4 มกราคม 2549 12:32 น.
ช่อมะไฟ
กะล่อนหลอกร้อยเล่ห์............มารยา
หลงกิเลสตัณหา...................เร่าร้อน
ระริกระรี้พา.........................จิตหม่น
โกหกตอแหลซ้อน................ทับด้วยกลลวง
สำแดงเดชฤทธิ์ด้วย.............เรือนกาย
ยวนยั่วเย้าผู้ชาย..................แปลกหน้า
เสพสังวาสใจหมาย..............สมสู่
ระริกระรี้กล้า.......................ลูบไล้โลกีย์
พอความจริงเปิดอ้า..............กลับกลัว
ราคะจับตามตัว....................เกาะไว้
ราคีติดหมองมัว...................เปื้อนเปราะ
หากแต่แกล้งร่ำไห้................แค่ใช้น้ำตา
จึงตอแหลโป้ปด..................ว่าฉัน
มีแต่คุณค่าอัน.....................เลิศล้ำ
เหนือผู้อื่นในโลกันต์...........สูงค่า
ชาวประชาต่างย้ำ................ว่าไร้เดียงสา
22 กันยายน 2548 12:50 น.
ช่อมะไฟ
ฉันยอมพลีร่างพร้อม.........ยอมถวาย
ทั้งฤดีและกาย....................หมดสิ้น
ขอเป็นทาสจนตาย............เพียงเพื่อ
ขออย่าได้ปล้อนปลิ้น.........พลิกลิ้นหลอกลวง
มาวันนี้มีเพียงฉัน
คงค้างฝันอันโหยหา
เปลี่ยวกายยามนิทรา
มันเหว่ว้าจนเพ้อพก
มองดูร่างเปลือยเปล่า
สะท้องเงาในกระจก
มิหวาดหวั่นวิตก
ทั้งเนินอกไม่รองใคร
อกอิ่มเขาเคยลูบ
บรรจงจูบจนสั่นไหว
เคลอเคล้ามิห่างไกล
ระรื่นไฟในอารมณ์
อิงแอบเนื้อแนบเนื้อ
ดั่งสุมเชื้อเพลิงสุขสม
ลืมความเจ็บระบม
แค่ภิรมย์สมอุรา
หลงไหลไฟสวาท
เสพสังวาสเสน่หา
เกลือกกลั้วมั่วกามา
เริงโลกีย์พลีทั้งใจ
พรหมจรรย์มอบให้...........เขาไป
หวังจะเหลือเยื่อใย.............สวาทบ้าง
กระทั่งแม้หัวใจ.................เพื่อรัก
เหลือแค่ความอ้างว้าง........เจ็บร้าวเดียวดาย
5 กรกฎาคม 2548 16:52 น.
ช่อมะไฟ
หลงเทิดทูนบูชา
ในวาจาอันแสนหวาน
เคลิบเคล้มตรึงดวงมาน
ประสบการณ์ห่างชั้นเชิง
ยกย่องว่าสูงส่ง
เปรียบดังหงส์หลงระเริง
จิตเตลิดเปิดเปิง
ลงกองเพลิงเริงโลกีย์
พลีกายถวายหัว
เอาเนื้อตัวกลั้วราคี
เปลือยกายเปลือยฤดี
พรหมจารีย์ฉีกกระจาย
ความรักหรือความใคร่
แต่หัวใจหิวกระหาย
สวาทมิคลาดคลาย
ใช้ร่างกายกลั้วกามา
บุปผาแย้มกลีบยวน
ดั่งเชื้อชวนภุมรา
เกสรสวยบาดตา
มีหรือว่าจะรั้งรอ
โลมเลียและเกาะกิน
ละเลงลิ้นลามทั้งช่อ
หวานล้ำฉ่ำลำคอ
จนเพียงพอแล้วบินหนี
สูญเสียสิ้นความสาว
ความรวดร้าวเข้าแทนที่
กระเขาทำซ้ำย่ำยี
หมดราศีมิเหลือเลย
ผ่านกันอีกกี่คน
จะยอมทนหรือนิ่งเฉย
หรือผ่านแล้วผ่านเลย
เซ่นสังเวยจนเคยชิน
20 มิถุนายน 2548 13:36 น.
ช่อมะไฟ
เพราะว่าเบื่อพวกแสดงว่าแกล้งโง่
ทำอดโซเหมือนจิ้งจอกมาหลอกถาม
อยากได้ข่าวฉาวโฉ่เพื่อโอ่ความ
แล้วเหยียดหยามย่ำยีค่าราคาคน
อย่าเลยนะอย่าหาความทำงี่เง่า
หยิบความเศร้าหยุดแหย่แส่สักหน
ใจที่เจ็บมันช้ำต้องจำทน
จงหยุดพ่นหยุดด่าบ้าน้ำลาย
ไปหลอกเด็กไป๊..ไปให้เสียที
หรือความดีในตัวตนทำหล่นหล่นหาย
ความชั่วช้าคลุมงำเป็นอสุรกาย
นางมารร้ายฉากหน้าเห็นเป็นเทพี
คิดว่าตัวเก่งกาจฉลาดล้ำ
สิ่งที่ทำชั่วช้าน่าบัดสี
แกล้งปัดป้องเรื่องฉาวคาวโลกีย์
ยกความดีใส่ตัวมิกลัวเวร
คำนินทาตามวิสัยใจผู้หญิง
บ้างเกินจริงไปบ้างอย่างที่เห็น
ฉันก็คือสตรีเหมือนคุณเป็น
หรืออยากเด่นกว่าใครหรือไงกัน
เรื่องอับอายของตนยังพ่นพูด
เที่ยวไปปูดปากพล่อยบ่อยบ่อยนั่น
ความโสมมถมทับทรวงดวงชีวัน
จีงเสกสรรน่าอดสูว่ารู้จริง
31 พฤษภาคม 2548 08:39 น.
ช่อมะไฟ
มีเรื่องหนึ่งสงสัยใคร่อยากรู้
อ่านกลอนดูตัวฉันพลันสงสัย
หนุ่มหน้ามนคนอักษรบ้านกลอนไทย
ว่าคนไหนเจ้าชู้อยากรู้จัง
เรียงลำดับความเจ้าชู้ดูสักหน่อย
ผู้ใดร้อยวลีมีมนต์ขลัง
หามิได้หยามหมิ่นหรือชิงชัง
วอนมิตรตั้งรายนามตามความจริง