16 ตุลาคม 2548 06:19 น.
จิตรนัย
ใจเหลวแหลกแทรกร้าวหนาวเหน็บรัก
ราวเรื่องหักหนักหน่วงลวงล่อหลอก
ก้าวย่างทางลางเลือนเหมือนช้ำชอก
เพื่อนรักบอกกลอกกลับยับเยินคราว
คราวเยินยับกลับกลอกบอกรักเพื่อน
ชอกช้ำเหมือนเลือนลางทางย่างก้าว
หลอกล่อลวงหน่วงหนักหักเรื่องราว
รักเหน็บหนาวร้าวแทรกแหลกเหลวใจ
11 ตุลาคม 2548 16:18 น.
จิตรนัย
จันทร์ทอแสงนวลผ่องส่องผืนน้ำ
ความทรงจำริมหาดเสียงสาดคลื่น
สายลมเย็นแสงดาวพราวกลางคืน
กลับมายืนมองจันทร์เหมือนวันวาร
ดาวระยิบระยับวะวับฟ้ า
โปรดเมตตาอาลัยใคร่สงสาร
หัวใจคนเจ็บแปลบแสบร้าวราน
เกินทนทานทุกอย่างแทบปางตาย
น้ำตานองหมดแล้ววาดแววหวัง
คนเคยรักกลับเกลียดชังช่างใจหาย
ทิ้งความทรามเป็นเพื่อนเถื่อนทำลาย
แตกสลายรักแยกทางอย่างเลือดเย็น
วอนจันทร์ดาวช่วยความรักอีกสักครั้ง
ลบความหลังหัวใจอย่าได้เห็น
ลบความคิดรักขื่นฝืนลำเค็ญ
แล้วจะเป็นคนใหม่ยอมไร้รัก
5 ตุลาคม 2548 20:40 น.
จิตรนัย
พิษความรักร้ายกาจขนาดไหน
พอมีใครล่วงรู้เป็นครูสอน
ความคิดถึงห่วงหาแสนอาทร
มีแง่งอนนี่หรือคือความรัก
เคยได้ยินคนบอกยามชอกช้ำ
หลังโดนทำหัวใจให้อกหัก
สิ่งที่คนค้นหามานานนัก
สุดท้ายมักหม่นหมองต้องทุกข์ใจ
อีกคนหนึ่งบอกนิยามของความรัก
ยิ่งรู้จักอนาคตยิ่งสดใส
รักอ่อนหวานอบอุ่นละมุนละไม
รักสั่งได้ทุกอย่างช่างมากมาย
ฟังคำตอบมุมมองสองเหตุผล
แต่ใจตนกลับคว้างรักห่างหาย
ตราบใจฉันห่อเหี่ยวยังเดียวดาย
ในความหมายรักนั้นฉันไม่รู้