๑)นิราศล่องลดเลี้ยวท่องเที่ยวเขา- พระวิหารกันดารถิ่นฐานเรา เสียให้เขาครั้งสิบสี่สุดพอเพียง ๒)ฝรั่งเศสชักใยอยู่เบื้องหลัง รับคำสั่งศาลโลกตกลงเสียง เก้าต่อสามถูกหามออกน็อกคาเตียง แพ้พี่เลี้ยงน้ำท่วมปากยากต้านทาน ๓)สองพันห้าร้อยห้าตีตราไว้ อธิปไตยไทยสละ “เขาพระวิหาร” เรื่องเล่าบอกตอกย้ำเป็นตำนาน รุ่นลูกหลานจารจดเป็นบทเรียน ๔)ขวานทองไทยพสุธาเหลือเท่านี้ ใครอัปรีย์ยุแหย่แยกแปรเปลี่ยน ตาต่อตาฆ่าริปูผู้เบียดเบียน ไม่อยากเขียน......ขอรวบรัดตัดขึ้นภู ๕)เดินกินลมชมวิวดูทิวทัศน์ อัตคัดคนเคียงใกล้ใจอดสู เกิดหินตำคะมำล้มใครก้มดู ไร้โฉมตรูอยู่ข้างว้างกมล ๖)หนึ่งจุดห้ากิโลโอ้นานเนิ่น ต่อเท้าเดินจ้ำอ้าวเข้าถนน แดดร้อนอาบอบอ้าวก้าวขึ้นบน นิดเดียวพ้นลาดยาง...เหยียบลูกรัง ๗)ขึ้นกลุ่มแรกนำร่องไม่ต้องห่วง ไปตามดวง...คนกล้า..ช้าตามหลัง ฟิตกันหน่อยชมของนอกออกกำลัง ซากหักพังหวังยืนหยัดทัศนา ๘)เสียค่าด่านสามครั้งเขาร้องขอ ไทยสองต่อเพื่อดูแลและรักษา ที่เขมรขึ้นเขาค่าสายตา เบิกเงินตราเหมากลุ่มจ่ายท้ายขบวน ๙)เข้าเขมรมิรู้สึก...นึกสยาม กั้นเขตคามคลองน้ำนั้นผันผวน ยาวแค่วาสะพานข้าม เขต...ไม่ควร แผนที่ส่วนแบ่งขาดชาติเผ่าพงศ์ ๑๐)เห็นข้าวของทองหยองกองกลาดเกลื่อน กระซิบเตือนของย้อม ปลอม...อย่าหลง สร้อยทองคำกำไลน่าใส่องค์ อยากเงินปลงไร้คนฝากออกปากคราง ๑๑)เขาเดินปาดตัดหน้ามาเป็นคู่ เรามองดูไต่ตรองยิ่งหมองหมาง เทพอุ้มสมงมอยู่ไหนหนอทิศทาง นอนอ้างว้างทานแห้วท้อลิ้นคอพอง ๑๒) นิราศชมซากปราสาทเสื่อมสลาย ไม่ทักทายถึงคนรักจักเสียของ เสพสุราไร้กลับแกล้มจืดชืดลอง ครวญถึงน้องข้องขัดใจอย่าไอจาม ๑๓) เดินขึ้นเขาพระวิหารมีด่านตรวจ ไม่เข้มงวดปล่อยสบายมิไถ่ถาม อยากจะผ่านด่านตรวจใจทรามวัยงาม คงเกินสามสี่คูยุพาพิน ๑๔) บันไดชั้นขั้นก้าวลืมกล่าวนับ ขาแทบพับพยุงไต่บันไดหิน เดินเซซ้ายป่ายขวาไม่เคยชิน ชั่วโมงบินมีน้อยค่อยโคลงเคลง ๑๕) ถ้ามีน้องคล้องแขนชายคงหายเหนื่อย ไม่มีเฉื่อยแข้งขากระฉับกระเฉง เพื่อนร่วมกว้านชวนชื่นเสียงครื้นเครง พี่วังเวงขาดน้องสาวเหงาน่าดู ๑๖) เข้ากลุ่มใหญ่ถ่ายรูปที่ระลึก ค่อยรู้สึกคึกคักคลายอดสู ด้วยหล่อดีที่หนึ่งในตองอู ยืนยิ้มอยู่โดดเด่นเห็นไรฟัน ๑๗) พญานาคหรืองูดูเคร่งขรึม ใจคึกครึ้มของดีที่สร้างสรรค์ ดูเก่าจริงสิงหราชอัศจรรย์ ช่างเสกปั้นโอฬารตระการตา ๑๘)แค่บันไดด่านแรกรู้สึกหอบ แหม!ช่างกรอบเกือบหมดแรงเหยียดแข้งขา พักซักหน่อยนั่งกินลมพร้อมดมยา ถือภาษิตช้าช้าพร้าเล่มงาม ๑๙) เพื่อนโห่ฮาตะโกนไล่รีบไปต่อ มิย่อท้อแท้ใจในขวากหนาม โคปุระหลายชั้นกั้นเขตคาม ขืนรอยามสิทธิโชคตกรถเอย ๒๐) รวมกำลังเต็มถังท่อต่อก๊อกสอง ตาแลมองโดดเด่นเห็นเปิดเผย ดูธงชาติกัมพูชาไม่เสบย โอ้อกเอ๋ยเอ่ยลาฟ้าเมืองพุทธ ๒๑)พลัดถิ่นฐานบ้านช่องไร้น้องนาง เดินตามทางว้างกมลไร้คนฉุด แรงตกบ๊วยล้าหลังรีบเร่งรุด เข้าสู่จุดแรกโชว์ โคปุระ ๒๒) นับจากในไปนอกบอกชั้นห้า ประทับตราเกาะแกร์ศิลปะ เป็นเอกอุบูชาพระศิวะ เรียก “ศิขเรศวร”ไศวะนิกาย ๒๓)ศตวรรษที่เก้าเริ่มก่อสร้าง เลียนแบบอย่างเขาสุเมรุเน้นจุดขาย วัสดุอยู่ถิ่นแผ่นหินทราย แสนเสียดายปัจจุบันนั้นทรุดโทรม ๒๔)ถ้าพบรักสมัครใจให้ลุ่มหลง ขอยืนยงคงกระพันมั่นฉายโฉม ถ้าเหมือนซากเทวาลัยใจระทม คงเป็นลมล้มทั้งยืนยากฟื้นจิต ๒๕) ชีวิตเอื่อยเรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง ไร้คู่เคียงคนงามคอยตามติด วอนเทวาศิวะว่ามีฤทธิ์ บ่งบอกทิศเนื้อคู่อยู่คุ้มใด ๒๖) ชาวเขมรจับกลุ่มซุ่มอยู่บน หลายหลากคนสนเท่ห์ทำเคลื่อนไหว ประกบติดตัวเราเริ่มแปลกใจ ถึงบางอ้อเป็นไก๊ด์ฝ่ายต้อนรับ ๒๗) มัคคุเทศก์สาวรุ่นวุ่นวายอยู่ ไยโฉมตรูไม่ดูชายผ่านฉับฉับ ถ้ายุพามากับชายให้ล้มทับ เจ้าหายวับปานนินจาไม่เจอเงา ๒๙) มัคคุเทศก์หนุ่มเหน้าเข้าเชื้อเชิญ บอกว่าเดินคนละแห่งแหล่งขึ้นเขา กัมพูชาชันตั้งกว่าทางเรา ช่องทางเข้าสำคัญ“บันไดหัก” ๓๐) อุทานชื่อ คุณพระช่วย!ด้วยหวาดเสียว ใครยึดเหนี่ยวปีนป่ายชายเสียหลัก อยากโละทิ้งทำสร้างสะพานรัก เพื่อโยงชักเชื่อมใจส่งให้นวล ๓๑)เครื่องแต่งกายหลายชุดฉูดฉาดสี ดูไม่มีเอกลักษณ์หลักผันผวน ขาดคนรู้ดูแลแนะสิ่งควร ประทับใจลดหลายส่วนไม่สมบูรณ์ ๓๒) ทัศนียภาพข้างทางเดิน เพิ่มมาเกินหลายสิ่งยิ่งเสียศูนย์ ไร้คนสุมเศษขยะปฏิกูล ถมให้มูลมรดกดูปอนปอน ๓๓) ถนนแนวเหนือใต้ไต่เนินขึ้น วัดดูกึ๋นคนกล้าท้าสิงขร เห็นศาลาอยู่ข้างทางสัญจร ขอพักผ่อนดูดน้ำให้ฉ่ำทรวง ๓๔) ออกปากทักมัคคุเทศก์เขตปุจฉา บอก“ศาลาวัดใจ”ไม่ห้ามหวง หยุดชั่งใจไปหรือถอยที่วัดดวง ด้วยเป็นช่วงทางเริ่มชันขึ้นบรรพต ๓๕) เห็นคนรักพักจู๋จี๋มีหลายคู่ ตาพี่ดูหงอยเหงาเศร้าสลด อยากวัดผลการรักเพิ่มหรือลด แต่ต้องอดไร้ครูสอนทอดถอนใจ ๓๖) ตะวันออกศาลาเป็นสระสรง ชำระองค์พิธีกรรมทำผ่องใส ตามราศีสิบสองชั้นขั้นบันได เดี๋ยวนี้น้ำคล้ำไปให้ขุ่นคลั่ก ๓๗) ขอเนื้อเย็นเช่นน้ำอโนดาต ใสสะอาดน่าลอยคอขอสมัคร ถ้าใจดำดุจน้ำสระชอกช้ำนัก อาณาจักรแห่งความเหงาเข้าครอบงำ ๓๘) หนึ่งสองสามนับไม่เกินเดินด่วนจี๋ โคปุระชั้นสี่ดีคมขำ เป็นศาลาจัตุรมุขพิธีกรรม ตั้งปะรำเหลือหลุมไว้ให้ย้อนรอย ๓๙)ภาพเลือนรางแต่ปางบรรพ์นั้นผุดโผล่ เขาฟ้อนโชว์ลานถนนคนใช้สอย ขบวนแห่ร่ายรำหรูเลิศลอย เสพแดนดอยแว่วหวานละลานตา ๔๐)ภาพกลับตัดปัจจุบันฉันฝันเพ้อ มองไม่เจออัปสรซ่อนภูผา ถามพฤกษ์พรรณสั่นใบไม่นำพา เล่นซ่อนหาแห่งไหนหนอขอพานพบ ๔๑)เข้าด้านหน้าทางเดินอ้อมมิยอมผ่าน ตรงหน้าด่านโชว์สาวเราเจนจบ ลูกผู้ชายอกสามศอกเคยออกรบ ปั้นหน้ากลบเกลื่อนโสภีที่ชุมนุม ๔๒)น้องแขมร์มองมานัยน์ตายิ้ม เกือบหัวทิ่มตาสบตาขาตกหลุม เข่าอ่อนล้าจังหวะดีที่ควบคุม เกือบเสียชื่อชายหนุ่มคุ้มบัวงาม ๔๓)ไปกันต่อไม่ง้อใครชายคิขุ ฝ่าทะลุโคปุระแหล่งที่สาม เรียก“ปราสาท”มหึมาฉายานาม สวยอร่ามงามขลังนั่งเล็งพิศ ๔๔)กำแพงแก้วก่อรอบขอบเวียงวัง ซากหักพังยังคุณค่าสิ่งประดิษฐ์ การปกครองเปลี่ยนไปไร้บพิตร คำสั่งปิดซากโบราณไร้เหลียวแล ๔๕)มองถี่ถ้วนหวนรำพึงคิดถึงฉัน อกเดียวกันถูกเขาเขี่ยนอนเลียแผล ข่าวเร็วนี้บูรณะเขาเปลี่ยนแปร พี่ย่ำแย่ขาดคนซ่อมตรอมซ้ำฟก ๔๖)พิศหลายส่วนสมบูรณ์บุญได้เห็น ใจร่มเย็นเห็นฟ้าเมฆาปก มีหลายหลากมากเผชิญเกินหยิบยก ชื่นฉ่ำอกโชคใหญ่ใกล้เคลียคลอ ๔๗)โคปุระชั้นสองสอดส่องทั่ว เห็นที่ตัวปราสาทเสื่อมสึกหรอ เหลือรอยซากสู่สายตาคุ้มค่าพอ กำแพงก่อก่นทลายไปตามกาล ๔๘)อยากรู้แจ้งกำแพงใจในนงนุช หวังพังทรุดแง้มช่องรูประตูหวาน ถ้าแข็งแกร่งเกินภูผามาต้านทาน เกินปีนผ่านฉันคงเก้อเป๋อเงอะงะ ๔๙)เดินหลบเลี่ยงเบี่ยงซ้ายชมด้านข้าง โด่เด่วางโดดเดี่ยวเปลี่ยวเอกะ เดินมองเมียงเลียบเคียงรู้ที่อยู่พระ วิปัสสนาจำพรรษาเป็นอาราม ๕๐)เห็นปืนใหญ่ปลายกระบอกปลอกกระสุน ไฉนหมุนศูนย์ยิงเล็งสยาม พี่ใจแป้วปาดเหงื่อน้องเนื้องาม จึงบุ่มบ่ามไม่ทักก่อนซ่อนยิงชาย ๕๑)พี่หนุ่มดงองอาจชาตินักรบ เคยซ้อมหลบลูกปืนในป้อมค่าย ล้วนแคล้วคลาดไม่หวาดหวั่นอันตราย แต่พี่พ่ายกระสุนแบงก์ไร้แรงยิง ๕๒)โคปุระชั้นหนึ่งบึ่งเข้าหา เป็นจุดท้าทายใคร สวมใจสิงห์ ได้เหยียบเขาพระวิหารนั้นแท้จริง เพราะชมแทบทุกสิ่งสิ้นกระบวน ๕๓)บรรณาลัยใส่คัมภีร์ที่ว่างเปล่า สาบสูญเงาหนังสือหายไม่คืนหวน คิดถึงสี่ห้องใจใฝ่ทบทวน ไร้หุ้นส่วนครอบครองมาจองจับ ๕๔)แว่วเสียงพิณไพเราะเสนาะกรรณ เหมือนคนธรรพ์ชาวเทพมาเสพขับ บรรยากาศเข้าทีพี่ยอมรับ ตาต้องจับวณิพกในอุโมงค์ ๕๕)มัคคุเทศก์บอกชัดประวัติศาสตร์ ความสามารถจดจำเนื้อความหลง โปรยสตางค์วางพานทำทานลง ช่วยเสริมส่งให้ทำมาหาเลี้ยงชีพ ๕๖)แต่เด็กน้อยตาดำดำตามขอเหรียญ ทำหน้าเนียนอุเบกขาเข้ามาบีบ อย่าแบมือมองหางานอย่านั่งงีบ ต้องปากกัดตีนถีบถึงได้เงิน ๕๗)มาด้านนอกออกชมวิวดูทิวทัศน์ ไก๊ด์รีบจัดของขายน้ำลายเกริ่น จับรูปถ่ายที่ระลึกเล่าเชื้อเชิญ หากแกล้งเมินคงใจดำทำลงคอ ๕๘)ชุดละร้อยลดราคาว่าเจ็ดสิบ ตาปริบปริบเปิดเป๋าตางค์ตามคำขอ เหมาสองชุดจับจ่ายไม่หน้างอ เดินกันต่อชะง่อนผา “เป้ยตาดี” ๕๙)มองข้างล่างเรียกเป็นเขมรต่ำ คิดถึงคำต่ำต้อยเช่นตัวพี่ ถึงหุ่นสูงวาสนาน้อยชีวี ตกต่ำที่ไร้สตรีสบตาแล ๖๐)ยืนขาสั่นหันซ้ายขวาสามประเทศ จุดต่อเขตเชื่อมสัมพันธ์กันเผื่อแผ่ เหมือนอยู่ใกล้ไทยลาวและแขมร์ อยากช่วยแก้กำแพงแบ่งชนชาติ ๖๑)น้องเขมรเล่นอาคมนิยมนัก ช่างน่ารักน้องสยามงามผุดผาด สาวเวียงจันทร์จับปลากล้าสามารถ มิเอื้อมอาจไปเกี่ยวดองทองแผ่นเดียว ๖๒)คิดฟุ้งซ่านเสียงตะโกนกลับตีนเขา หัวอกเหงาเศร้าหมองต้องโดดเดี่ยว ขึ้นเขาแล้วมีลงตรงแน่เชี่ยว รักพี่เหี่ยวมีแต่ลอยห้อยขึ้นคาน