4 พฤศจิกายน 2546 05:49 น.

...องคุลิมาล อวสาน...

ชัยชนะ


๑๗                 ในกาลนั้น พลันสัมมา พระพุทธ (พุด-ทะ)
                      เห็นอุป นิสัย ในมรรคผล
                       ซึมอาบเอิบ องคุ ลิมาลโจร
                      หากทำตน มาตุฆาต ขาดเสื่อมไป

๑๘                 เสด็จองค์ ทรงลีลา คราเช้าตรู่
                      โจรซุ่มดู อยู่กระโจน ตะโกนไล่
                      หมายพิฆาต พระหัตถ์นิ้ว ลิ่วทันใด
                      ร้องด่าไป หยุดโล้นซ่า ข้าไม่ทัน

๑๙                 เราหยุดแล้ว แต่ท่าน ยังไม่หยุด
                      พุทธพจน์ บทถ้อย ร้อยเสกสรร
                      คุลิมาล หาญท้า ด่าประจาน
                      โกหกกัน ท่านยังเพลิน เดินมรรคา (มัน - คา)

๒๐                 บุญกุศล ดลหทัย ใจหลุดพ้น
                      ห่างทุกข์..ตน หยุดกระทำ กรรมชั่วช้า
                      หยุดพยาบาท เบียดเบียน เหี้ยนโกรธา
                      ใส่เมตตา หมู่สัตว์โปรด โทษบรรเทา

๒๑                 อหิงสกะ ระลึก สำนึกได้
                      โยนทิ้งไป ศัตราวุธ เวิ้งเหวเขา
                      อีกนิ้วกร เก้าร้อย เก้าสิบเก้า
                      นั่งคุกเข่า ทูลขอ บรรพชา

๒๒                 ตั้งสติ ดำริใจ ไม่ฟุ้งซ่าน
                      คิดแต่กาล เกิดก่อ เฉพาะหน้า
                      ไม่คำนึง ถึงอดีต จิตศรัทธา
                      น้อมธรรมมา อรหันต์ พลันมาเยือน

(พิเศษ)           ถือสัตย์ซื่อ คือไว้เนื้อ เชื่อใจกัน
                      อดีตกาล ผ่านอย่าฝืน รื้อคืนเปื้อน
                      ควรอภัย ในสิ่งผิด คิดลืมเลือน
                      ผูกเป็นเพื่อน พี่น้องกัน สัมพันธ์ใจ


องคุลิมาลโจร แปลว่าโจรมีนิ้วมือเป็นพวงมาลา
มาตุฆาต    ฆ่ามารดา

องคุลิมาล เมื่อโยนดาบเลิกประหารก็ขอบวชในพระพุทธศาสนา
ตั้งใจประพฤติธรรม น้อมนำจิตใจ ในไม่ช้าก็บรรลุเป็นพระอรหันต์



ด้วยบทกลอนของลำน้ำน่านแต่งมาได้ประทับใจผมมาก
ขออนุญาตนำขึ้นโชว์ข้างบน (น้องนิวบอกตกลงแล้วแห่ะ แห่ะ)
และขอเอาชื่อของลำน้ำน่านมาขายด้วยนะครับ

      (ลำน้ำน่าน)

พุทธองค์ทรงศีลยินเสียงเรียก
รู้สำเหนียกด้วยญาณอันชาญกล้า
จิตโจรทรามกาลเก่าเล่าบุญญา
เพียงลุ่มหลงอวิชชาพาพลั้งพลาด

                 จึงน้อมนำพระธรรมบันดาลผล
                 เชิญมงคลเทวามานั่งอาสน์
                 กล่าวแสดงแสนยาท้าอำนาจ
                 เทวาวาทแซ่ซ้องก้องพฤกษ์ไพร

เราหยุดแล้วแต่ท่านนั้นไม่หยุด
ใยยื้อยุดบาปกรรมนำวิสัย
โจรได้ฟังนิ่งเงียบเทียบความนัย
เปิดดวงตาดวงใจใคร่รู้ธรรม

                   จิตหยาบกร้านสดับฟังหลังหยุดนิ่ง
                   แท้ความจริงเขลาขลาดพลาดถลำ
                   ตกบ่วงมารผ่านไปในรอยกรรม
                   ใคร่ยืดเอาพระธรรมเป็นพึ่งพิง

จึงออกบวชกรวดน้ำตามพระพุทธ
บริสุทธ์ชำระใจในทุกสิ่ง
จนแสงธรรมทอทาบเข้าอาบอิง
เห็นจิตจริงหลุดพ้นจนลุธรรม				
1 พฤศจิกายน 2546 04:45 น.

...องคุลิมาล ตอน ๓...

ชัยชนะ


                             (ชัยชนะ)

๑๑                  ลาอาจารย์ หันเข้าป่า จับอาวุธ
                       ฆ่ามนุษย์ เดินผ่าน บั่นนิ้วไว้
                       นำมาร้อย ถักสร้อยศอ ต่อมาลัย
                       กระฉ่อนไป คุลิมาล สะท้านดัง

๑๒                  เพชฌฆาต ฉกาจเก่ง นักเลงฆ่า
                       เพลงวิชา หลบเป็นปีก หลีกเป็นหาง
                       ประกาศิต กิตติศัพท์ ทับเส้นทาง
                       เปลี่ยวเงียบร้าง เข็ดขยาด หวาดกมล

๑๓                  ข่าวระบือ ลือทั่ว หัวระแหง
                       กราบทูลแจ้ง เจ้าประเสน ทิโกศล
                       ขุนศึกกล้า โยธาเก่ง นักเลงพล
                       เกณฑ์ล่าโจร เคลื่อนกำลัง สั่งจับตาย

๑๔                  มันตานี นางรู้คำ จ้ำอ้าวหัน 
                       เพื่อให้ทัน เหตุการณ์ ขานข่าวร้าย
                       เดินบุกฝ่า ป่าดงหนา อันตราย
                       ไม่เสียดาย หวังลูกลี้ หลบหนีทัน

๑๕                  คุลิมาล อ่านนับ นิ้วมือได้
                       กระหยิ่มใจ ใกล้ความจริง สิ่งใฝ่ฝัน
                       เหลืออีกเอี่ยว นิ้วเดียวจบ ครบหนึ่งพัน
                       จะหันหลัง ล้างวางมือ ถือสัจจา

๑๖                  ตากระเซ็น ตระเวนหา น่าแค้นใจ
                       งานสุดท้าย หนึ่งเดียว เที่ยวเสาะหา
                       แม่กระเสือก กระสน วนเวียนมา
                       ด้วยเพลา พลบค่ำก่อน นอนร่มไทร

พิเศษ              ขอสลัก รักแท้ แม่มอบลูก
                       เกลียวพันผูก ห่วงหา อาดูรให้
                       หวังค้ำชู ลูกอยู่รอด  และปลอดภัย
                       สละได้ แม้ชีวาตม์ อาจวายปราณ 



                            ( พุด พัดชา )

ความทะยานอยาก..ความหลงผิด..ถูกมอมเมาลิขิตชักจูงจากเงื้อมมือมนุษย์ด้วยกันเอง 
หรือเป็นลิขิตจากชะตาฟ้าเบื้องบนให้จำต้องส่งองคุลิมาลผู้ถือกำเนิดในฤกษ์ดาวโจรมาสร้างตำนานสอนใจมนุษย์..มาเป็นมารให้พระพุทธองค์ได้บำเพ็ญเพียรหลุดพ้น... 

หัวใจโฉดฉล ขาดสติ 
หัวใจที่มีแต่ความชั่วร้าย ให้ทุกท่านอ่านผ่านตาแล้วใช้วิจารณญาณเฉพาะตัวตัดสิน 
และนี่คือผลที่มาแห่งความชั่วสะท้านสะเทือนเลื่อนลั่นผืนดิน 
มิเกรงสิ้นแม้อินทร์ พรหม ยมพญา ทายท้าสิ้น 
หากมนุษย์ในโลกเราไซร้ มิยลยิน ไม่มีดวงตามองเห็นแสงแห่ง ธรรม 
มีดวงตามืดบอด เบียดเบียนผู้อื่นด้วยการทำร้าย 
ด้วยกาย วาจาใจ และที่เป็นกรรมยิ่งใหญ่คือการฆ่า..แผ่นดินทุกหย่อมหญ้าทุกธุลีย่อมลุกเป็นไฟ 
แดงเดือด ทั่วเขตคามเดือดร้อน.. 

พลันพระเอก(ในคราบสัตว์ร้าย)..ก็ต้องมาปรากฏตัว ตามท้องเรื่อง 
เมื่อความทราบถึงพระเจ้าประเสนทิโกศล 
จึงส่งนักเลงพลผู้กล้าล่าประจัญจับตายหมายหัวองคุลิมาล 
แบบพลิกแผ่นดินให้สิ้นวากสิ้นวิญญาณ.. 
....... 
มันตานี...นามนี้คือใคร.. คือหญิงใดในปฐพีกันเล่า? 
ให้ท่านตามข้าพเจ้ามา... 
นางคือธรรมชาติงาม นามแม่  ผู้สร้างโลก สร้าง ลูก สร้างชีวิตองคุลิมาล 
นางคือเพศผู้ยิ่งใหญ่คือผู้ให้สายธารรักสายธารใจไหลผ่านน้ำนมเพาะบ่มหยาดหยดรดรินดั่งเลือดรักจากอกให้ถ่ายให้ลูกในอุทร..เติบโต..สู้โลก สู่โลกกว้าง..สรรสร้างงามใจ 
นางพร้อมปกป้องยอดดวงใจ ปกป้องโศก  ผองภัยทั้งโลก ยอมพลีสิ้นได้แม้จิตวิญญาณ 

นางขานไขฟังข่าวการไล่ล่า ลูก ด้วยหัวใจไหวระทึกระทกอกสั่น.. 
ฝ่าฟันประคองร่างดั้นด้นป่าหนามพงพฤกษ์ไพร เพื่อไปให้ทันลูกก่อนกองทัพจะจับตาย
ล้มกี่คราสองขาและดวงใจรักมิจักหยุดท้อแท้ ดวงตาพร่าพรางเหลียวหาร่างรัก 
อย่างนางนกไพร...ดั่งนางจงอางหวงไข่ในอุทร. 
************ 
..ตะวันรอน.. 
อาทิตย์แดงเดือดราวรอเลือดละหลั่งชะโลมดิน.. 

มันตานี..ยินเสียงไห้โหยจากปวงสัตว์ป่าคำราม 
นางเหนื่อยล้า หยาดน้ำตาริน 
ดั่งสายเลือดหยาดหยดรดให้ผืนดินพร้อมพลีสิ้นจิตวิญญาณให้ดับดิ้น 
เพื่อต่อสายใจสายไยรัก..พันผูกรัดร้อย..ดั่งโซ่รักโซ่กรรม..จะทำไฉนพ้นคำว่าแม่ของลูก 

นาง..เอนร่างพักใต้ร่มไทร..ดวงใจระริกไหวเฝ้ารอรอ.. 
นางอธิษฐานบนบานขอต่อปวงเทพไท้เทวา 
หากแม้นฟ้าดินเมตตาปรานี..ก่อนสิ้นชีวี 

นาทีสุดท้ายขอนางได้ ปกป้องผองภัยได้พบยอดดวงใจ 
ได้ชึ้เส้นทางทองอันเรืองรองผ่องผุด หยุดและวอนให้เลิกประหัตประหาร 
เลิกจองเวร 

นางหลับตา แม้นร่างกายอ่อนล้า 
หากหัวใจนางดั่งศิลา   ดั่ง...นางสิงห์ผู้แกร่งกล้ายอมสละแม้นดวงชีวาและ 
รอเวลา... 
รอและรอ...ขอนาทีสุดท้ายได้กอดประคอง..ลูก 
ไว้ในอ้อมแขนด้วยรักแสนรักเอยแสนรักในกมลแม่นี้ที่มีเจ้าเป็นดั้งดวงใจ..



                                          (ชัยชนะ)
พรุ่งนี้เช้า..ทั้งสองแม่ลูกที่ห่างร้างลากัน จะได้พบหน้าค่าตากันนะ นะคนดี
องคุลิมาล จะจดจำใบหน้าแม่ของตนได้หรือ  ในเมื่อพลัดพรากจากกันไปเนิ่นนาน..แสนนาน
อีกนิ้วเดียว ก็จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ไร้ผู้พิชิต ตามความคิดที่อาจารย์เสี้ยมสอนในทางที่ผิด
ดาบเล่มนี้ ฟันมาแล้ว  ๙๙๙ ชีวิตแล้ว  
บัดนี้ชีวิตสุดท้าย เดินทางมาให้เชือดแล้ว เลือดแดงฉานกำลังจะไหลหลั่งเจิ่งนองราวป่าแห่งนี้
ดาบเล่มกำลังถูกยกขึ้น อย่างเชื่องช้า ช้า ช้า..คมดาบจะฟันลงหรือไม่

เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร สะเทือนใจแค่ไหน โปรดติดตามตอนอวสาน.. เร็ว ๆ นี้				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟชัยชนะ
Lovings  ชัยชนะ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟชัยชนะ
Lovings  ชัยชนะ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟชัยชนะ
Lovings  ชัยชนะ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงชัยชนะ