30 มีนาคม 2548 00:45 น.
ชมอักษร
ตะวันเลื่อนเคลื่อนคล้อยลอยข้ามหัว
นัดรวมตัวพบกันเมื่อวันก่อน
บ่ายโมงตรงตกลงไว้ไม่เกี่ยงงอน
ห้าสมรเจอหน้าคงฮาเฮ
สาวที่หนึ่งถึงก่อนร้อนในอก
แสนตระหนกจริงหนอรอหน้าเบ้
เลยเวลานัดไว้ไยรวนเร
มัวร่อนเร่เตร่ไปที่ไหนกัน
ครั้นสาวสองตามมาหน้าระรื่น
ยิ้มสดชื่นจากหงอยค่อยคลายหวั่น
สาวสามสี่ก็มาถึงเร็วพลัน
อีกหนึ่งนั้นถึงล่าช้าเกินใคร
เมื่อรวมตัวกันได้บ่ายโมงกว่า
เห็นพ้องว่าท้องกิ่วหิวแสบไส้
ก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ชัย ฯ
น้ำลายไหลเพียงเอ่ยเคยได้ชิม
ไม่พูดพร่ำทำช้าสั่งมาด่วน
เล็กชิ้นล้วน .. หมี่หมูตก .. ยกมาลิ้ม
สิบห้าชามสั่งไปไม่พออิ่ม
หน้ากรุ้มกริ่มมองคนขาย .. อายเขาจัง
แต่ความอยากมีมากกว่าว่ามิได้
ต่างรู้ใจสั่งเสริมเพิ่มชุดหลัง
เอาเหมือนเดิมอีกสิบชามตามที่สั่ง
อ้วนเป็นถัง .. ไม่สน .. คนจะกิน !!
หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน
ชามวางซ้อนจนสูงพุงก็ปลิ้น
ก๋วยเตี๋ยวเรือชามน้อยอร่อยลิ้น
รีบเช็คบิลเถิดหนาอย่านั่งนาน ( อิ่มแล้วเริ่มอายอ่ะ .. อิอิ )
มีคำถามให้ได้ยิน .. กินหรือปล้น ?!?
หญิงห้าคนใครหนากล้าริอ่าน
เอาไปเลี้ยงหุงหาให้รับประทาน
จึงร้องผ่านบ้านกลอนไทย .. มีไหมเอย ??
......................................
แบ๊ะ ๆๆๆ ...
สาวที่หนึ่ง - สาวอารมณ์ขันแห่งเมืองพระปรางค์สามยอด ..
สาวที่สอง - สาวเมืองน้ำดำ .. นามปากกาเครื่องดนตรีไทยใช้ปาก ..
สาวที่สาม - สาวหวานดุ .. หลานย่าโม ..
สาวที่สี่ - สาวผู้มากับความคล้ำ .. จอมคร่ำครวญ .. งุงิ ๆ
สาวที่ห้า - ( ขอสงวนข้อมูล )
ภาพและคำ โดย .. ซ้อเก้า .. เศร้าจายยยย .. เอิ๊กกกก
24 มีนาคม 2548 20:26 น.
ชมอักษร
แม้ตัวไกลใจชิดสนิทแนบ
คล้ายอิงแอบอุ่นละไมในวันหนาว
สองเราร้างห่างตัวเพียงชั่วคราว
รักไม่ร้าวจนสลายกลายเป็นจุณ
หนาวกว่านี้กี่หนยังทนได้
แค่หัวใจคิดถึงกันมันเกินอุ่น
มีความรักความศรัทธามาเพิ่มทุน
เป็นแรงหนุนมิให้คว้างกลางนิทรา
จากเหน็บหนาวก็คลายจนหายสั่น
เคยเคียงกันทั้งคืนใต้ผืนผ้า
แม้ตอนนี้นานมากที่จากมา
ยังคงตราประทับไว้ให้อาวรณ์
ในอ้อมกอดกันและกันอันเคยคุ้น
เอนกายหนุนท่อนแขนเปรียบแทนหมอน
พร้อมถ้อยคำย้ำว่าแสนอาทร
ดั่งไอร้อนผ่อนหนาวคราวห่างกัน
ขอเพียงรักมีให้ไม่จางหาย
แม้ห่างกายเพียงไหนใจเชื่อมั่น
หากแน่วแน่เหมือนคำพร่ำยืนยัน
จะรอวันเคียงข้างอย่างที่เคย
.....................................
3 มีนาคม 2548 07:14 น.
ชมอักษร
ใจสะทกอกสะท้านร้าวรานนัก
เมื่อความรักเลือนลางแทบจางหาย
คนที่เคยพร่ำพรอดกอดเกี่ยวกาย
วันนี้คล้ายหลบหน้าลืมมาเจอ
วันเลยเลื่อนเดือนผ่านพาลขมขื่น
มิอาจฝืนน้ำจากใจที่ไหลเอ่อ
โหมทะลักท่วมตาจนพร่าเบลอ
เพราะรอเก้อซ้ำซ้ำแสนลำเค็ญ
หยาดน้ำตารินรดกี่หยดแล้ว
หมดวี่แววคนของใจมาให้เห็น
ก่อนได้พบเช้าสายจนบ่ายเย็น
ตอนนี้เป็นเช่นไรจึงไม่มา
คงเป็นลางเตือนไว้รักใกล้ล่ม
เคยร่วมบ่มไม่ทันไรก็ไร้ค่า
น้ำที่ล้นปริ่มนองทั้งสองตา
สื่อวาจาแทนคำ .. ช้ำเหลือเกิน ..
.....................................
ปล. กำลังอินกับเพลงนี้อ่ะ .. เศร้า .. T T
http://imusicbug.com/detail.asp?pid=101
ชื่อเพลง : ดอกราตรี
ศิลปิน : Endorphin
อัลบั้ม : พริก
.:: เนื้อเพลง ::.
ดึกลับดับแสงแอบแฝงในฟ้าราตรี
ส่งกลิ่นอบอวนป่วนในหัวใจให้เกินข่มตา
ขาวราวดวงเดือนเลื่อนลอยกันลงมา
จากบนนภา...กลายเป็นดอกไม้ราตรี
กลิ่นหวนชวนหอมลอยหายไปไกลแสนไกล
ดั่งดวงดอกไม้เจ้าส่งสายใยถึงใครอีกคน
ที่ลับลาไปทิ้งให้ราตรีหม่น
ดุจดังหัวใจของคนที่เด็ดเจ้ามา
* ดึกดื่นคืนนี้...ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ...
ก็เธออยู่แห่งหนไหน...ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ...
อีกกี่คืนไม่รู้...ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ...
ที่ยังคงต้องฝันเฝ้ารอไปอย่างนี้...
** ฝากฟ้าสวรรค์กระซิบถ้อยคำรำพัน
ให้ใครคนนั้นไม่ลืมไม่ลืมเรื่องราวคนนี้
แม้ราตรีโรย...ร่วงลับลาชีวี...แต่รักที่มี
ไม่เคยจะเลือนล้างไป...
(ซ้ำ*,**)