31 สิงหาคม 2552 17:52 น.

ของฝาก..จากปักษ์ใต้

ฉางน้อย

00531_0.jpg1175928467.gif" คุณยิหวา รับพัสดุด้วยครับผม " 
เสียงหนุ่มไปรษณีย์เรียกฉันให้ออกไปรับพัสดุ
" โห อะไรกันเนี่ยะ กล่องเบ้อเร่อเลย ของวาแน่นะคะ ? " 
ยิหวาอุทานพลางเซ็นชื่อรับพัสดุ แปลกใจไม่ใช่น้อยเลย
" ครับของคุณยิหวา ส่งมาจากทางใต้ด้วยนะครับ สงสัยระเบิดมั้ง "
" อย่าเพิ่งรีบแกะกล่องนะครับ 
ให้ผมไปไกลห่างรัศมีสัก500เมตรก่อนแล้วกันนะครับ "

หนุ่มไปรณีย์ไม่วายที่จะล้อเล่นกับยิหวา 
รู้จัก ทักทายกันมานาน แม้ไม่เคยรู้ชื่อเขา
แต่เพราะความมีน้ำใจให้กันและกัน 
ต่างยิ้มให้กันฉันมิตรร่วมโลกใบเดียวกัน

" อะไรน่ะวา ใครส่งอะไรมาให้ กล่องใหญ่จัง " พี่รองถาม
" ไม่รู้ซิ หนุ่มจากที่ไหน ส่งอะไรมาให้หว่า ยัง งง ? "
 ยิหวายังแปลกใจนิดๆ
แต่แล้วก็ถึงบางอ้อ เมื่อแกะกล่องพัสดุใบนั้นออกมา
"อ่อ.. คุณลุงชอบ ส่งมาจาก อ.กาญจนดิษฐ์นี่เอง "

ยิหวาอมยิ้มนิดๆเมื่อเห็นชื่อลุงชอบ
 ก็ลุงชอบท่านนี้เป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายกับเตี่ยสม้ยหนุ่มๆ
ทั้งเตี่ยของฉันและลุงชอบต่างสร้างวีรกรรมไว้เยอะแยะมากมาย 
ลุงชอบบอกว่า ท่านเป็นหนี้ชีวิตเตี่ยตอนสมัยหนุ่มๆ 
(เรื่องอะไรนั้นค่อยเล่าทีหลังค่ะ)

" ไหน เปิดดูซิวา ลุงชอบส่งอะไรมาให้วา ? "
 พี่สางคนรองคงอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน
" ฮั่นแน่ะ .. อยากรู้ล่ะซี จ่ายก่อนสองร้อยค่าเปิดซอง 5555 "
" มะเหงกแน่ะยัยวา .. " 

ทั้งยิหวาและพี่รองต่างลุ้นระลึก เอ๊ย ลุ้นระทึกว่า
 ภายในกล่องพัสดุนั้นเป็นอะไรกันแน่นะ 

อยากรู้จัง มาช่วยยิหวาลุ้นหน่อยซิคะ อิอิ 
...1175928467.gif

" ลูกประ " ทั้งฉันและพี่รองต่างอุทานพร้อมกันเบาๆ 
แล้วก็มองหน้ากันหัวเราะที่จะได้กินของจากภาคใต้อีกครั้ง
หลังจากห่างหายไปนาน นานจนเกือบลืมว่า
 หน้าตาของเจ้าลูกประนั้นเป็นยังไง 
" นี่ๆ มีจดหมายแนบมาด้วยนะพี่รอง เดี๋ยววาอ่านก่อน " 

เนื้อความจดหมายมีดังนี้ .......

" วา หลานรัก....

หลานวาสบายดีไหม ลุงส่งลูกประมาให้กินเล่นๆหลังเลิกงานนะ
เมื่อหลานได้รับพัสดุแล้ว ให้นำลูกประไปแช่น้ำเกลืออ่อนๆ 
แล้วแช่ตู้เย็นไว้นะจะทำให้กินได้หลายวัน

หลานอยู่กรุงเทพฯดูแลตัวเองดีๆนะ
 คนกรุงเทพฯ ไม่เหมือนคนบ้านเรา
ที่ยังไงก็เป็นญาติพี่น้องกันทั้งนั้น มีอะไรก็ช่วยเหลือกันได้

ครอบครัวของลุงที่นี่ก็สบายกันดีทุกคน
หลานก็ดูแลตัวเองดีๆด้วยนะ เป็นห่วงหลานๆทุกคนแหละ

รักเป็นห่วงมาก

..ลุงชอบ / กาญจนดิษฐ์..

        ..................................

ยิหวาอ่านจดหมายน้อยๆของลุงชอบแทบน้ำตาซึม
"พี่รอง วาสงสารลุงชอบจัง อุตส่าห์คิดถึงพวกเรา ส่งลูกประมาให้กินอีกแน่ะ "
"ดีแล้ว ผู้ใหญ่เขารัก เอ็นดูเราน่ะซิ 
เขาถึงมีเมตตาคิดถึงเรา ส่งมาให้เราน่ะ
อย่าคิดมากน่ะ เอาลูกประไปแช่น้ำเกลือไป๊ น้องพี่ "
แหมๆ .. พี่รองเหมือนจะปลอบใจ แต่ใช้แรงงานน้องนี่นา อิอิ

" พี่รอง วาทำไม่เป็นอ่ะ พี่รองทำให้หน่อยซิ น๊าๆ นะคะๆ " 
เจอลูกอ้อนของยิหวามีหรือที่พี่รองจะไม่ทำให้น้อง
" วา ไปหยิบกระปุกขนาดกลางที่มีฝาปิดมาไป เดี๋ยวพี่ทำให้ดู "
 พี่รองได้ที สั่งเลย

" ใส่น้ำเปล่าลงไปสักครึ่งกระปุกนะ เติมเกลือป่นลงไปสัก1ช้อนโต๊ะ
คนให้เกลือละลายกับน้ำ เอาลูกประใส่ลงไป
ดูพอดีๆให้น้ำพอท่วมมิดลูกประล่ะ
ปิดฝา แช่ตู้เย็น วางทื้งไว้ ก็แค่นี้เอง ไม่ยากน่ะ " 

พี่สาวรองอธิบายอย่างคนที่เคยผ่านงานมาแล้ว อิอิ 
"อ่อ..ค่ะ พี่รองเก่งจัง ง่ายเนอะ " ยิหวาพูดประจบพี่สาวรอง
" ง่าย วันหน้าก็ทำเองเลยนะยัยวา ไม่ต้องใช้แรงงานพี่ล่ะ "
พี่สางรองมองค้อนควับ (ดีนะที่ยิหวาไม่ส่งตะปูให้สักสองตัว )
...1175928467.gif

   ขณะที่เราสองพี่น้องกำลังวุ่นกับการดองลูกประอยู่นั้น
ลุงเจตน์ผู้ใจดีที่ให้ขนมวาบ่อยๆ แกร้องทักทาย
" อ้าว สองสาวทำอะไรกันน่ะ ลุงเอาขนมมาให้แน่ะ "
" อ่อ .. ลุงเจตน์ ขอบคุณค่ะ วา กำลังดองลูกประน่ะค่ะ "
" หือ ..ลูกประคำเหรอ หรือว่า อะไร กินได้หรือเปล่าล่ะ "
" แล้วลูกประที่ว่า หน้าตาเป็นยังไงล่ะ ชื่อแปลกจัง "
ลุงเจตน์ซักถามเป็นชุด ทำให้ยิหวาอมยิ้มขำ

" ลูกประ เป็นไม้ยืนต้นทางภาคใต้ค่ะลุง คล้ายๆเกาลัดน่ะค่ะ 
มีเปลือกแข็งๆสีน้ำตาลๆ ข้างในมีเนื้อสีขาวๆต้องแกะเปลือกออก
ถึงจะกินเนื้อข้างในได้คะ "
" อ่อ คล้ายเกาลัด ก็คงมีรสชาตมันๆมั้ง ดูข้างนอกเปลือกแข็งๆด้วยนี่ "
ลุงเจตน์ ยังไม่วายสงสัยในลูกประ 

" ภาคใต้ เขาเรียก ลูกประ คะ แต่ภาคกลางบางที่เรียกว่า ลูกกระ 
เพราะมีลักษณะคล้ายกระดองเต่ากระ
คนทางภาคใต้นิยมนำมาแช่ดองน้ำเกลือ หรือไม่ก็ดองพร้อมกับ
สะตอดองน่ะค่ะ "
" อืม.. ก็ดูเหมือนน่าอร่อยนะ เขาก็ต้องแกะเปลือกออกก่อนกินซิ "
" หรือลุงจะกินทั้งเปลือก วา ก็ไม่ห้ามนะคะ อิอิ "
ยิหวา ไม่วายที่จะแซวลุงเจตน์เล่นๆ
" ลูกประเนี่ยนะลุง เท่าที่วาจำได้นะคะ ทางภาคใต้ขายกัน
กิโลกรัมล่ะ 30 - 40 บาทมั้งคะ ตอนนี้ไม่รู้ว่าขายกันยังไงแล้วค่ะ "

" แล้วทางภาคอื่น ที่อื่นไม่มีขายเหรอหนูวา หือ ? " ลุงสงสัย
" วาไม่แน่ใจว่ามีไหม แต่ที่แน่ๆมีเยอะคะที่ จ.นครศรีธรรมราช
ลูกประนี่ เป็นไม้ยืนต้นนะคะ มีเยอะตอนเดือนกรกฏาคม - สิงหาคม "

" แหมๆ ลุงเพิ่งรู้ว่าหนูวาเป็นนักชำนาญด้านพืชศาสตร์ด้วย "
ประโยคนี้ของลุงเจตน์ ทำเอาพี่รองยืนอมยิ้ม
" วา ก็บอกให้ลุงทราบเท่าที่วารู้หรอกคะ แหมๆๆ " 
คราวนี้เป็นทีวา ที่จะมองค้อนลุงบ้างละ อิอิ 
" ลุงว่านะหนูวา ทำไม ไม่เอาลองมาคั่วทรายเหมือนเกาลัดบ้างล่ะ
ท่าทางน่าจะอร่อยพอๆกันมั้ง "
" ไม่ทันแล้วล่ะลุงเจตน์ วานำลูกประไปนอนตีพุงในกระปุกหมดแล้วล่ะคะ"
..1175928467.gif

 4 วันผ่านไป (ไวเหมือนโกหก อิอิ ) ขณะที่ยิหวากำลังนั่งทำงานด้วย
เล่นด้วย กำลังเพลินๆอยู่นั้น เธอนึกขึ้นได้

" ว๊ายๆ พี่รองๆ วา ลืม....." 
ยิหวา (แกล้ง)ร้องเสียงดังพลางทำหน้าตื่นๆ
" ว๊ายๆ ยัยวาๆ ลืมอะไรย่ะหล่อน " 
พี่รองซึ่งเป็นคนบ้าจี้อยู่แล้ว
เธอร้องตกใจเสียงยิหวา สีหน้าตื่นยิ่งกว่าน้องสาวซะอีก
" วาลืม ลืมลูก.....ประ ดอง "
พูดจบ ยิหวาก็หัวเราะคิกคัก ที่แกล้งพี่สาวได้สำเร็จ

" เออ..ใช่ กินได้แล้วมั้งป่านนี้ วาไปเปิดดูซิ " 
" เย้ๆ กินได้แล้ว แต่ว่า แหวะๆ เค็มปะแล่มๆ "
ยิหวาทดลองเอานิ้วจิ้มน้ำเกลือแตะในปากตัวเอง 555

" แต่ว่า เอ.. อร่อยเหมือนกันแหะ ไม่ได้กินนานเลย
ยิ่งเคี้ยว ยิ่งมัน ยิ่งติดฟัน ยิ่งอร่อย 5555 "
วา พูดพลางหัวเราะชอบใจ พี่รองมองค้อนรอบสอง

" คิดถึงลุงชอบเนอะพี่รอง ท่านยังอุตส่าห์คิดถึงพวกเรา
ยังส่งมาให้อีก ค่าส่งตั้งเกือบร้อยบาทแน่ะ เฮ้อ "

ขอบคุณลุงชอบ กาญจนดิษฐ์ ที่ยังคิดถึงหลานๆ 
ยังมีน้ำใจส่งของฝากจากปักษ์ใต้มาให้หลานๆถึงกรุงเทพฯ 

อยากบอกลุงชอบเหลือเกินว่า ลูกประที่ลุงชอบส่งมาให้นั้น
อร่อยมาก ถึงเชลล์ไม่ชวน ก็ควรชิม แหะ..แหะ.. 
...1175928467.gif

                ( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น )

                 kapook_40100.gif				
23 สิงหาคม 2552 16:53 น.

เดินเที่ยว เลี้ยววัดโพธิ์

ฉางน้อย

00530_0.jpg วา มาถึงไหนแล้วล่ะ ? " 
พี่เมี่ยงคำ ถามเบาๆทางโทรศัพท์ขณะที่ยิหวานั่งบนรถเมล์สาย.......
...สายเสมอ อิอิ 
 วา มาได้ครึ่งทางแล้วค่ะพี่ อีกสัก 30 นาที วาคงไปถึงค่ะ 
ยิหวาตอบออกไป
 จ๊ะๆ ได้ๆ งั้นพี่ไปนั่งรอที่ริมน้ำ
 ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์แล้วกันนะจ๊ะ 
พี่เมี่ยงคำพูดเพราะๆเสมอสำหรับยิหวา 

30 นาทีผ่านไปไวเหมือนโกหก อิอิ 

 ตกลงว่า ไปวัดโพธิ์นะวา เดินไปแป๊บเดียว
แค่ 5ป้ายรถเมล์เองน่ะ ไหวไหมเนี่ยะเราน่ะ 
 ไหวคะ .. แค่ 5 ป้ายรถเมล์(เอง) 
 ยิหวาตอบ พลางลอบกลืนน้ำลาย อิอิ 
 ก็เห็นวาชอบไปวัด หาข้อมูล ถ่ายรูปไง
 พี่เลยอยากพาวาไปวัดโพธิ์ไง สวยดีนะ 
  l17.gif

5 ป้ายรถเมล์ของพี่เมี่ยงคำ เหมือนไกล เหมือนเหนื่อย
แต่จริงๆแล้วไม่ไกลอย่างที่คิดไม่เหนื่อยอย่างที่คาดเอาไว้
เพราะสองข้างทางมีสิ่งให้น่าตื่นตาตื่นใจได้ตลอดเวลา
ไม่ว่าศูนย์พระเครื่องชื่อดังย่านท่าพระจันทร์ 
ร้านอาหารต่างๆในย่านนั้น

เดินลัดเลาะเข้าออกตรอกซอกซอยดูวิถีชีวิตริมแม่น้ำเจ้าพระยา
โน่น ร้านทำฟันปลอม อยู่ปากทางเข้าร้านอาหารลานเท
..ด้านซ้ายมือนั่นก็เป็นวัดมหาธาตุฯ 
เดินเรื่อยเปื่อยมองสองฝากฝั่งถนน จนกระทั่งถึงป้ายรถเมล์ที่ท่าช้าง
ที่นี่มีสินค้าแบกะดินวางบนทางเท้าขายเยอะแยะมากมายไปหมด
ไม่ว่า เสื้อผ้า อาหาร ผักสด ผลไม้ตามฤดูกาล
 หรือสินค้าจุ๊กจิ๊กสำหรับวัยรุ่น

ยิหวาแอบคิดในใจ เดี๋ยวขากลับต้องย้อนกลับมาถ่ายรุปอีกสักครั้ง
ก็เห็นว่าสินค้าต่างๆสวยดีน่ะ ครั้นจะถ่ายตอนนี้เลยก็กระไรอยู่
เกรงใจพี่เมี่ยงคำ เพราะความตั้งใจจริงๆของพี่เมี่ยงก็คือ  วัดโพธิ์

 เหนื่อยไหมวา ร้อนไหม ?" 
...พี่เมี่ยงถามด้วยความห่วงใย ทั้งๆที่ตัวเองเพิ่งจะสร่างไข้มาหมาดๆ
 ไหวคะ ไม่ต้องห่วง พี่เมี่ยงซิ เพิ่งหายป่วย มาเดินตากแดดร้อนๆอีก "
 พี่น่ะ หายดีแล้วล่ะ เห็นวามีความสุขในสิ่งที่วาชอบ พี่ก็สุขใจแล้วจ้า " 
กำลังใจแอบใส่ความหวานมีให้นิดหนึ่งจากพี่เมี่ยง ห้ามอิจฉาล่ะ อิอิ 
.l17.gif

เย้ๆๆ....ในที่สุดก็ถึงวัดโพธิ์ซะที อิอิ (แอบดีใจเล็กๆ) 
" วาอยากถ่ายรูปอะไร ข้อมูลยังไงบอกมา พี่แนะนำให้ "
" แล้วพี่เมี่ยงพอจะรู้ว่าที่นี่มีอะไรที่น่าสนใจไหมล่ะคะ? "
" คำว่า วัด น่ะ มีเยอะแยะไปหมดแหละวา 
ไม่ว่าพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ
หรือ โบราณวัตถุ หรือ..."

วา แอบทำหน้าย่นนิดหนึ่ง แต่แล้วก็ตาโต เมื่อพี่เมี่ยงคำบอกว่า ....
" หรือ แม้แต่ ตุ๊กตาจีน งั้นเราไปดูตุ๊กตาจีนกันไหม ? "
" พี่ว่า วาต้องชอบแน่ๆเลย น่ารักเชียวนะวา " 
" ไปๆๆ ไปดูตุ๊กตาจีนค่ะพี่เมี่ยง วาอยากดู คงน่ารัก เนอะ " 

คราวนี้วาเป็นฝ่ายทั้งดึงทั้งพี่เมี่ยงคำเดินดุ่มๆไปซะเอง
"นอกจากตุ๊กตาจีนแล้วยังมีไม้ดัดอีกนะวา 
ไหนจะรูปปั้นฤษีดัดตนอีกล่ะ "
" นี่ๆวาๆ ในวัดนะ มาเกาะแขนเกาะขาได้ไง เขาถือรู้ไหม ? 
พี่เมี่ยงท้วงติง
" ก็วาไม่รู้นี่ ลืมตัวไปนะ แหมๆๆ " ยิหวาไม่วายที่จะเถียง

" ในวัดโพธิ์ ยังมีเขามออีกนะวา " พี่เมี่ยงบอก วาทำหน้า งง 
"เขามอ คือไรคะพี่เมี่ยง ? " คน งง ถาม

" เขามอ หรือสวนหย่อมเป็นสวนหิน ปลูกไม้ประดับสมัยรัชกาลที่3
โดยก่อหินเป็นภูเขาและปลูกต้นไม้ รวมทั้งจัดวางสถูป
และเสาโคมแบบจีนหรือแม้แต่นำตุ๊กตาจีนมา
ประดับวางไว้เพื่อความสวยงาม "  
พี่เมี่ยงอธิบายยาวเหยียด ยิหวาถึงบางอ้อก็คราวนี้เอง
" เขามอในวัดโพธิ์น่ะ มีทั้งหมดประมาณ 24 ลูกมั้ง ถ้าพี่จำไม่ผิดนะ "
"เช่น เขาประดู่ เขาสะเดา เขาโศก เขาฤษีดัดตน อีกหลายชื่อน่ะวา "
" อ๋อ.. ค่ะ ... " คำรับรู้ที่ดีที่สุดสำหรับยิหวาเขาละ อิอิ 
สำหรับยิหวานั้น หูก็ฟัง สมองก็สั่งการ ตาก็จ้องตุ๊กตาหิน
มือก็เตรียมเก็บภาพน่ารักๆเหล่านั้น 
..l17.gif

" เดี๋ยวพี่พาไปดูเขาฤษีดัดตนด้านโน้นดีกว่านะวา ตามมา "
พี่เมี่ยงพูดพลางเดินนำหน้า 
ทำให้ยิหวาที่กำลังเก็บภาพน่ารักๆวิ่งตามแทบไม่ทัน

"เขาฤษีดัดตน เป็นสวนสุขภาพนะวา 
เอ..สร้างในรัชกาลที่เท่าไหร่ วาทายซิ ? "
อีกแล้วนะพี่เมี่ยง.....ชอบให้วาทายในสิ่งที่วาไม่รู้เรื่อยเลย 

ยิหวา แอบคิดในใจ แต่ปากตอบว่า ..
" วา ทายไม่ถูกหรอกคะ ยอมแพ้แล้วกัน " 
" ถ้าพี่จำไม่ผิดนะ เขาฤษีดัดตนสร้างในรัชกาลที่ 1 นะ 
ตอนแรกจะปั้นด้วยดินแต่เพิ่งเปลี่ยนเป็นหล่อเนื้อชินในรัชกาลที่ 3 มั้ง "
" ท่าฤษีดัดตนน่ะ เมื่อก่อนมี 80 ท่า ตอนนี้เหลือ 24 ท่าแล้วล่ะ "
" 24 ท่าที่เหลือ รวมท่าช้างกับท่าพระจันทร์ด้วยไหมคะ ? "
ยิหวาพูดเหมือนคนซื่อๆ(บื้อ)แถมยังทำตาใสไม่รู้เรื่อง 
กวนโทสะดีนักล่ะ 55

"อีกที่หนึ่งที่พี่อยากพาวาไปดูก็คือ พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล 
ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 - รัชกาลที่4
สร้างด้วยกระเบื้องเคลือบสีต่างๆแตกต่างกันออกไปตามแต่สมัยรัชกาล
" เหรอคะ เหมือนน่าสนใจเลยเนอะ ไปดูก็ได้ค่ะ " วา พยักหน้า

"พระมหาเจดีย์แต่ละองค์นี่นะวา เป็นเจดีย์ย่อไม้สิบสองเพิ่มมุม สูง 42เมตร "
พี่เมี่ยงคำอธิบายได้เหมือนผู้ชำนาญการราวกับไกด์มืออาชีพเลยนะนั่น อิอิ
" อ๋อ.. ค่ะ " ยิหวา ฟังแล้วเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง
แต่ก็รับรู้ในสิ่งที่พี่เมี่ยงคำอธิบายให้ฟัง 
แม้ว่ามือจะสาละวนกับการเก็บภาพสวยๆในวัด

" ฟังอยู่ไหมเนี๊ยะวา ..? " พี่เมี่ยงอดที่จะถามไม่ได้ 
" ฟังไงคะ แต่วาก็ถ่ายรูปด้วยนี่นา เห็นไหมคะ แสงกำลังดีเลยค่ะ " 
แถไปได้เรื่อยยัยวา แหะ.. แหะ.. 

" วาเชื่อไหม วัดโพธิ์น่ะ เดินวันเดียว เที่ยวไม่ทั่วหรอก 
เวลาน้อยไง นอกจากวันที่ว่างๆจริงๆถึงจะมานั่งเล่นได้ทั้งวัน "
" ไว้วันหน้าเนอะพี่เมี่ยง ค่อยมาเดินเล่นกันใหม่ วันนี้กลับเหอะ
พี่เมี่ยงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว "
" อืม.. แล้วแต่วานะ เก็บภาพพอใจหรือยังล่ะ " พี่เมี่ยงถาม
" พอใจค๊า ขอบคุณมากๆที่พาเที่ยวนะคะ "
.
l17.gif
  นานพอสมควร ที่เราสองคนเดินเที่ยว(เกือบ)รอบวัดโพธิ์
" พี่เมี่ยง เหนื่อยไหม เหมือนไม่สบายอีกหรือเปล่าคะ เหงื่อเยอะเชียว "
ยิหวาถามพี่เมี่ยงคำด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นว่าเพิ่งฟื้นไข้ด้วย
" กลับกันดีไหมพี่เมี่ยง พี่จะได้พักผ่อนก่อนนะคะ "
" ทำไมล่ะ จะหนีไปเที่ยวไหนอีกล่ะซิ " พี่เมี่ยงดักคออย่างรู้ทัน

บางครั้งก็แอบน้อยใจนิดๆที่เขาไม่เห็นความห่วงใยของเราเลย
แถมยังแปลเจตนาความห่วงใยของเราเป็นอย่างอื่นซะอีกแน่ะ
" ถ้าอยากให้พี่กลับ กลับก็ได้ พี่ส่งวาขึ้นรถก่อนนะ " 
พี่เมี่ยงยอมจำนน

" ไม่เป็นไร วากลับเองได้ วาส่งพี่ขึ้นรถก่อนนะ
 เดี๋ยววาจะเดินเล่นต่อแถวท่าช้าง ท่าพระจันทร์ด้วย 
กะว่าจะถ่ายรูปสองข้างทางด้วยค่ะ "

พี่เมี่ยงฟังยิหวาพูดแล้วทำสีหน้างุนงง
หาว่าไม่บอกกันจะได้เดินเป็นเพื่อน
" นะคะพี่เมี่ยง พี่กลับก่อนนะ วันหน้าค่อยมาเดินที่วัดโพธิ์กันใหม่นะคะ "
" ไม่ล่ะ ไม่ว่าวันไหน พี่จะไม่ไปนั่งรอวาที่
ริมน้ำธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์อีกแล้วล่ะ 
พี่จะไม่ไปเดินที่วัดโพธิ์กับวาอีกต่อไปแล้วด้วย " 

ยิหวาได้ฟังคำพูดของพี่เมี่ยงก็อึ้งไปเหมือนกัน ดีนะที่พี่เมี่ยงพูดต่อว่า.

"ต่อไปพี่ไม่ไปวัดโพธิ์กับวาอีกแล้ว เพราะพี่จะพาไปเดินถ่ายรูปที่วัดอื่นไง
วัดที่วาไม่เคยไปน่ะ ดีไหม ? " 

พี่เมี่ยงพูดพลางอมยิ้มที่แกล้งวาได้สำเร็จ 

อ้าวววววว .. แล้วกันซิพี่เมี่ยง แกล้งเค้านี่นา ฝากไว้ก่อนเถอะโอฬาร
สักวันจะเอาคืน ฮึ...
l17.gif16147.gif

                 ( ฉ า ง น้ อ ย   ท ะ เ ล ไ ร้ ค ลื่ น )  

                     kapook_40100.gif
........................................................................
 (ขอโทษเพื่อนๆด้วยนะคะ 

ฉางน้อยทำข้อมูลที่นำมาประกอบภาพหายไปหมดเลยค่ะ 

แทบร้องไห้ เลยมีแต่ภาพเปล่าๆให้เพื่อนๆได้ดูกันคะ

....โปรดให้อภัยคนน่ารักสักครั้ง อิอิ แหวะๆๆ 

 .....ติ๊ง ต่อง ...ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ.....)				
11 สิงหาคม 2552 16:02 น.

รอวัน..พี่ฉันนั้นคืนคอน

ฉางน้อย

........757790jtgqfq1bw1.gifเป็นเวลาสี่เดือนแล้วซินะที่พี่ชายฉันจากบ้านต่างเมืองไปอยู่แดนไกล
ป่านนี้พี่ชายคนดีจะเป็นอย่างไรบ้างไหมหนอ
กินอิ่ม นอนหลับบ้างหรือเปล่า  45_20070212233309..gif
พี่ชายจะหนาว ร้อน หรือเย็น เป็นเช่นไรอยากรู้จัง

นึกถึงวันแรกก็ใจหาย วันที่พี่ชายมาบอกว่า..
" วา วีซ่าของเราผ่านแล้วนะ " 
คำว่า เรา พี่ชายใช้แทนตัวเองเสมอๆ
พี่ชายพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆไม่มีแววตื่นเต้นดีใจ
พี่ชายคงกำลังสับสน ว่าจะไปดีหรือไม่อย่างไร
ทั้งๆที่ตอนแรกๆพวกเราสี่คนพี่น้องลุ้นกันแทบตาย ขอให้วีซ่าผ่านไวๆ 

ฉันรุ้ พี่ชายมีความใฝ่ฝันรักในอาชีพที่เขาทำ
เขาได้สั่งสมประสบการณ์มามากพอควร
เพียงแต่ในเมื่อโอกาสมาเยือน พี่ชายมีความตั้งใจว่าจะลอง
ไปใช้ประสบการณ์ชีวิตนอกบ้านต่างเมืองดูบ้าง
" ดีแล้วละ ไปทำงานที่โน่นเถอะ อาจจะดีกว่าที่บ้านเราขณะนี้ 
ไม่ต้องห่วงน้องๆน่ะ อยู่กันได้สบายมาก " 
วา บอกพี่ชายไปแบบนั้น   
จริงๆแล้วพี่ชายก็คงใจหายเหมือนกัน 
ไม่เพียงแต่พี่ชายหรอกนะที่ใจหาย
พวกเราสามคนพี่น้องก็ใจแป้วไปหน่อยหนึ่ง
พวกเราสี่คนพี่น้องต่างนิ่งอึ้งไม่มีใครกล่าวอะไรออกมาสักคำ
กลัวเหลือเกินว่า น้ำตาจะรินไหลด้วยความใจหาย

" เราไม่ไปได้ไหมนี่ ? " พี่ชายถามพลางหัวเราะกลบเกลื่อน
ความรู้สึกสับสนภายในใจตัวเอง
" บ้าซิ วีซ่าผ่านแล้วนะ กว่าพี่จะผ่านมาจุดนี้ได้ 
เพราะความตั้งใจของพี่ไม่ใช่เหรอ "
วา คุยกับพี่ชาย
พี่ชายนิ่งเงีบย ยอมจำนนต่อเหตุและผลของน้องสาวคนนี้
...1175928467.gif

" วา เราเข้าไปในห้องได้ป่าว ? " 
เสียงพี่ชายร้องเรียก พลางเคาะประตูหน้าห้องเบาๆ
" อ้าว เข้ามาซิ มีไรป่าว ? " ยิหวาแปลกใจ
เพราะร้อยวันพันปี พี่ชายไม่มีล่ะที่จะย่างกรายเข้าห้องน้องสาว
" วา สอนเราเช็คเมล์หน่อยซิ เขาทำไงบ้าง ลืมหมดแล้วล่ะ "
" อ๋อๆ ได้ซิ เดี๋ยวสอนคุยเอ็มด้วยนะ ไม่ยากน่ะ " 
วาตอบ พลางอมยิ้ม 

หนึ่งชั่วโมงผ่านไปที่พี่ชายมึนๆกับวิธีการสอนของยิหวา 
แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ยิหวานั้นสมัครเมล์ใหม่ให้พี่ชาย พร้อมกันนั้นก็สอนแค่โปรแกรมสำคัญๆ แค่นั้นเอง

พี่ชายตัวดีกลับไปห้องเขา สักพักหิ้วกระเป๋าเดินทางใบโตเข้ามา
พร้อมของใช้จำเป็น
" วา เราเอาเสื้อผ้ามาจัดในห้องวานะ " 
พี่ชายพูดพร้อมวางกระเป๋ากลางห้อง

เป็นครั้งแรกที่ฉันแทบน้ำตาซึมกับคำพูดของพี่ชาย
ฉันรู้ ความผูกพันของพี่น้อง ยังไงก็ตัดกันไม่ขาด
อาจเคยทะเลาะกันบ้างด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่คราจะห่างไกลกัน
พี่น้องก็คือ พี่น้องหาใช่คนอื่นคนไกลไม่ พี่น้องจะยังรักและคิดถึงกันเสมอ

" เอางี้ซิ ไปจัดของในห้องใหญ่กันไหม เดี๋ยววาช่วยจัดให้ด้วย นะ " 
..1175928467.gif

ห้องใหญ่ หมายถึง ห้องนอนขนาดใหญ่ของพี่สาวสองคน
 ซึ่งมีเนื้อที่เยอะกว่าห้องวา
" วา เราเอาชุดนอนไปด้วยดีไหม ? "
" วา เราเอามีดโกนหนวดไปด้วยดีป่าว ? "
" วา เราเอาถุงเท้าไปกี่คู่ดีนะ ? " 
" วา แล้วไม้แขวนผ้าล่ะ เราต้องเอาไปด้วยไหมนี่ เนอะ ? "
" วา กางเกงยีนส์เอาไปกี่ตัวดีล่ะ ? "
" วา.....แล้ว.....แล้ว ............ "   45_20070212233259..gif

สารพัดคำพูดจากพี่ชาย เป็นครั้งแรกกระมังที่พี่ชายเห็นวาเป็นคนสำคัญ 
ถามโน่น ถามนี่ตลอด วาได้แต่แอบอมยิ้มคนเดียว อิอิ แค่นึกขำในใจน่ะ

" เฮ้ย เอาไปทำไม ชุดนอนนะ ที่โน่นเมืองหนาวจะตายไป ต้องชุดหนาๆซิ "
" มีดโกนน่ะ เอาไปเผื่อเลยเยอะๆ หนวดของตัวเองขึ้นไวจะตายไป "
" ถุงเท้าเหรอ เอาไปเลย 7 คู่ 7วันพอดี เนอะ "
" ไม้แขวนเสื้อไม่ต้องเอาไปมั้ง..ไม่รู้ (ว่ะ) " 
" กางเกงยีนส์หนาๆเอาไปเยอะๆเลย ที่โน่นแพงด้วยนะ "
" อ่อ..ยาจำเป็น ของส่วนตัวอย่าลืมล่ะ แยกไว้ต่างหากด้วย "
" ตั๋วเดินทาง หนังสือเดินทาง วีซ่า สมุดบันทึก เก็บดีๆอย่าให้หายล่ะ "
" ...รู้แล้วน่ะ บอกอยู่ได้ น่ารำคาญ " 
ประโยคสุดท้ายเป็นคำพูดของพี่ชาย
ยิหวารู้ เขาพูดตัดบท(และตัดความรำคาญ)ไปยังงั้นเอง 
..1175928467.gif

 และแล้ววันเดินทางไกลของพี่ชายก็มาถึง
เพื่อนบ้านรวมทั้งน้องๆด้วย
ไปกันหลายคน เลยต้องเอารถไปสองคัน 
ทั้งๆที่คิดว่าไปกันแค่คนสนิทไม่กี่คน
สารพัดคำปลอบโยนและกำลังใจที่มีให้จากคนรอบข้าง
อดที่จะ ทำให้พี่ชายน้ำตาซึมเสียมิได้   kea_20051111194536.gif

ตอนแรกแค่น้ำตาซึม แต่สุดท้ายพี่ชายก็เสียน้ำตาออกมาจริงๆ อิอิ 
วา ที่ว่าใจแข็งแล้วยังต้องเบือนหน้าหนีแอบกลั้นน้ำตาเอาไว้
ไม่อยากให้พี่ชายเห็นว่า น้องสาวนั้นอ่อนแอ

เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารเข้าไปด้านในเพื่อรอขึ้นเครื่อง
ยิหวาแตะไหล่พี่ชายเบาๆพลางพยักหน้าแต่ไม่มีคำพูดใดๆออกมา
เพียงฝ่ามือสัมผัสเบาๆไม่ต้องเสกสรรค์คำพูด 
ไม่ต้องกล่าวเรียงร้อยถ้อยคำใดๆมาเอ่ยอ้าง แต่ฉันคิดว่าพี่ชายคงรู้

โปรดจงรับรู้นะ น้องสาวคนนี้ยังรักและรอการกลับมา
ของพี่ชายคนนี้เสมอ   motion_20.gif
ส่งยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากลา " ไปเถอะ โชคดีล่ะ "

พี่ชายเดินหายลับไปกับกลุ่มนักเดินทาง ซึ่งแต่ละคนอาจมีเป้าหมายต่างกัน
บางคนอาจมีจุดมุ่งหมายของชีวิตที่ไม่เหมือนกัน
พวกเขาเหล่านั้นจะเดินทางไปไหนกันนะ 
จะมีใครสักคนไหนที่จะเป็นเพื่อนร่วมทางกับพี่ชายของวา
..1175928467.gif

 ขากลับ รถที่พวกเรานั่งมานั้นติดแช่ไฟแดงเป็นชั่วโมง
ซึ่งก็ไม่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิเท่าใดนัก
ประมาณ 1 ทุ่มกว่า ท้องฟ้าเริ่มมืดมิด
 ฉันนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างรถผ่านกระจกใสๆ 

โน่น ..บนท้องฟ้านั่น เครื่องบินลำนั้นส่องไฟประกายวิบวับ
จะใช่เป็นลำที่พี่ชายเดินทางหรือเปล่านะ
ฉันแหงนมองตามจนสุดสายตา    5556.gif
แล้วพี่ชายจะก้มมองเราผ่านกระจกใสบนเครื่องบินหรือเปล่านะ
ฉันนั่งคิดๆแล้วก็ใจหายนิดๆ ครั้นนึกถึงเยาว์วัยในวันวาน

" น้องๆ มาดูเรือบินเร็ว "
เสียงพี่ชายเรียกพี่ๆน้องๆมาดูเครื่องบินด้วยความตื่นเต้น
เด็กบ้านนอกอย่างพวกเราจะ
ตื่นเต้นดีใจทุกครั้งที่เห็นเครื่องบิน บินผ่านน่านฟ้า
หน้าบ้านเราแล้วแหวกว่ายหายไปในกลุ่มเมฆสีขาวบ้างหม่นบ้าง

ยิ่งถ้าเป็นกลางคืนด้วยแล้ว จะเห็นแสงไฟระยิบระยับจาก
เครื่องบินส่องประกายลงมาน่าชม เด็กๆก็จะวิ่งตามแสงไฟนั้น
จนสุดสายตากันเลยทีเดียว   45_20070212233348..gif

" พี่ชาย ทำไมเรือบินถึงลอยได้ ? " ฉันเคยถามด้วยความอยากรู้
หลากหลายคำถาม มีให้พี่ชายได้ปวดหัวเสมอๆ

ครั้งเยาว์วัยในวันวานฉันและพี่ชายมีโอกาสได้แค่แหงนมองเครื่องบิน
แต่ค่ำคืนนี้แล้วที่พี่ชายมีโอกาสได้นั่งเครื่องบินไปเมืองนอกแดนไกล
สุดท้ายพี่ชายก็สมหวังอย่างที่ตั้งใจไว้จริงๆด้วย

" แล้วเราจะเอาโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่มาฝากนะ " 
พี่ชายเคยพูดเย้าฉันครั้งก่อน
" ไม่ล่ะ เอาจิงโจ้ตัวโตๆดีกว่า " จริงๆแล้วใจฉันไม่หวังอะไรจากพี่ชายเลย
ขอเพียงให้พี่กินอิ่มนอนหลับ ทำงานด้วยความสุขกายสบายใจ
น้องสาวคนนี้ก็มีความสุขแล้ว
..1175928467.gif

เหลียวมองกลับมาที่เดิมๆ โน่น ต้นข่อยไม้ดัดของพี่ชาย
แตกกิ่งแตกใบรอการกลับมาตกแต่งกิ่งจากพี่ชายอยู่นะ

นั่น ต้นลีลาวดีหลากหลายพันธ์ออกดอกสีสรรสวยงาม
รอการกลับมาให้พี่ชายได้เชยชมความงามจากพวกเขานะ

สวนหย่อม สนามหญ้าหน้าบ้านยังคงเขียวขจี พวกเขาคง
รอต้อนรับการกลับมาของพี่ชายเช่นกันนะ 1176812863.gif
แก้วกาแฟสีเทาหม่นใบโปรดใบนั้นวางสงบนิ่งที่เดิม
เขาก็คงรอการกลับมาของพี่ชายอีกเช่นกัน

วันแรกที่พี่ชายเดินทางไปแล้ว ทุกอย่างเงียบเหงา
กระนั้นฉันก็ยังคงทำทุกอย่างด้วยความเคยชิน 
แม้แต่ชงกาแฟยามเช้าวางไว้ให้พี่ชาย

กาแฟแก้วนั้นส่งกลิ่นหอมกรุ่นเย้ายวนจมูก
ควันลอยอ้อยอิ่งโชยจากแก้วใบนั้นแล้วล่องลอยหายไปในที่สุด
ฉันนึกขึ้นได้ พี่ชายไม่อยู่แล้วนี่นะ 
รอยยิ้มเหงาๆผุดขึ้นที่มุมปากนิดหนึ่ง
ใช่ซินะ ...พี่ชายไปไกลลิบแล้วนี่
..1175928467.gif

ป่านนี้แถวปักษ์ใต้บ้านเรา 
เจ้านกบินหลาคงบินกลับรังเดิมของเขาแล้วซินะ
เจ้านกบินหลา แม้จะบินไปหากินที่อื่น
 แต่สุดท้ายพวกเขาก็กลับคืนรัง กลับคืนคอน
ยิ่งเป็นเจ้านกบินหลาดงด้วยแล้ว เป็นนกที่รักและ
หวงถิ่นฐานเดิมมากทีเดียว    
เมื่อถึงเวลา เจ้าบินหลาดงก็กลับคืนถิ่นที่เคยอาศัย

เจ้าบินหลาดงยังบินกลับคืนคอน
 แล้วพี่ชายฉันล่ะ ตอนนี้พี่อาจจะทำงาน
เก็บเงิน พร้อมทั้งเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตในต่างแดนอีกสักพัก

แต่ถ้าพี่อยู่ทางโน้นไม่มีความสุขกายไม่สบายใจ ก็ขอให้กลับมาบ้านเรา
บ้านเรายังมีข้าว มีน้ำให้กิน มีที่ให้หลับนอนสบายใจไม่ต้องไปซื้อไปเช่า
ทุกคนที่นี่ ยังรอคอยการบินกลับคืนคอนของพี่ชายนะ
..1175928467.gif

                         ( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น )   

             16147.gif				
6 สิงหาคม 2552 20:46 น.

เมื่อรักดั่งแก้วร้าว

ฉางน้อย

17_1245929746.gifเธอ..ฉัน..ต่างมีแก้วน้ำคนละใบ

แต่ละใบ..สวย..ใส..เปราะบาง

เวลาผ่านไป..แก้วที่เคยใส..กลับหมองหม่น

มีสิ่งรอบข้าง..มากระทบกระแทกมากขึ้น

และแล้ว..แก้วที่เคยสวย..กลับมีร่องรอยขีดข่วน

จนกระทั่ง..เวลาผ่านไป..นานเข้า..นานเข้า..

แก้วใบนั้น..ก็มีรอยร้าว..ในที่สุด

..แก้วที่มีรอยร้าว..สักวันมันคงแตก..

.227.gif

หัวใจ..ความรัก..ดั่งแก้วใส..ที่อยู่ในมือ

อาจจะอ่อนไหว..อ่อนแอ..เปราะบางต่อสิ่งที่มากระทบ

เธอ..ฉัน..เคยยึดมั่นในสัญญา

จะดูแลหัวใจ..ของกันและกัน

แต่บางครั้ง..หัวใจคนเรา..ก็เหมือนแก้ว

เมื่อเกิดรอยร้าว..ก็ยากจะประสานให้เหมือนเดิม

.227.gif

แก้วร้าว..อาจทำลาย..ทิ้งไปได้

แต่หัวใจคน..มิอาจทำลายลงได้..อย่างแก้วบางๆ

สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือ..รอยร้าวในหัวใจ

ที่จะบั่นทอนความเชื่อใจ..ความไว้ใจที่เคยมีให้แก่กัน

สุดท้าย..ก็จะเป็นคนแปลกหน้า..ของกันและกัน

227.gif..

แก้วที่มีรอยร้าว..สักวันคงแตก

แต่ตอนนี้..หัวใจฉันแหลกสลาย..เกินเยียวยา

เธอมาเอ่ยคำลา..บอกว่า..ความสัมพันธ์ของสองเรา..จบลง ณ.ตรงนี้..

เธอบอกว่า..พอนะ ..พอกันที..จะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว..

ฉันเพิ่งรู้..ตลอดเวลาที่ผ่านมา..เธอคงอดทนกับฉันมามากพอ

ขอโทษ..คงไม่เพียงพอ..กับคำว่า อดทน..สำหรับเธอ

ขอบคุณ..วันเวลา..ที่พาเรา..มาให้รู้จัก..และรักกัน

น้ำตาใสๆ..รินไหลอาบแก้ม..ขอยอมรับคำพิพากษาจากเธอ..

... ฉันเผลอทำแก้วใบนั้นร้าวไปตอนไหนกันนะ ? ...

           192.gif

                ( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น ) 

                     kapook_40100.gif				
1 สิงหาคม 2552 20:48 น.

(เขาว่า) คนใต้หัวหมอ

ฉางน้อย

002-33.jpg

     ( ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต)

" ไอ้วาน่ะใจร้อน ชอบทำตัวหัวหมอ ทำใจนักเลงเหมือนเตี่ยมัน สักวันเหอะ จะรู้สึก " 

ประโยคนี้หวนกลับเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง 
หลังจากห่างหายเนิ่นนานไปแล้วครั้งหนึ่งสมัยอยู่บ้านต่างจังหวัด
ฉันไม่เข้าใจ ทำไมนะ แค่เราเอาตัวรอด
 รักษาผลประโยชน์ของตัวเอง เผลอๆยังรวมไปถึงคนอื่นด้วย 
การที่เราพูดอะไรที่ถูกต้อง ทำไมเขาชอบมองว่า คนใต้หัวหมอ 

นั่นซิ ทำไมต้องมาเน้นคำว่า คนใต้ด้วยนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
คนใต้หัวหมอ อย่างงั้นเหรอ ไม่หรอก
 สถานการณ์รอบข้างต่างหากทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมา

เหตุเกิดเพราะว่า พี่ชายโทรไปหาเตี่ยที่บ้านต่างจังหวัดนั่นเอง
" เตี่ย แย่แล้ว ไอ้วามันไปมีเรื่องกับพวกวินมอไซค์ปากซอย "
เสียงพี่ชายร้อนรนโทรไปฟ้องเตี่ย 

" เหรอ..เออดีแล้ว ให้มันได้รู้รสชาตของชีวิตซะบ้าง ฮ่าๆ "
เตี่ย พูดเหมือนไม่สนใจต่อคำฟ้องของพี่ชาย แต่พอรุ่งเช้า
เตี่ยมายืนยิ้มเผล่หน้าประตูบ้าน นั่นหมายถึงว่า เตี่ยยังห่วงลูกสาวคนนี้อยู่เหมือนกัน

" ไหนๆ ไอ้ตัวไหนที่มันบังอาจมีเรื่องกับลูกสาวเตี่ย ? "
" เตี่ยน่ะ ชอบให้ท้ายยัยวานัก มันถึงได้เหลิงไม่กลัวใคร " 
พี่สาวคนโตต่อว่าเมื่อเจอหน้าเตี่ย

" เขาเรียกว่า รักษาและปกป้องศักดิ์ศรีของคนใต้เว้ย 
เราคนใต้ตัวดำก็จริง แต่ใจไม่ดำอย่างคนบางคนในเมืองหลวงนะ
คนใต้ไม่เคยไปรังแกใครก่อน แต่ถ้าใครมารังแก อย่าไปยอมนะลูก "
ประโยคสุดท้าย เตี่ยหันมาพูดกับฉันอย่างรู้กัน
...115.gif
เช้าวันนั้น เตี่ยมาถึง ก็เดินไปมา 2 - 3 รอบระหว่าง
วินมอเตอร์ไซค์หน้าบ้านฉัน แต่ไร้วี่แววคนที่มีเรื่องกับฉัน

" เอ่อ...ขอเชิญไอ้วา เอ๊ย คุณชื่อวา ไปคุยที่ สน......หน่อยครับ "
รถหวอตำรวจเข้ามาจอดนิ่งสนิทที่หน้าบ้าน
 ตำรวจนายหนึ่งเดินมาหน้าบ้านถามหาคนชื่อ " วา " 

( งานเข้าแล้วไหมล่ะยัยวา อิอิ )

พี่ๆ 3คน มองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่เตี่ยยังคงนั่งนิ่งสงบ

" หนูเองคะ ชื่อวา ทำไมคะ มีอะไรคะ ? " ยัยวายังแกล้งทำหน้าซื่อ(บื้อ)
ถามไปอย่างงั้นแหละทั้งที่รุ้ต้นสายปลายเหตุดี

" อ้าว ..ผู้หญิงหรือครับ ผมคิดว่า ผู้ชาย แหะ..แหะ.."
 ตำรวจนายนั้นทำหน้างงเล็กน้อยถึงปานกลาง พลางยิ้มแหยๆ
" ผู้หญิงแล้วทำไมล่ะ ตีหัวคนไม่ได้หรือไง " 
ยิหวาพูดด้วยอารมณ์พาลพาโล จึงโดนพี่สาวคนรอง
หยิกเข้าให้ที่ซี่โครงด้านขวา

" ตำรวจก็ดีแต่คดีอย่างงี้ จับหมวกกันน๊อค จับไพ่ 
ทีคดีอื่นปล้นฆ่า เคยจับได้บ้างไหมล่ะ "
ยิหวายังไม่เลิกพาล คราวนี้พี่สาวคนโตเขม็งตาเขียวใส่

" เอ่อ..ขอเชิญไปคุยกันที่ สน...ดีกว่านะครับ ขอเชิญขึ้นรถครับผม" 
ครั้งที่สองที่ตำรวจเอ่ย

" ไม่ต้องเอารถตำรวจมารับหรอก ไปเองได้ 
รับรองไม่หนี ต้องใส่กุญแจมือด้วยไหมล่ะ ? " ยัยวา ยังโมโหไม่หาย
" ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับคุณวา เดี๋ยวเจอกันนะครับ "
" เจอซิ นั่งแท็กซี่ไปเองได้ "

" เตี่ยไม่ต้องไปนะ เดี๋ยววาไปกับพี่สาวสองคนเอง 
ไว้วาโดนอุ้มลงถังแดง เตี่ยค่อยตามไปนะ "
ยิหวา ยังไม่วายทะเล้นกับเตี่ย อิอิ 

" อ้าวๆ เฮ้ยๆ พี่สองคนไม่ไปไม่ได้เหรอวา " พี่สาวสองคนอิดออด 
" จะไปไหม....ห๋า... " คราวนี้ยิหวาตาเขียวใส่พี่ๆสองคนบ้างแล้ว 
" ไปก็ไป " ....... พี่สาวสองคนไปแบบอ่อยๆหมดแรง อิอิ 
..115.gif

" เอ่อ..ตอนที่วินมอไซค์มาแจ้งความครั้งแรกนะ ผมคิดว่าคนชื่อวา น่าจะเป็นผู้ชาย แต่คิดคาด " 
ตำรวจนายนั้นยศอะไรไม่ได้สนใจ พูดคุยพลางหัวเราะแหะ..แหะ..
"คดีทำร้ายร่างกาย ยอมความตกลงกันได้ 
แต่โดนปรับ 500 บาทนะครับคุณวา เพราะ
ถือว่า เจตนา " ตำรวจเอ่ยชี้แจง

" นายป้อม หนุ่มวินฯ เขาบอกว่า เขานั่งคร่อมมอไซค์อยู่ๆ
คุณก็มาถึบเขาก่อน พอเขาล้มลง คุณก็ซ้ำเขา จริงไหมครับ ? "

" ใช่..จะตั้งข้อหาเพิ่มหรือไงจ่า ? " ยิหวาถามไปงั้น ไม่รุ้หรอกว่าหมู่หรือจ่า
" เปล่าครับ ตอนแรกผมไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ผมเห็นคุณ ผมเชื่อแล้วครับ "
 " ผมเชื่อแล้วครับว่า คนใต้หัวหมอจริงๆ " ตำรวจนายนั้นพูดพลางหัวเราะ

" คุณตำรวจ ผมเจ็บตัวฟรีซิ ขอเรียกค่าทำขวัญด้วยได้ไหมครับเนี่ยะ ? "
นายป้อม หนุ่มวินมอไซค์ปากแมวร้องโอดครวญขึ้นมาทันทีเชียว
มันน่าจับมาดีดหูนักล่ะ 

" ไปเอาที่เตี่ยชั้นโน่น กล้าจริงไหมล่ะ ? ยิหวาชักโมโห 
จะไม่ให้โมโหได้ไง มีเรื่องทะเลาะกับคนอื่น พี่ชายก็ด่าซ้ำ
แล้วค่าปรับอีก 500 คงต้องให้พี่ชายมาจ่ายให้อีกล่ะซิ เฮ้อ เซ็ง.....

" อย่าทะเลาะกันครับ ขนาดอยู่บนสน.นะครับเนี่ยะ " ตำรวจส่ายหน้า
" ก็หนูไม่มีตังค์จ่ายนี่ ..." ยิหวา อ้างดื้อๆ
" ตกลงว่า คุณวาเขาไม่มีเงินจ่ายนะครับ 
แล้วคุณเป็นผู้ชายนะไปมีเรื่องกับผู้หญิง ไม่เป็นการสมควรนะครับ
แถมยังโดนตีหัวอีก เป็นผม ผมคงอายไม่กล้ามาแจ้งความหรอกครับ "

นี่ เป็นครั้งแรกที่ฉันนึกรักตำรวจอย่างจับใจ อิอิ ไม่รักได้ไง 
ขอบคุณที่ทำให้ฉันไม่ต้องเสียค่าทำขวัญอีก 500

.... ตำรวจที่รักของประชาชน 55555
..115.gif
" เดี๋ยว วา กดเบอร์โทรหาพี่ศักดิ์หน่อยนะลูกนะ " 
เตี่ยพูดกับลูกๆไพเราะเสมอ อ่อนหวานแต่อย่าอ่อนไหว
 เตี่ยสอนไว้จำได้ๆ อิอิ 

" เตี่ยจะให้พี่ศักดิ์มาคุยกับพวกวินนี่ซะหน่อยแล้ว " 
" อย่าไปยุ่งกับวินฯเขาเลยเตี่ย ให้เรื่องจบๆไปเหอะ " 
พี่สาวคนโตค้าน 

" ไม่ได้ซิ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ มันจะเหลิง มันเป็นใคร
มันคิดว่าพวกลูกๆอยู่กันเอง แบบไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล มันถึงได้ย่ามใจ"
เสียงของเตี่ยเข้มพอที่จะทำให้ไม่มีลูกคนไหนกล้าต่อปากต่อคำ

สักพัก พี่ศักดิ์ก็มาถึง เดินไปถามหาชื่อ นายป้อม หนุ่มวินฯ
ที่มีเรื่องกับฉัน ไม่เจอตัวนายป้อม แต่เพื่อนๆเล่าให้ฟังว่า ..

" ไอ้ป้อม มันไม่กล้าอยู่แล้วครับ มันพูดกับผมว่า..
ขนาดลูกสาวยังกล้าตีหัว แล้วนี่พ่อมาเอง กูไม่ตายเลยหรือวะ " 
"มันยังบอกอีกว่า แม้แต่ตำรวจ ยังไม่เข้าข้างมัน "

สรุปแล้ว นายป้อม หนุ่มวินมอเตอร์ไซค์คนนั้นเขากลับไปอยู่บ้านที่
ต่างจังหวัดแล้วจริงๆด้วย

" เฮ้ย..ไอ้วา พี่ถามจริงๆเถอะ มีอะไรกันถึงได้เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ "
พี่ศักดิ์เก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว ถามยิหวาในเย็นวันนั้น
" ก็ไม่มีอะไร ..คนปากแมว แซวผู้หญิง " 
" นั่นซิ เขาแซวว่าอะไรล่ะ ถึงได้ไปบู๊กับเขาแบบนั้น " 
พี่ศักดิ์คาดคั้น
" ก็มันแซววา นี่.. ว่า.. ขาว...." ยิหวาเริ่มชักสีหน้าแดงๆ
" แล้วไงต่ออย่าอ้ำอึ้ง " เหมือนพี่ศักดิ์จะรู้ ยังซักถามอยู่นั่นแหละ
" มันว่า วา ขาว ..น่าเจี๊ยะ โอ๊ย พอแล้วไม่ต้องถาม อายนะ " 
ยิหวา แกล้งทำเสียงดังขู่พี่ศักดิ์ 
" 5555... แต่เออ ดีแล้วที่มันโดนแบบนั้น

ถ้าพี่อยู่มันคงได้เจี๊ยะลูกปืนของพี่ด้วยนะนี่ "
พี่ศักดิ์พูดพลางนั่งหัวเราะราวกับสิ่งที่ฉันได้เจอมานั้นขบขันซะเต็มประดา
...115.gif
คืนนั้นเตี่ยนั่งคุยอะไรเยอะแยะมากมายให้ลูกๆฟังทั้ง4คน
" คำว่านักเลงน่ะ ไม่ใช่แค่นักเลงแค่กายภายนอก
ไม่ใช่ว่า สักยันต์ทั้งตัวแล้วจะเป็นนักเลงนะลูก "
" แต่สิ่งเหล่านั้น เขาทำเพื่อเป็นเกราะป้องกันจิตใจพวกเขาเองต่างหาก
สักยันต์เพื่อให้คนอื่นเกรงกลัว ให้คู่อริเกรงใจ แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิด"

" นักเลงน่ะ เขาวัดกันที่ใจนะลูกนะ น้ำใจนักเลง 
แพ้ก็คือแพ้ ไม่ใช่ว่า บอลแพ้ แต่คนไม่แพ้ แบบนี้ไม่ใช่
น้ำใจนักเลง หากเขาชนะ ก็คือชนะด้วยหัวใจ ไม่ไปเหยียดหยามผู้แพ้"

" เตี่ยไม่เคยสอนให้ลูกๆของเตี่ยเป็นนักเลงหัวไม้หรือคนหัวหมอ
แต่ต้องรู้จักสิ่งถูกผิด ยอมรับในสิ่งที่ถูกต้อง ห้ามไปรังแกคนอื่นก่อน
แต่ถ้าใครรังแกก่อน เราก็ต้องสู้ อย่าคิดว่า เราเป็นผู้หญิง เราสู้ไม่ได้
ต้องมีสติ คิดให้รอบคอบ " เตี่ยพูดพลางมองหน้าลูกๆทุกคน

" อย่าง วา ก็เหมือนกัน ยังดีที่ลูกไปมีเรื่องกับพวกเขาแค่คนเดียว
ยังดีที่เขาไม่มีพรรคพวกมาช่วย
 ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นแล้วลูกคงเอาตัวไม่รอด 
ทีหลังอย่าประมาทนะลูกนะ ข่มใจ อดทนต่อสิ่งยั่วยุ "

วา นิ่งฟังเงียบ รู้ตัวว่า อาจใจร้อนไปด้วย วู่วามไปนิดก็ยอมรับ

" เตี่ย แค่อยากบอกว่า ลูกอย่าไปกลัวพวกที่เป็นนักเลงแค่กาย 
สักยันต์เต็มหลังเต็มตัว 

แต่อยากให้ลูกกลัว เกรง คนที่เป็นนักเลงด้วยหัวใจ
ขอให้ลูกกลัวคนดีๆ เพราะนั่นเขามีคุณธรรม มีความเป็นนักเลงเต็มร้อย"
...115.gif
เหตุการณ์นี้แม้ว่าผ่านมานาน แต่ฉันก็ยังจำได้ดี
จำได้ในคำสอนต่างของเตี่ย
จำได้ในกิริยาความห่วงใยในความปลอดภัยของลูกสาว
จำได้ในเหตุการณ์ต่างๆที่แม้นานผ่านมาแล้วแต่ยังเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น

ขอบคุณสำหรับคำสอนสิ่งดีๆของเตี่ย
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่เตี่ยมีให้ลูกสาวคนนี้
ขอบคุณสำหรับสนับมือกับมีดพับอันนั้นค่ะเตี่ย 
   แฮ่..แฮ่.....45_20070212233259..gif086.gif45_20070212233341..gif ( ฉางน้อย ทะเลไร้คลื่น ) 45_20070212233341..gif				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฉางน้อย
Lovings  ฉางน้อย เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงฉางน้อย