21 กันยายน 2550 22:28 น.
ชมพูภูคา J.
เดินย่ำเท้าบนรอยทราย
คงเลือนรางจางหายในไม่ช้า
ระยิบระยับพลิ้วพรายในสายตา
เพียงลมพาพัดไป...ไร้ร่องรอย
หอมเอยหอมระรินกลิ่นพฤกษา
หอมกายาดั่งมาลาร่วมเรียงร้อย
หอมเอยหอมเจ้าชวนเฝ้าคอย
หอมเลื่อนลอยคล้อยห่างแรมร้างไกล
รักแรก แรกรัก มักสุดซึ้ง
รอยตราตรึงห่วงหาพาหวั่นไหว
รักเนิ่นนานรสหวานสิ้นจากใจ
เคยห่วงใยใฝ่หาห่างหายกัน
ฤาไม่มีสิ่งใดอยู่คู่โลก
ริ้วรอยโศกคงไม่นานจักผ่านผัน
หวังกลืนกลบลบหายชั่วชีวัน
ขอเก็บกลั้นฝันร้ายให้คลายลง
29 สิงหาคม 2550 22:10 น.
ชมพูภูคา J.
พายุครวญครางฟ้าคลุ้มคลั่ง
เมฆหม่นบังเดือนลับดาวอับแสง
ลมฝนกราดเกรี้ยวกระหน่ำแรง
แผ่นดินแล้งซึมซับหยาดฝนมา
ไม้ใหญ่น้อยโค่นล้มลงสู่พื้น
ไร้แรงยืนสุดฝืนความอ่อนล้า
แม้แข็งแกร่งเพียงใดในพนา
ยังโหยหาร่ำร้องก้องแนวไพร
ฟ้าพิโรธขึ้งเครียดเพราะใดเล่า
ผู้โง่เขลาวอนเว้าเฝ้าสงสัย
จึงกลั่นแกล้งแสร้งซ้ำให้เป็นไป
พินาศภัยแปรปรวนทั่วแผ่นดิน
ฤาคนใดก่อกรรมธรรมชาติ
เพียงเพราะความปรารถนาไม่มีสิ้น
ทั้งฉกฉวยลับลอบกอบโกงกิน
น้ำตารินโลกเร่าร้อน...เพียงเพราะใคร
19 กรกฎาคม 2550 12:30 น.
ชมพูภูคา J.
เธอร้องไห้...ในสายฝน
น้ำใสใสหยาดล้นหม่นหมอง
แว่วยินเสียงรำพันร่ำร้อง
โปรดตรองขอหนูเกิดมา
แม่จ๋า...แม่อย่าร้องไห้
หนทางไกลไร้ใครห่วงหา
เลือดก้อนนี้แทนรักหนูสัญญา
ขอเป็นดั่งแก้วตาตลอดไป
แม้วันนี้แม่ต้องเหน็บหนาว
วอนดวงดาวส่องแสงสว่างไสว
ให้แม่หนูอบอุ่นหัวใจ
ลุกขึ้นยืนได้ใหม่อีกครั้ง
บางคราอ้างว้างสับสน
กัดฟันทนขออย่าสิ้นหวัง
เปลี่ยนน้ำตาหลอมรวมพลัง
ขอเหนี่ยวรั้งก่อนพลั้งทำลาย
ตราบใดสายนทียังไหลรี่
วันพรุ่งนี้จะไม่มีคำว่าสาย
คล้ายลมพลิ้วพัดผ่านผืนทราย
สิ่งเลวร้ายหายลับกับเวลา
หลับเสียก่อน...แม่จ๋าหากเหนื่อยนัก
ฝากฟากฟ้าปกปักรักษา
ราตรีนี้พร่างแสงแห่งดารา
นิทราเถิด...แม่จ๋า...ให้ฝันดี
26 พฤษภาคม 2550 15:57 น.
ชมพูภูคา J.
เมื่อไม่อาจหยุดการเข่นฆ่า
แรงปรารถนาสิ้นสัมฤทธิ์ผล
ก็เหนื่อยแรงป่าวร้องดิ้นรน
เกินหลุดพ้นวิกฤติศรัทธา
สองมือจึงยังคงแปดเปื้อน
ดวงตาพร่าเลือนโหยหา
สันติภาพความฝันอันลวงตา
อยู่บนความหวาดผวาต่อไป
นกกระดาษโปรยปรายมาหลายครั้ง
ไม่เคยหยุดยั้งความตายเอาไว้ได้
หลายสิบล้านแทนรักจากใจไทย
จมอยู่ใต้คราบเลือดประชาชน
ฉันไม่มีอะไรจะให้
แค่ดอกไม้ไร้ค่าข้างถนน
มิอาจเทียบเปรียบดอกไม้เพื่อมวลชน
สำหรับกำลังใจเพื่อใครสักคนก็พอ
16 พฤษภาคม 2550 21:17 น.
ชมพูภูคา J.
ก่อกองฟืนผิงไฟได้คลายหนาว
ฟ้าพร่างพราวดาวสวยช่วยส่องแสง
เหน็ดเหนื่อยนักพักกายได้ผ่อนแรง
ใจแห้งแล้งกอดคอก่อกองไฟ
ยินสรรพเสียงหลากสำเนียงเข้าคลอเคล้า
ใต้ร่มเงาหอมกรุ่นกลิ่นดอกไม้
สายธาราลดเลี้ยวลัดเลาะไกล
หริ่งเรไรร่ำร้องกล่อมโลกา
ร้อยรำพันบทกลอนนอนทอดถอน
ใจคนจรร้าวรอนคนึงหา
อยู่ห่างบ้านห่างเมืองไกลลับตา
มาแรมร้างโรยราอยู่ผาภู
ก่อกองฟืนผิงไฟได้คลายหนาว
ห่มแสงดาวพราวฟ้าน่าอดสู
แม้ข้างกายรายล้อมเพื่อนพ้องอยู่
หากไร้คู่เคียงข้าง...อ้างว้างใจ