17 มิถุนายน 2552 16:17 น.
ชลธี
รักนางสุดทรวงคลั่ง คลอเคล้า นางเฮย
สองปรางนางดูเศร้า เกินเฉลย
อย่าว่าพี่วอนเว้า กวนใจ เจ้าเลย
เพียงแค่อยากพร่ำเผย ปลอบเจ้าให้คลาย
๐รักเจ้าจนเกินแล้ว ขับไก่แก้วแว่วเสียงขัน
เวลาผ่านวัยวัน หันหาเจ้ามิเวันวาย
๐ ปรางเจ้าไยเศร้านัก สุดที่รักมิเคยคลาย
ใจเจ้าเศร้ามิวาย ยามพี่ได้มายลยิน
๐ รักเจ้าปานใดหนา จนน้ำตาไหลบ่าริน
ฤๅเจ็บในดวงจินต์ ผินหน้ามาจะเช็ดให้
๐ อย่าว่าพี่วอนเว้า ให้ใจเจ้าพะวงใจ
ที่ทำเพราะเต็มใจ ฤทัยนี้ที่รักนาง
๐ จึงอยากพร่ำคำเผย เฉลยใจให้ทุกอย่าง
ใจนี้นะนวลนาง มิเคยห่างที่ห่วงนวล
๐ จดหมายน้อยร้อยรักพี่จักสร้าง
เอามาวางเรียงร้อยเป็นรอยสรวล
อาบด้วยทิพย์เพ็ญใยของใจนวล
อบกระบวนงามแข่งขับแสงแวว
๐ พี่รักนางคร่ำครวญหวนถวิล
อยากถักจินต์ถวิลหวังงามดั่งแก้ว
เป็นสไบผ้าใสผ่องมาส่องแวว
เพื่อห่มแพรวพราวห้องใจให้ใบนวล
.......
คือมา.. ฝึกฝน..นะครับ
3 มิถุนายน 2552 19:59 น.
ชลธี
มาจากฝั่งห้วงน้ำข้ามฟ้าฟาก
ข้างป่าจากริมคลองนองน้ำไหล
คุ้งคดเคี้ยวเลี้ยววนล้นล่องไป
จากแดนไกลนครศรีฯที่เกิดกาย
มาฝากตัวฝากใจฝากไฟฝัน
เพื่อสร้างสรรค์งานกวีวจีหมาย
กอบเก็จแก้วแพรวจันทร์พรรณราย
ถักทอสายคำขวัญกลั่นห้วงใจ
มาเป็นเพื่อนคนดีและพี่น้อง
พาเที่ยวท่องชลธีหรือที่ไหน
ท่องภูผาป่าเขาเงารำไร
ท่ามม่านใจทอรุ้งสายมอบให้เธอ
คงไม่มีสิ่งใดจากใจฝัน
นอกจากถ้อยรำพันมาเสนอ
อย่าให้ฝันหลงใจในละเมอ
ให้ผมเพ้อเพียงดายเดียวเปลี่ยวดวงใจ
คงหวังให้เพื่อนมิตรได้ชิดชื่น
ได้รับรื่นรสร่ำที่พร่ำไข
จากคำร้อยถ้อยถวิลรินภายใน
เป็นมาลัยมากำนัลวันฝากตัว