1 กรกฎาคม 2549 09:34 น.
ชมพูภูคา J.
ค่ำคืนนี้...ไม่มีแสงดาว
มันเหน็บหนาวหัวใจไร้จุดหมาย
แว่วสรรพเสียงสำเนียงเพียงเดียวดาย
ยินสุดท้ายหยาดน้ำใสที่ไหลริน
จะร้องไห้ไปใยหัวใจเอ๋ย
น้ำตาเคยช่วยอะไรคล้ายกร่อนหิน
จะหลั่งรดหยดซ้ำซ้ำเป็นอาจินต์
ฤาพังพินเพียงเพราะน้ำจากดวงตา
เพียงคำเดียวว่ารักจึงฉุดรั้ง
เป็นเหมือนดั่งคำสัญญาให้โหยหา
คำว่ารักหวานซึ้งตรึงอุรา
มิรู้ว่ารักเขาเพียงเอาใจ
เมื่อเวลาผ่านไปไม่ย้อนกลับ
จึงสดับรับรู้เกินแก้ไข
คำว่ารักออกเสียงง่ายพูดพร่ำไป
พอห่างไกลรักเลือนหายเหมือนสายลม
ค่ำคืนนี้...จึงไม่มีสองเรา
ยิ้มเศร้าเศร้าปวดหัวใจให้แสบสม
รำพันรักเพ้อฝันมันโง่งม
ที่ตรอมตรมก็เพราะรักนั้นคำเดียว
29 มิถุนายน 2549 09:31 น.
ชมพูภูคา J.
วันนี้วันดีแม่หมอขอทายทัก
ไม่ขลุกขลักการใดรุดเร็วรี่
ถ้าประจบเจ้านายคะแนนดี
ฤกษ์วันนี้ได้ผลคนสอพลอ
ออกจากบ้านขาขวาต้องก้าวย่าง
ซ้ายไม่ห่างตามติดเชื่อแม่หมอ
ระวังไว้อย่างเดียวคงเกินพอ
จิ้งจอรอแหกปากทักจักระวัง
อยากได้ลาภลาบก็มารอแทบปาก
สั่งไม่ยากจัดได้ดั่งใจหวัง
อธิษฐานสิ่งใดเปี่ยมพลัง
มีกะตังค์ทำได้ง่ายเหลือเกิน
คิดถึงแฟนอยากหาได้สักหน
เอาพอทนขบวนสุดท้ายแหมมันเขิน
มัวแต่เลือกหล่อรวยพ่อจำเริญ
ใครจะเดินมาตกหลุมกลุ้มหัวใจ
ชะตาดีวันนี้เปลี่ยนความคิด
อภิสิทธิ์รักเดียวยากหวั่นไหว
รัฐภูมิหรือก็เด็กละอ่อนไป
น่ะ...ถูไถแค่เป็นชายคงพอมี
ดวงชะตาวันนี้แม่นแน่แท้
แม่หมอแก้หาทางช่วยเร็วด่วนจี๋
พบเหตุร้ายกลายกลับมาเป็นดี
พบเจ้าหนี้ให้ชิ่งหนีมีเสียตังค์
28 มิถุนายน 2549 09:36 น.
ชมพูภูคา J.
เหมือนคอยแกล้งตอกย้ำให้ช้ำชอก
แสร้งเย้าหยอกหลอกเล่นเห็นขบขัน
สวมบทร้ายคืบคลานหมายชีวัน
แล้วฉับพลันโปรยคำหวานมาผลาญใจ
อารมณ์ดีมีไม่บ่อยค่อยลูบหัว
ตามใจตัวเป็นที่ตั้งอย่าสงสัย
บอกซ้ายเลี้ยวซ้ายเป็นไรไป
ใครเป็นใหญ่ในบ้านเชิญบอกมา
สิ่งที่ทำเธอไม่รู้หรือที่คิด
ทำจริตบิดเบือนมากังขา
ที่ทำไปหรือไม่ใช่เพื่อแก้วตา
เจตนาในใจลองไตร่ตรอง
เรื่องเซ้าซี้จู้จี้หยุดได้ไหม
ใครเป็นใครว่าไว้อย่าผยอง
ช้างเท้าหน้าเท้าหลังตามครรลอง
รู้ช่ำชองศึกษาไว้ในวิธี
ความเชื่อใจอยู่ที่ไหนจงใส่หัว
อย่ามัวกลัวหวาดหวั่นเลยยาหยี
พี่ก็เป็นอย่างนี้หลายสิบปี
โถคนดีรักพี่อย่าเปลี่ยนแปลง
ลูกผู้ชายเกิดมาต้องยึดมั่น
อันเชิงชั้นรักษาไว้ไม่หน่ายแหนง
ตะลุยหน้าลูกเดียวใช่ตะแบง
อย่าเปลี่ยนแปลงบอกไว้....ให้เจียมตัว
27 มิถุนายน 2549 10:55 น.
ชมพูภูคา J.
แรกรัก...จึงมอบหัวใจดวงนี้
รสวจีกำซาบซึ้งตรึงห้วงฝัน
ร้อยเรียงรักหมื่นล้านคำรำพัน
ฤาเทียบทันรักนี้จากดวงใจ
ดอกไม้บานอิ่มน้ำเมื่อยามเช้า
ผีเสื้อเร้าเรรวนทำเฉไฉ
ดอกไม้บานหวานชื่นถึงทรวงใน
เฉกหัวใจสองเราเย้าหยอกกัน
ยามตะวันฉายแสงกล้าเพลาบ่าย
พักเรือนกายก่ายกอดเกษมสันต์
ต่างชี้ชวนชมหมู่ไม้ในไพรวัลย์
สุริยันเฉิดฉายมาหน่ายแรง
เพราะแรกรักฟ้าครึ้มใยซึมเศร้า
เมฆบังเงาสุรีย์ฉายมิสาดแสง
ในความมืดอกอุ่นอย่าเคลือบแคลง
รักสำแดงเป่าปัดขจัดภัย
น้ำผึ้งหวานยังแพ้รักแรกนี้
มวลมาลีพร้อมพรั่งบานไสว
อันความรักสร้างสรรค์โลกวิไล
หากหัวใจเราสองยังครองกัน
26 มิถุนายน 2549 11:19 น.
ชมพูภูคา J.
ในลมหายใจที่ไร้ไออุ่น
หวานละมุนลอยล่องราวภาพฝัน
ยามพลิ้วไหวเคลื่อนคล้อยใต้เงาจันทร์
ดุจอำพันงามจับระยับตา
ล่วงกี่วันกี่คืนมิรู้ได้
ลอยล่องไกลลมหายใจเฝ้าค้นหา
มิเคยหลับสักนิดยามนิทรา
ดวงดาราดารดาษ ฤ ใฝ่ปอง
ยังรออยู่ด้วยสำนึกถ้อยสุดท้าย
แม้ความตายมิอาจพรากเราสอง
คำสุดท้ายตีตรวนผูกถูกจำจอง
ความตายลองพรากเราให้จากกัน
ฤ ศรัทธายึดมั่นทุกสัตย์สิ่ง
เรื่องเท็จจริงคงอยู่มิผกผัน
ชีวีอยู่ฤาหายตราบนิรันดร์
สัตยานั้นสถิตย์อยู่คู่วิญญาณ์