14 กุมภาพันธ์ 2549 09:49 น.
จีด้า
20 ปีย่าง21 แล้วสินะที่วันนี้ของทุกปีฉันก็ต้องมานั่งเหงา
นั่งฟังเพลงคนเดียวอยู่อย่างนี้ ทั้งๆที่ปีนี้ฉันคิดว่าฉันจะไม่เหงาอีกแล้ว
เพราะฉันมีคนๆหนึ่งคอยห่วงใย พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์
แม้ฉันจะยังไม่เคยพบกันกับเขาจริงๆ จังๆ สักที
แต่ฉันก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่เขามอบให้ ผ่านตัวอักษรของความคิดถึง
ผ่าน sms บ้าง E-mail บ้าง
แต่...เปล่าเลย
ฉันกลับเหงากว่าเดิม แถมยังเจ็บปวดเหลือเกินกับหัวใจข้างซ้ายที่โดนกระชากออกไป
ด้วยน้ำมือของคนที่เขาบอกว่า ..ไม่อยากจะถลำลึกกับฉันไปมากกว่านี้
เขาบอกว่าเขาคิดถึงฉันมากขึ้นทุกวัน
จนกลัวว่าวันหนึ่งเขาจะทนไม่ได้
วันนี้เขาจึงขอ..จากไป
แต่ยิ่งไปกว่านั้นเขาบอกกับฉันว่า
เขาชอบผู้หญิงคนใหม่แล้ว
เดือนนี้ที่เขาไม่ได้โทรมาหาฉัน ที่เขาบอกว่าเงินหมด เขาโกหก
เขาขอโทษ เขาบอกว่าเขาโทรหาเธอคนนั้นได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว
ฉันควรจะเสียใจไหมนะ
วันที่ฉันไม่อยากจะให้เกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้นจนได้
เขาบอกเลิกฉัน
............................
............................
ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างที่เขาสามารถจะหามาอ้างได้
ฉันบอกกับตัวเองว่าฉันไม่ได้เสียใจ
ที่น้ำตาไหลก็เพราะฝุ่นเข้าตา
วันสุดท้ายที่เราคุยกัน ก่อนโทรไปหา
ฉันคิดคำพูดไว้มากมายว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี
แต่เอาเข้าจริงๆ ฉันได้แต่นิ่งอึ้งที่ได้ยินเสียงทักทายแบบหงุดหงิด
จากคนที่ฉันคิดถึงแทบขาดใจ
ก้อนสะอื้นแล่นมาจุกที่คอ
ยากเย็นเหลือเกินที่ฉันจะกลืนมันลงไปได้
คุยอยู่นาน...จนในที่สุดฉันก็ได้รูว่า
ฉันคงไม่ได้อะไรๆ ที่เคยเป็นของฉันกลับคืนมา
ฉันสูญเสียเขาไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
เสียงของฉันเริ่มขาดหาย
คำพูดใดๆ ไม่สามารถหลุดลอดออกมาจากปากของฉันได้
เขาถามฉันว่า....ฉันร้องไห้หรือ??
ฉันจะตอบได้อย่างไรว่าใช่ ......ตอนนี้น้ำตาฉันกำลังไหล
หัวใจฉันเหมือนถูกบีบ แรงขึ้นๆ
ฉันเหนื่อยเหลือเกิน อยากจะล้มตัวลงนอน
และหลับให้สนิทมันเสียเลยในตอนนั้น
ฉันไม่อยากฟังอะไรๆ อีกแล้ว
สุดท้าย....เขาบอกให้ฉันรักษาตัวให้ดี
เขาบอกว่าเป็นห่วงฉัน....และขอให้ฉันหาแฟนใหม่ได้เร็วๆนะ
แฟนใหม่งั้นเหรอ...ฉันจะไปหาจากที่ไหนล่ะ??
ฉันจะขอบคุณเขาดีไหมนะที่..จากฉันไป
ทั้งๆที่เขาเคยบอกเอาไว้ว่า
"ไม่ว่าอย่างไรเราจะไม่บอกเลิกเธอ ...จนกว่าเธอจะบอกเลิกเราเอง"
ตอนนั้นทำไมฉันถึงเชื่อเขานะ
วันนี้ฉันยังใช้ชีวิตปกติ (พยายามให้ปกติ)
ในรั้วมหาวิทยาลัย ที่ดูยังไงๆ
ก็ดูไม่เหมือนมหาวิทยาลัยในวันเก่าๆที่ฉันมีเธอ
.....เสียดายจังที่ฉันจะไม่ได้เล่าวีกรรมเปิ่นของฉันให้เธอฟังอีกแล้ว
.....วันนั้น..ถ้าฉันไม่หงุดหงิด
พูดคุยกับเธอดีๆ เหตุการณ์จะเป็นอย่างววันนี้ไหมนะ...ฉันถามตัวเอง
หึ..คงไม่หรอก สักวันมันก็คงจะกิดขึ้นอยู่ดี ไม่ช้าก็เร็ว
สุดท้าย ฉันอยากบอกว่าขอโทษ ..ที่วันนั้นฉันทำตัวไม่น่ารัก
ฉันหวังว่าเธอคงไม่ใส่ใจ เพราะเธอมีคนที่ต้องเอาใจใส่
จนเกินจะคิดถึงเรื่องของฉันใช่มั้ยล่ะ
เสียดายจังที่ความรู้สึกดีๆ ของเจบลงเพียงแค่ ชาญชาลาที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4
ถ้าฉันมีเวทย์มนตร์ก็คงดี.....
วันนี้ผ่านมานานแค่ไหนแล้วนะที่เธอไม่อยู่
ฉันไม่ได้คิดถึงเธอแล้ว
แค่แอบไปซื้อชามะนาวที่แสนเกลียดมากินเวลาเครียดๆ (ของชอบของเธอไงล่ะ)
หยิบสุดบันทึกเล่มเก่าๆมาเปิดอ่าน
น้ำตาไหลจนไม่มีจะให้ไหล
ฉันยังแอบได้ยินเสียงอันอ่อนนุ่ม อบอุ่นของเธอ ..จากที่ไกลแสนไกล
ขอบคุณมากมายกับเสียงเพลงในวันเก่าๆ ที่เธอร้องให้ฉันฟัง
วันนั้นเธอซ้อมดนตรี....อยากบอกว่าเธอเล่นกีตาร์ได้เพราะมาก
เสียดายที่ฉันไม่มีโอกาสได้ฟังเธอเล่นระนาดเอกที่เธอถนัด
แต่คงมีคนฟังแทนฉันแล้วสินะ^^
..คงถึงเวลาแล้วใช่ไหม...ที่ฉันจะต้องก้าวเดินเสียที
ขาฉันเป็นอัมพาตมาตั้งแต่ตอนนั้น..วันที่ฉันล้ม
เธอช่วยฉันหน่อยได้ไหม
ถือซะว่ามันเป็นคำขอร้องสุดท้ายจากฉัน..คนที่เธอเคยรัก
ช่วยเก็บฉันไว้ในหัวใจ...แม้จะเป็นซอกหลืบที่ลึกสุดก็ตาม
forfet me not แปลว่าอย่าลืมฉัน
และที่สำคัญช่วยอวยพรให้ฉันสมหวังกับความรักครั้งใหม่
ช่วยไปถามผู้ชายคนหนึ่งที...ว่าเขาล้มลงเมื่อวันนั้น
เขาลุกขึ้นได้หรือยัง??
เขาบ่นอยู่เสมอว่าไม่มีใครรักเขา..
บอกเขาทีว่าผู้หญิงคนหนึ่งเป็นห่วง...เท่านี้แหละที่ฉันต้องการ
............
............แล้วฉันจะถามเขาด้วยตัเองว่าเขาพร้อม
"จะมานับหนึ่งด้วยกันกับฉันไหม"
แม้เขาจะตอบว่า "ไม่" แต่ฉันก็ดีใจ
ที่ฉันสามารถคิดจะเริ่มต้นใหม่กับใครๆ ได้เหมือนเดิม
....แม้ว่าฉันจะไม่เคยลืมเธอเลย