20 กันยายน 2550 20:23 น.
ชีวินมธุรา
ยามเมื่อฝน พรมโปรย จากฟากฟ้า
พสุธา เย็นชื่น ธาราใส
มวลบุปผา มาลี งามวิไล
ดอกไม้ใบ ผลิบาน ตามฤดู
หยดหยาดน้ำ พร่างพราย งามระยับ
ต้องแสงจับ วาววับ งามสุดหรู
ส่องประกาย เป็นระยิบ ลงมาสู่
เรียงรายลู่ ชวนชม สุขสมจริง
เปรียบความรัก ดังฝน ดลบันดาล
หัวใจพลัน อบอุ่น ได้พึ่งพิง
สองเราใกล้ เชยชิด แอบแนบอิง
เลิศล้นยิ่ง ปรี่เปรม เต็มฤทัย
หยาดฝนรัก รินรด ใจกระจ่าง
ดังส่องทาง ก้าวเดิน ที่สดใส
ฉันจะคอย ถนอมรัก ด้วยดวงใจ
เพียงเธอไม่ ห่างรัก นับว่าพอ
**********
ชีวินมธุรา
20 กันยายน 2550 10:15 น.
ชีวินมธุรา
กระจกอัน วิเศษ
บอกถึงเลศ นัยนา
โฉมงาม เฝ้ามองหา
ใบหน้านวล งามสุดดี
กระจก บอกข้าเถิด
ข้างามเลิศ ในปฐพี
สาวใด ในโลกนี้
หรือมีที่ เทียบเทียมทัน
ชายใด จะเป็นคู่
ข้าอยากรู้ รีบบอกพลัน
สง่า งามคมสัน
เป็นชายชาญ หรืออย่างไร
ข้านี้ สุขฤทัย
ผิดหวังให้ ข้าสงสัย
เขานั้น อยู่หนใด
ใกล้หรือไกล ตั้งตารอ
หัวใจ เริ่มสดใส
รักดลใจ เคลียเคล้าคลอ
เป็นไป ได้ชอบพอ
ชายรูปหล่อ กระจกเงา
ยังมี อีกหนึ่งเล่า
มิได้กล่าว ให้ข้าฟัง
ชายหนุ่ม ไร้จริงจัง
มุ่งแต่หวัง คอยเชยชม
ผิดหวัง ในเรื่องคู่
ข้าพร่างพรู แสนระทม
กระจก เจ้ามิคม
หลอกข้าสม ร้างแรมไกล
แต่นี้ ครั้งต่อไป
ข้าคงไม่ หลงลมชาย
หทัย แทบสลาย
กระจกใด ไม่ยินยล
*************
ชีวินมธุรา
19 กันยายน 2550 22:10 น.
ชีวินมธุรา
แสงดาวเดือน เลื่อมพราย ประกายแสง
ประชันแข่ง ดังประทีป เรียงเป็นสาย
ค่ำคืนนี้ ตัวฉัน ช่างเดียวดาย
คนที่หมาย กลับกลาย ไม่หวนคืน
ดวงดาวเอ๋ย เจ้าเคย เหงาบ้างไหม
จำร้างไกล เหห่าง ยากทนฝืน
เขาจากไป กายสะท้าน ล้มทั้งยืน
ช่างหยิบยื่น ความเจ็บ แปลบข้างใน
ใคร่อยากถาม เขาคนนั้น ที่เคยรัก
มอบใจภัก- ดีให้ ไม่หวั่นไหว
แล้วเขากลับ ตัดรอน รานน้ำใจ
แทบละลาย ยามเขาบอก เราเลิกกัน
ไม่หวลคิด ถึงอดีต ที่แสนหวาน
สุขมิปาน ใดเทียบ เธอกับฉัน
มาบัดนี้ แปรไป อย่างไรกัน
ตัวฉันนั้น ให้ฉงน สนเท่ห์นัย
ฉันไม่สวย ฉันไม่รวย ไม่อ่อนหวาน
ไม่ชำนาญ เชิงรัก หรือไฉน
ใครก็ได้ ตอบฉันที ด้วยเหตุใด
รักนี้ไซร้ ใยจำต้อง เศร้าโศกตรม
แสงดาวเดือน เลื่อนลับ ดับลงแล้ว
ต้องคลาดแคล้ว จากลา พาขื่นขม
ขอให้เขา โชคดี มีคู่ชม
ให้สุขสม ด้วยรัก และหวังดี
********
ชีวินมธุรา
19 กันยายน 2550 22:05 น.
ชีวินมธุรา
ฝากสายลม เสียงกระซิบ ผ่านภูผา
ล่องลอยพา ความรัก จากใจฉัน
ส่งถึงเธอ ที่ห่างไกล ให้ผูกพัน
ว่าฉันนั้น คิดถึงเธอ ไม่รู้คลาย
ขอฝากใจ ดวงน้อย ที่คอยรัก
สุดจะหัก ห้ามจิต ใฝ่ถวิล
มอบแด่เธอ มอบให้ ทั้งชีวิน
มิสุดสิ้น ตราบจน โลกมลาย
วอนสายลม พรมพริ้ว ลิ่วเลื่อนไหว
ส่งความหมาย ความห่วงหา อาทรถึง
ช่วยโลมไล้ แผ่วผิว นวดคลายคลึง
ให้เธอพึง พบแต่สุข ทุกข์ละลาย
ให้ดอกหญ้า สดสวย กลางทุ่งกว้าง
ใสกระจ่าง แทนความหวาน ที่มีให้
เธอได้ยล เพลินพิศ สนิทใน
รักเธอไซร้ รักแน่ ไม่เปลี่ยนแปลง
***********
ชีวินมธุรา
19 กันยายน 2550 22:01 น.
ชีวินมธุรา
โกโบริ หนุ่มน้อย จากเมืองหลวง
ได้ลุล่วง ถึงเมืองไทย ใจสุขสันต์
ทำหน้าที่ ทหารกล้า ในครานั้น
ดุจดั่งฝัน ได้ประสบ พบกับเธอ
อังศุมา- ลินสาว เยาว์แรกแย้ม
เหน็บดอกแซม มวยผม สมเสมอ
เธอบรรเลง เพลงขิม ชวนละเมอ
ชวนให้เพ้อ ใหลหลง ให้งงงัน
ต้นลำพู ต้นใหญ่ ใกล้ริมน้ำ
หิ่งห้อยรำ เริงร่า บินผกผัน
หลายร้อยตัว ร่อนเวียนวน คละเคล้ากัน
สุดจำนรรจ์ บรรยาย ถึงความงาม
สองหนุ่มสาว พราวกระซิบ ใต้ร่มไม้
สองดวงใจ ชิดใกล้ ไร้คำถาม
มิขอห่าง นวลน้อง ทุกโมงยาม
พี่บอกความ ในใจ เจ้าได้ยิน
แม้แตกต่าง เชื้อชาติ ใช่ปราศรัก
พี่ขอพัก หัวใจ ใฝ่ถวิล
แด่สาวไทย นามอัง- ศุมาลิน
ใช่เล่นลิ้น จวบสิ้น ชีวาวาย
แรกพบเขา เกลียดเขา โกโบริ
กาลเวลา ผ่านไป เริ่มสงสัย
รักเขาแล้ว จริงจัง หรืออย่างไร
ในฤทัย ข้องขัด ไม่ชัดเจน
วันเวลาแห่ง การพราก มาถึงแล้ว
จำต้องแคล้ว จากจร ที่สามเสน
ระเบิดดัง ไปไกล ทั้งยามเย็น
ดอนกระเด็น ท่วมทับ กายยับเยิน
หวั่นวิตก ตามหา เธออยู่ไหน
น้ำตาไหล ใจท่วมทับ ราวดับสูญ
รู้สึกตน รักเขา นั้นเพิ่มพูน
แสนอาดูร วันเวลา ผันผ่านไป
เรื่องเล่านี้ ผ่านพ้น เนิ่นนานนัก
ตำนานรัก ทั้งสอง ไม่หลับไหล
ส่องสะท้อน ความรัก แม้จากไกล
ฟากฟ้าไกล ให้ดวงดาว เป็นพยาน
**********
ชีวินมธุรา