27 กันยายน 2545 12:01 น.
ชาวหาดวาดกวี
คุณนะคุณ เขียนในอีเมลล์นัดกันว่า
ไปเจอกันหน้าสถานพินิจฯก่อนสิบโมงนิดหน่อย
ฉันก็กลัวว่า คุณน่ะ จะต้องเสียเวลาคอย
อีกชวนเพื่อนติดสอยห้อยกันไปให้ครึกครื้น
ไปถึงแล้วสิบโมงตรงเวลาเป๊ะๆ
วาลลารี่ยืนเต๊ะรออยู่ก่อนยิ้มระรื่น
ฉันสงสัยครามครันทำไมไม่เห็นมีคนอื่นๆ
มารอยืนอย่างที่นัดกัน แหม..นัดสำคัญอย่างนี้
ประตูด้านหน้าล็อคแน่นหนาและปลอดภัย
วาล กดออดเสียงใสบอกไปว่ามาชมสถานที่
ยามกดเปิดประตูอัตโนมัติเปิดให้เข้าทันที
เชิญสุภาพสตรีสามนางนั่งรอคุณครูผู้ประสาน
รอนานจนต้องมองนาฬิกา...เลยนัดมาสิบนาที
รอต่อไปอีกห้านาที ชักเอะใจ ไม่เห็นจารย์
เจ้าหน้าที่เปิดช่องออกมาบอกว่ารอไม่นาน
เดี๋ยวจารย์ก็มาแล้ว รอ อีกนิด
ก็สงสัยเกิดอะไรทำไมคุณถึงมาสาย
เจ้าหน้าที่รายงานต่อไม่ให้คิด
อ๋อ เค้าบอกว่ารถก็ไม่ได้ติด
แต่เส้นทางผิดครับ ...ผมหลงทาง...จะรีบมาเร็วพลัน
ว้า...คุณเฉิ่ม ตาเฉิ่มคนนี้ น่าตีจริงๆ
เป็นผู้ประสานงานแท้ๆ แถมเมืองเล็กอย่างนั้น
นัดมาเจอกันก็เป็นตอนกลางวัน
แต่ก็ดันหลงทางเสียนี่ ช่างน่าอายแทน
มาแล้ว เริ่มแนะนำตัว กับนาโอโกะและวาล
ฉันยืนยิ้มหวานเมื่อคุณเอ่ยชื่ออย่างจำได้แม่น
ลุกขึ้นยืนทักทายตอบบ้าง ก่อนเริ่มแพลน
ทุกคนจิตใจโลดแล่น เริ่มเดินดูสถานที่ด้วยกัน.
26 กันยายน 2545 12:58 น.
ชาวหาดวาดกวี
นัดกับคุณช่างสำคัญ ฉันนัดจะเจอคุณ
อีกทีอีกครั้ง อยากจะคุยเป็นงานเป็นการ
จะเวิ้คอย่างไรก็ต้องแล้วแต่เหตุการณ์
จะจบจะสืบสานรึผ่านเลยก็ช่างมัน
นัดกับคุณ...กับคนอื่น คนนอกเหตุการณ์
เพราะฉันรับรู้ว่าสองเราในโลกนี้เท่านั้น
จะเปิดตำนานรักร่วมแรงสร้างสรรค์
เขียนความฝันให้เยาวชนผู้เปี่ยมพลัง
สำคัญนักนะนัดครั้งนี้ เธอควรรู้
หลายคนคอยเฝ้าดูอยากรู้กันจัง
จะเป็นอย่างไรนะโครงการปลูกฝัง
แรงบันดาลใจใหม่ให้คิด...ให้เขียนเป็น
สิบโมงเช้าเราจะไปเจอ..ต้องเจอจริงๆแล้ว
จะเดินลัดสนามหญ้าไปรอ อูยยย..อากาศเริ่มเย็น
หมอกจางคลำทางไปเหมือนเดินเล่น
ต้องระวังไม่ให้เป็น....หวัด...งอมแงม
จะต้องไปนอนแล้ว ถนอมแรงและดวงตา
ตื่นขึ้นมาจะได้สดใสสดชื่นใบหน้ารื่นรมย์
ยามเช้าจำต้องแต่งตัวสะอาดน่าชม
ไปยืนตา-กลม หน้าสถานพินิจฯ... (มีต่อ)
26 กันยายน 2545 12:28 น.
ชาวหาดวาดกวี
โอ้...กรรไกร
ลิดรอนกิ่งใบก้านเฉา
ตัดแต่งแบ่งต้นสุขจากเศร้า
คมเงาที่เฝ้าดูแลใจ
ใบอ่อน...
แทรกกายอายเอียง
ดื่มน้ำหล่อเลี้ยง
วันผ่านเบ่งบานช่อใจ
โอ้...กรรไกร
ฉันใดจะตัดด้ายบาง
ดึงใจสองดวงเหินห่าง
อ้างว้างระยะทางระหว่างใจ
ใจอ่อน...
รวดร้าวคราวออกแรงดึง
อยากให้รักร้อยตราตรึง
ยามคิดถึงอีกฝั่งดวงใจ
กรรไกร...
ส่งให้เธอใช้บ้าง
ตัดเสียหนึ่งอย่าง
แล้ววางหัวใจให้สบาย.
13 กันยายน 2545 11:50 น.
ชาวหาดวาดกวี
พบกันหน้าลิฟต์ ...ในลิฟต์อีกทีไม่ทันสบตา
เธอมัวแต่ก้มหน้า ก้มตา ฉันเก็บสายตาไม่ทัน
รอว่าเมื่อไรเธอจะมองมาทางนี้ ที่มีฉัน
รอถึงชั้นสาม อ้าว...เธอต้องไปแล้วเหรอ
คนอะไรน่ารักจัง อยู่มานานเพิ่งจะเจอ
แรกคิดว่าเธอสอนคณิตศาสตร์ ศาสตร์น่าเวียนหัว
เดาไปเดามา....เอ่อ...เรียนวิชานี้น่ากลัว
เลขเต็มหัว...เป็นเด็กเรียนล่ะสิจารย์
ตอนบ่ายๆฉันง่วงนอน แวบไปเปิดเมลล์อ่าน
เจออาจารย์โพสต์มีจักรยานภูเขาจะให้
สำหรับนักศึกษาที่ต้องการจักรยานแต่ยากไร้
รีบมาเก็บมันไปสิครับจอดพิงอยู่หน้าห้อง
อืมมม...ยี่ห้อดีแต่คงต้องซ่อมก่อนขี่ท่อง
แต่ก็ไม่ต้องจ่ายเงินเนี่ยสิที่เราชอบ
ว่าแล้วก็อีเมลล์บอกอาจารย์ในจดหมายตอบ
ว่ามีใครมาหอบจักรยานไปหรือยัง คะจารย์
อาจารย์บอกว่ายังหรอก (ทั้งที่ประกาศไปหนึ่งสัปดาห์ผ่าน)
ฉันยิ้มหน้าบานรอไปยลโฉมเจ้าเหล็กภูเขา
ทั้งรู้ว่าอาจารย์เป็นกวีมาบรรจุสอนแทนกวีเก่า
เราก็อยากไปทำความรู้จัก...ก็เราเห่อว่าเป็นกวี
บอกว่ามาดูจักรยานสิ บ่ายกว่าๆนะห้องเบอร์นั้นนี้
เราก็รีบรี่มาไม่ให้ผู้ใหญ่รอนาน...
มาถึงห้องเปิดแต่ไม่มีคนอยู่แต่กระดาษแปะไว้ให้อ่าน
บีไร้ท์แบ็ค อาจารย์เขียนไว้...อืมม รออีกหน่อย
กลับมาอีกทีห้านาทีเคลื่อนคล้อย
เคาะประตูค่อยๆ ก็อกๆ เฮลโล่ เฮลโล่
มีเสียงกุกกัก ประตูเปิดพลั่ก เกือบคมำหน้าโผล่
เห็นหน้าจารย์แล้ว โอ้.....มายกู้ดเนส อิส ยู นั่นเอง.
18 สิงหาคม 2545 11:01 น.
ชาวหาดวาดกวี
ละอองจันทร์
ที่เคยฝันเมื่อวันวัยอ่อน
นวลและอบอุ่นข้างหมอน
แสงหรือสัมผัสนะที่จับใจ
ละอองจันทร์
ที่ได้ยลในผลึกแก้วใส
กระจิดริดเพ่งพิศผิดวิสัย
ดวงจันทร์ไม่งามตามตำนาน
ละอองจันทร์
ที่จากลาดวงฟ้าแววหวาน
เทาหม่นแซมประกายแก้วกาฬ
ไร้รูปที่ลวงดวงตา.