันดร์กาล
คือรอยจารแห่งรักสลักใจ
21 สิงหาคม 2553 05:40 น.
ช่ออักษราลี
หยดฝนแต้มฝันเช้าวันนี้
ทอหยาดกวีหากมีค่า
ลมเช้าหอมโชยจนโรยรา
ไม่ร้างจินตนาคราไร้ลม
นั่น! หมู่แมกไม้ใฝ่ผลิช่อ
เคลื่อนกายเติมต่อพะนอสม
นี่! ซอกดวงใจไยอับจม
ทับถมซากรักปรักพัง
นกน้อยหลงฟ้าพนากว้าง
เวิ้งว้างเวหนกลางฝนหลั่ง
วิเวกผ่านฟ้ามาประดัง
หยุดยังใจคนวนอาลัย
หยดฝนแต้มฝันเช้าวันนี้
ทอทาบฤดีที่หวั่นไหว
คิดถึงคิดถึงคะนึงใคร
เคลื่อนนัยแห่งเช้าคลอเคล้าชล
8 สิงหาคม 2553 02:35 น.
ช่ออักษราลี
มะลิน้อยค่อยบรรจงวางตรงตัก
เปี่ยมความรักดวงใจมีให้แม่
จะต่ำศักดิ์, สูงส่ง, คงดูแล
รักของแม่สูงค่ากว่าสิ่งใด
แรกเกิดในอ้อมอุ่นบุญลูกแล้ว
ชีวิตแพร้วพิสุทธิ์หยุดหวั่นไหว
สัมผัสแรกสัมผัสรักจำหลักใจ
สร้างสายใยผูกพันนิรันดร
สองมือแม่ประคองให้ลองก้าว
ทุกเรื่องราวหากถลำแม่พร่ำสอน
เฝ้าชี้แนะแนวทางอย่างอาทร
ยามกิน, นอน, ยังห่วงใยในลูกรัก
แม่กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูคือครูคนแรก
ช่วยจำแนกชั่วดีชี้ประจักษ์
ยามหนาวร้อนผ่อนคลายมิหน่ายนัก
เพียงลูกรักเป็นสุขทุกเวลา
พระคุณนี้ยิ่งใหญ่กว้างไพศาล
เกินกำหนดจดจารผ่านแผ่นผา
กอปรทะเลแทนหยดหมึกบันทึกฟ้า
เขียนคำว่า รักแม่ อย่างแน่นอน
มะลิน้อยค่อยวางลงกราบตรงตัก
พร้อมสลักดวงใจไม่ถ่ายถอน
แทนคำรักมากล้ำอำนวยพร
ให้แม่สุขสโมสรทุกข์ผ่อนคลาย.
**********************************
กลอนวันแม่
มะลิน้อยค่อยบรรจงวางตรงตัก
เปี่ยมความรักดวงใจมีให้แม่
จะต่ำศักดิ์, สูงส่ง, คงดูแล
รักจริงแท้สูงค่ากว่าสิ่งใด
แรกเกิดในอ้อมอุ่นบุญลูกแล้ว
ชีวิตแพร้วพิสุทธิ์หยุดหวั่นไหว
สัมผัสแรกสัมผัสรักจำหลักใจ
สร้างสายใยผูกพันนิรันดร
สองมือแม่ประคองให้ลองก้าว
ทุกเรื่องราวหากถลำแม่พร่ำสอน
เฝ้าชี้แนะแนวทางอย่างอาทร
ยามกิน, นอน, ยังห่วงใยในลูกรัก
แม่กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูคือครูคนแรก
ช่วยจำแนกชั่วดีชี้ประจักษ์
ยามหนาวร้อนผ่อนคลายมิหน่ายนัก
แม้นการหนักให้ลูกสุขทุกเวลา
*********************************
กลอนวันพ่อ
คำพ่อนี้มีความหมายมากมายนัก
คือสายใยแห่งรักมาแต่ต้น
จากกำเนิดจนเติบใหญ่ในตัวตน
ก็ไม่พ้นอกพ่อนั้นจวบวันตาย
ไม่มีพ่อไม่มีชีวิตหนึ่ง
เพื่อมารู้คำลึกซึ้งถึงความหมาย
เพื่อมารู้คำว่าให้ทั้งใจกาย
เพื่อมารู้คำว่าสายใยชีวิต
แม้นคำน้อยไม่เคยได้เอ่ยปาก
ว่ารักมากรักลูกผูกดวงจิต
เพียงสัมผัสแววอาทรก็ผ่อนพิษ
ทุกถูก-ผิด ท่านชี้นำทำเพื่อเรา
ไม่เพียงแต่วันพ่อขอระลึก
ใจตรองตรึกทุกหนจนแก่เฒ่า
กตัญญูต่อบิดามานานเนา
เป็นแบบอย่างเด็กวัยเยาว์เฝ้าทำตาม